เมนู

พระวินัยปิฎก มหาวรรค [1.มหาขันธกะ] 49. ติรัจฉานคตวัตถุ
และพึงได้อัตภาพมนุษย์ฉับพลัน” คิดได้ว่า พระสมณะเชื้อสายศากยบุตรเหล่านี้เป็น
ผู้ประพฤติธรรม ประพฤติสงบ ประพฤติพรหมจรรย์ กล่าววาจาสัตย์ มีศีล
มีกัลยาณธรรม ถ้าเราจะพึงบรรพชาในพวกพระสมณะเชื้อสายพระศากยบุตรไซร้
ด้วยอุบายอย่างนี้ เราก็จะพึงพ้นจากกำเนิดนาค และได้อัตภาพมนุษย์ฉับพลัน
จึงแปลงกายเป็นชายหนุ่มเข้าไปหาภิกษุทั้งหลายขอบรรพชา
ภิกษุทั้งหลาย ได้ให้บรรพชาให้อุปสมบท ต่อมา พระนาคอาศัยอยู่ในวิหาร
หลังสุดท้ายกับภิกษุรูปหนึ่ง ครั้นราตรีย่ำรุ่ง ภิกษุรูปนั้นตื่นขึ้นไปเดินจงกรมอยู่ในที่
แจ้ง เมื่อเธอออกไปแล้ว พระนาคก็วางใจก้าวลงสู่ความหลับ วิหารทั้งหลังเต็ม
ด้วยงู ขนดยื่นออกทางหน้าต่าง ครั้นภิกษุนั้นผลักบานประตูจะเข้าวิหาร ได้เห็น
วิหารทั้งหลังเต็มด้วยงู ขนดยื่นออกทางหน้าต่าง ก็ตกตะลึงร้องเสียงดัง
ภิกษุทั้งหลายวิ่งเข้าไปหาถามภิกษุนั้นว่า “อาวุโส ท่านร้องเสียงดังทำไม”
ภิกษุนั้นบอกว่า “ท่านทั้งหลาย วิหารทั้งหลังเต็มด้วยงู ขนดยื่นออกทาง
หน้าต่าง”
ทันใดนั้น พระนาคได้ตื่นขึ้นเพราะเสียงนั้น รีบนั่งบนอาสนะของตน
ภิกษุทั้งหลายถามว่า “อาวุโส ท่านเป็นใคร”
พระนาคตอบว่า “ผมเป็นนาค ขอรับ”
ภิกษุทั้งหลายถามว่า “อาวุโส ท่านได้ทำเช่นนี้เพื่ออะไร”
พระนาคได้บอกเรื่องนั้น ภิกษุทั้งหลายจึงกราบทูลให้พระผู้มีพระภาคทรงทราบ
ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งให้ประชุมภิกษุสงฆ์เพราะเรื่องนี้เป็นต้นเหตุ
ได้ตรัสกับพระนาคนั้นว่า “พวกเจ้าเป็นนาค ไม่มีความงอกงามในพระธรรมวินัยนี้
ไปเถิด นาค เจ้าจงเข้าจำอุโบสถในดิถีที่ 14 ดิถีที่ 15 และดิถีที่ 8 แห่งปักษ์นั้น
แหละ ด้วยอุบายอย่างนี้ เจ้าจักพ้นจากกำเนิดนาค และได้อัตภาพมนุษย์ฉับพลัน”
นาคครั้นได้ทราบว่าตนไม่มีความงอกงามในพระธรรมวินัยนี้แน่นอน ก็มีทุกข์
เสียใจ หลั่งน้ำตาส่งเสียงดังหลีกไป

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 4 หน้า :176 }