เมนู

พระวินัยปิฎก มหาวรรค [1.มหาขันธกะ] 12.อุรุเวลปาฎิหาริยกถา
ชฎิลอุรุเวลกัสสปะก็กราบทูลว่า “ข้าแต่มหาสมณะ ข้าพเจ้าไม่หนักใจเลย
หากแต่ว่าในโรงไฟนั้น มีพญานาคที่ดุร้าย มีฤทธิ์ เป็นอสรพิษ มีพิษร้าย
มันอย่าได้ทำร้ายท่าน”
พระผู้มีพระภาคได้ตรัสต่อไปว่า “พญานาคไม่ทำร้ายเรา ท่านกัสสปะท่าน
โปรดอนุญาตโรงไฟเถิด”
ชฎิลอุรุเวลกัสสปะก็กราบทูลว่า “ข้าแต่มหาสมณะ นิมนต์ท่านอยู่ตามสบาย
เถิด”
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคได้เสด็จเข้าไปสู่โรงไฟ ทรงปูเครื่องลาดหญ้า
ประทับนั่งคู้บัลลังก์ ตั้งพระกายตรง ดำรงสติไว้เฉพาะหน้า

ปาฏิหาริย์ที่ 1
เรื่องโรงบูชาไฟ
[38] ครั้งนั้น พญานาคนั้นได้เห็นพระผู้มีพระภาคเสด็จเข้าไป ก็โกรธขึ้ง
ไม่พอใจ บังหวนควัน
ทันใดนั้น พระผู้มีพระภาคทรงพระดำริว่า “ถ้ากระไร เราพึงครอบงำเดช
ของพญานาคนี้ด้วยเดชของเรา ไม่ให้ระคายผิว หนัง เนื้อ เอ็น กระดูก และ
เยื่อกระดูก” ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคทรงสำแดงอิทธาภิสังขารเช่นนั้นบังหวนควัน
พญานาคทนการลบหลู่ไม่ได้ จึงพ่นไฟใส่ทันที
ฝ่ายพระผู้มีพระภาคก็ทรงเข้าเตโชกสิณ แล้วโพลงไฟสู้บ้าง
เมื่อทั้งสองฝ่ายบันดาลให้เกิดไฟขึ้น เรือนไฟได้ลุกโพลงโชติช่วงดุจทะเลเพลิง
ลำดับนั้น ชฎิลเหล่านั้นพากันล้อมเรือนไฟกล่าวกันว่า “ท่านผู้เจริญทั้งหลาย
มหาสมณะรูปงามคงจะถูกพญานาคทำร้ายเป็นแน่”
ครั้นราตรีนั้นผ่านไป พระผู้มีพระภาคก็ทรงครอบงำเดชของพญานาคนั้นด้วย
เดชของพระองค์ ไม่ให้ระคายผิว หนัง เนื้อ เอ็น กระดูก และเยื่อกระดูกแล้ว


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 4 หน้า :48 }


พระวินัยปิฎก มหาวรรค [1.มหาขันธกะ] 12.อุรุเวลปาฎิหาริยกถา
ทรงจับพญานาคขดลงในบาตรแสดงแก่ชฎิลอุรุเวลกัสสปะว่า “ท่านกัสสปะ นี่พญานาค
ของท่าน เราครอบงำเดชของมันด้วยเดชของเราได้แล้ว”
ขณะนั้น ชฎิลอุรุเวลกัสสปะคิดว่า “มหาสมณะมีฤทธิ์มาก มีอานุภาพมากจริง
ถึงกับครอบงำเดชของพญานาคที่ดุร้าย มีฤทธิ์ เป็นอสรพิษ มีพิษร้ายได้ด้วยเดช
ของพระองค์ แต่ไม่เป็นพระอรหันต์เหมือนเราแน่”

คาถาสรุป
[39] ณ ที่แม่น้ำเนรัญชรา พระผู้มีพระภาค
ได้ตรัสกับชฎิลอุรุเวลกัสสปะว่า “กัสสปะ ถ้าท่านไม่หนักใจ
คืนนี้เราจะขอพักในโรงไฟ”
ชฎิลอุรุเวลกัสสปะกราบทูลว่า
“ข้าแต่มหาสมณะ ข้าพเจ้าไม่หนักใจเลย
ข้าพเจ้าหวังความผาสุก จึงห้ามท่านว่า ที่โรงไฟนี้
มีพญานาค เป็นสัตว์ดุร้าย มีฤทธิ์ เป็นอสรพิษ มีพิษร้าย
มันอย่าได้ทำร้ายท่าน”
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
“มันคงไม่ทำร้ายเรา กัสสปะ ท่านโปรดอนุญาตโรงไฟเถิด”
พระผู้มีพระภาคทรงทราบว่าชฎิลอุรุเวลกัสสปะได้อนุญาตให้แล้ว
ไม่ทรงครั่นคร้าม ทรงปราศจากความกลัว เสด็จเข้าไป
พญานาคเห็นพระผู้มีพระภาคผู้แสวงหาคุณเสด็จเข้าไป
ก็ไม่พอใจ จึงบังหวนควัน
ฝ่ายพระผู้มีพระภาคทรงเป็นมนุสสนาคะ มีพระทัยชื่นบาน
มีพระทัยไม่ขัดเคือง ก็ทรงบังหวนควันในโรงไฟนั้น

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 4 หน้า :49 }