เมนู

พระวินัยปิฎก มหาวรรค [3. วัสสูปนายิกขันธกะ] 116. วัสสานุปคันตัพพัฏฐาน
เรื่องเข้าจำพรรษาในที่แจ้ง
สมัยนั้น ภิกษุทั้งหลายเข้าจำพรรษาในที่แจ้ง เมื่อฝนตก พากันวิ่งเข้า
โคนไม้บ้าง ชายคาบ้าง
ภิกษุทั้งหลายจึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ
พระผู้มีพระภาครับสั่งว่า “ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงเข้าจำพรรษาในที่แจ้ง
รูปใดเข้าจำ ต้องอาบัติทุกกฏ”

เรื่องภิกษุไม่มีเสนาสนะจำพรรษา
สมัยนั้น ภิกษุทั้งหลายไม่มีเสนาสนะเป็นที่เข้าจำพรรษา เดือดร้อนเพราะ
ความหนาวบ้าง ความร้อนบ้าง
ภิกษุทั้งหลายจึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ
พระผู้มีพระภาครับสั่งว่า “ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่มีเสนาสนะ ไม่พึงเข้าจำ
พรรษา รูปใดเข้าจำ ต้องอาบัติทุกกฏ”

เรื่องเข้าจำพรรษาในกระท่อมผี
สมัยนั้น ภิกษุทั้งหลายเข้าจำพรรษาในกระท่อมผี1 มนุษย์ทั้งหลายพากันตำหนิ
ประณาม โพนทะนาว่า “เหมือนพวกสัปเหร่อ”
ภิกษุทั้งหลายจึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ
พระผู้มีพระภาครับสั่งว่า “ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงเข้าจำพรรษาในกระท่อมผี
รูปใดเข้าจำ ต้องอาบัติทุกกฏ”

เชิงอรรถ :
1 กระท่อมผี หมายถึงกระท่อมที่เขาสร้างไว้ในป่าช้าเป็นที่เก็บศพ (ปาจิตฺยาทิโยชนา 321 ม.) หรือเตียง
ตั่งที่เขาตั้งไว้ในป่าช้าและเทวสถาน และเรือนที่สร้างก่อแผ่นศิลา 4 ด้าน และวางแผ่นศิลาทับไว้ข้างบน
(โกดังเก็บศพ) ทรงห้ามเข้าจำพรรษาในสถานที่ดังกล่าวนี้ แต่จะสร้างกุฎีหรือกระท่อมอื่นในป่าช้าแล้ว
เข้าจำพรรษาได้ ไม่ทรงห้าม (วิ.อ. 3/204/151-152, สารตฺถ.ฏีกา 3/204/345)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 4 หน้า :321 }


พระวินัยปิฎก มหาวรรค [3. วัสสูปนายิกขันธกะ] 117. อธัมมิกกติกา
เรื่องเข้าจำพรรษาในร่ม
สมัยนั้น ภิกษุทั้งหลายเข้าจำพรรษาในร่ม มนุษย์ทั้งหลายพากันตำหนิ ประณาม
โพนทะนาว่า “เหมือนพวกคนเลี้ยงโค”
ภิกษุทั้งหลายจึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ
พระผู้มีพระภาครับสั่งว่า “ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงเข้าจำพรรษาในร่ม
รูปใดเข้าจำ ต้องอาบัติทุกกฏ”

เรื่องเข้าจำพรรษาในตุ่ม
สมัยนั้น ภิกษุทั้งหลายเข้าจำพรรษาในตุ่ม มนุษย์ทั้งหลายพากันตำหนิ ประณาม
โพนทะนาว่า “เหมือนพวกเดียรถีย์”
ภิกษุทั้งหลายจึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ
พระผู้มีพระภาครับสั่งว่า “ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงเข้าจำพรรษาในตุ่ม
รูปใดเข้าจำ ต้องอาบัติทุกกฏ”

117. อธัมมิกกติกา
ว่าด้วยการตั้งกติกาไม่ชอบธรรม

เรื่องตั้งกติกาไม่ชอบธรรม
[205] สมัยนั้น พระสงฆ์ในกรุงสาวัตถีได้ตั้งกติกาเช่นนี้ว่า ในระหว่างพรรษา
ไม่พึงให้บรรพชา
หลานชายของนางวิสาขามิคารมาตาเข้าไปหาภิกษุทั้งหลายแล้วขอบรรพชา
ภิกษุทั้งหลายกล่าวอย่างนี้ว่า “คุณ พระสงฆ์ได้ตั้งกติกาเช่นนี้ว่า ในระหว่าง
พรรษา ไม่พึงให้บรรพชา คุณจงรอจนกว่าภิกษุทั้งหลายเข้าจำพรรษา ออกพรรษา
แล้วจึงบวชได้”

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 4 หน้า :322 }