เมนู

พระวินัยปิฎก มหาวรรค [1.มหาขันธกะ] 3. มุจลินทกถา
3. มุจลินทกถา
ว่าด้วยเหตุการณ์ขณะประทับอยู่ ณ ควงต้นมุจลินท์

เรื่องทรงเปล่งอุทานปรารภความสุข
[5] ครั้นล่วงไป 7 วัน พระผู้มีพระภาคทรงออกจากสมาธินั้น แล้วเสด็จ
จากควงต้นอชปาลนิโครธไปยังควงต้นมุจลินท์1 ครั้นถึงแล้ว จึงประทับนั่งโดย
บัลลังก์เดียวเสวยวิมุตติสุขอยู่ ณ ควงต้นมุจลินท์เป็นเวลา 7 วัน
ครั้งนั้น ได้บังเกิดเมฆใหญ่ขึ้นในสมัยมิใช่ฤดูกาล เป็นฝนเจือลมหนาวตกพรำตลอด
7 วัน ลำดับนั้น พญานาคมุจลินท์ได้ออกจากที่อยู่ของตนไปโอบรอบพระกายของ
พระผู้มีพระภาคด้วยขนด 7 รอบ แผ่พังพานใหญ่ปกคลุมเหนือพระเศียรด้วยหวังว่า
“ความหนาว อย่าได้เบียดเบียนพระผู้มีพระภาค ความร้อน อย่าได้เบียดเบียน
พระผู้มีพระภาค สัมผัสจากเหลือบ ยุง ลม แดด สัตว์เลื้อยคลานอย่าได้เบียดเบียน
พระผู้มีพระภาค”
ครั้น 7 วันผ่านไป พญานาคมุจลินท์รู้ว่า ฝนหายปลอดเมฆแล้ว จึงคลาย
ขนดออกจากพระกายของพระผู้มีพระภาค จำแลงร่างของตนเป็นมาณพ ยืนประนมมือ
ถวายอภิวาทอยู่เบื้องพระพักตร์
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคทรงทราบเนื้อความนั้นแล้ว จึงทรงเปล่งอุทานนี้
ในเวลานั้นว่า

พุทธอุทานคาถา
ความสงัด2เป็นสุขของบุคคลผู้สันโดษ
ผู้มีธรรมปรากฏแล้ว ผู้เห็นอยู่

เชิงอรรถ :
1 มุจลินท์ คือ ต้นจิกนา ตรงกับภาษาอังกฤษว่า “The Tree Barringtonai Acutangula” ต้นมุจลินท์นี้
เป็นเจ้าแห่งต้นมุจละ (PALI-ENGLISH DICTIONARY, P.535, COL. 1, Edited by T.W. RHYS
DAVIDS and WILLIAM STEDE)
2 ความสงัด ในที่นี้หมายถึงธรรมเป็นที่สงบระงับสังขารทั้งปวง คือ นิพพานนั่นเอง (วิ.อ. 3/5/10)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 4 หน้า :8 }


พระวินัยปิฎก มหาวรรค [1.มหาขันธกะ] 4.ราชายตนกถา
ความไม่เบียดเบียนคือความสำรวมในสัตว์ทั้งหลาย เป็นสุขในโลก
ความปราศจากราคะคือความล่วงกามทั้งหลายได้ เป็นสุขในโลก
ความกำจัดอัสมิมานะ(ความถือตัวว่าเป็นนั่นเป็นนี่)เสียได้
เป็นสุขอย่างยิ่ง1
มุจลินทกถา จบ

4. ราชายตนกถา
ว่าด้วยเหตุการณ์ขณะประทับอยู่ ณ ควงต้นราชายตนะ

เรื่องทรงพบกับตปุสสะและภัลลิกะ
[6] ครั้นล่วงไป 7 วัน พระผู้มีพระภาคทรงออกจากสมาธินั้น แล้วเสด็จ
จากควงต้นมุจลินท์ไปยังควงต้นราชายตนะ2 ครั้นถึงแล้วจึงประทับนั่งโดยบัลลังก์เดียว
เสวยวิมุตติสุขอยู่ ณ ควงต้นราชายตนะเป็นเวลา 7 วัน
ครั้งนั้น พ่อค้า 2 คนชื่อตปุสสะและภัลลิกะ เดินทางไกลจากอุกกลชนบท
มาถึงที่นั้น ขณะนั้น เทวดาผู้เป็นญาติร่วมสายโลหิตของตปุสสะและภัลลิกะพ่อค้า
ทั้งสอง ได้กล่าวว่า “ท่านผู้นิรทุกข์ พระผู้มีพระภาคพระองค์นี้ เมื่อแรกตรัสรู้
ประทับอยู่ ณ ควงต้นราชายตนะ ท่านทั้งสองจงไปต้อนรับพระองค์ด้วยข้าวตูผงและ
ข้าวตูก้อนปรุงด้วยน้ำผึ้งเถิด การบูชาของท่านทั้งสองจักเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขสิ้น
กาลนาน”
ต่อมา ตปุสสะและภัลลิกะ ได้ถือข้าวตูผงและข้าวตูก้อนปรุงด้วยน้ำผึ้งเข้าไป
เฝ้าพระผู้มีพระภาค ถวายอภิวาทแล้วยืนอยู่ ณ ที่สมควร กราบทูลว่า “พระองค์

เชิงอรรถ :
1 ขุ.อุ. 25/11/105
2 ราชายตนะ แปลกันว่า ต้นเกด ชื่อภาษาอังกฤษว่า “Buchania Latifolia” และอธิบายเพิ่มเติมว่า
เป็นต้นไม้หลวง เป็นที่สิงสถิตของเทพแห่งนางไม้ทั้งหลาย (PALI-ENGLISH DICTIONARY, P.569,
COL. 2, Edited by T.W. RHYS DAVIDS and WILLIAM STEDE)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 4 หน้า :9 }