เมนู

พระวินัยปิฎก ภิกขุนีวิภังค์ [4. ปาจิตติยกัณฑ์] บทสรุป
บทสรุป
แม่เจ้าทั้งหลาย ธรรมคือปาจิตตีย์ 166 สิกขาบท1 ข้าพเจ้ายกขึ้นแสดงแล้ว
ข้าพเจ้าขอถามแม่เจ้าทั้งหลายในธรรมคือปาจิตตีย์ 166 สิกขาบทนั้นว่า
“ท่านทั้งหลายผู้บริสุทธิ์แล้วหรือ”
ข้าพเจ้าขอถามเป็นครั้งที่ 2 ว่า “แม่เจ้าทั้งหลายบริสุทธิ์แล้วหรือ”
ข้าพเจ้าขอถามเป็นครั้งที่ 3 ว่า “แม่เจ้าทั้งหลายบริสุทธิ์แล้วหรือ”
แม่เจ้าทั้งหลายบริสุทธิ์แล้วในธรรมคือปาจิตตีย์ทั้ง 166 สิกขาบทเหล่านี้
เพราะฉะนั้นจึงนิ่ง ข้าพเจ้าขอถือความนิ่งนั้นเป็นมติอย่างนี้
ขุททกสิกขาบท จบบริบูรณ์
ปาจิตติยกัณฑ์ในภิกขุนีวิภังค์ จบ

เชิงอรรถ :
1 มุสาวรรค 10 สิกขาบท มีเนื้อความเหมือนกับมุสาวาทวรรคของภิกษุสงฆ์
ภูตคามวรรค 10 สิกขาบท มีเนื้อความเหมือนกับภูตคามวรรคของภิกษุสงฆ์
โภชนวรรค 10 สิกขาบท สิกขาบทที่ 1-6 มีเนื้อความเหมือนกับสิกขาบทที่ 1,2,4,7,8,10 แห่ง
โภชนวรรคของภิกษุสงฆ์ สิกขาบทที่ 7-10 มีเนื้อความเหมือนกับสิกขาบท
ที่ 2-5 แห่งอเจลกวรรคของภิกษุสงฆ์
จาริตวรรค 10 สิกขาบท สิกขาบทที่ 1-5 มีเนื้อความเหมือนกับสิกขาบทที่ 6-10 แห่งอเจลกวรรค
ของภิกษุสงฆ์ สิกขาบทที่ 6-10 มีเนื้อความเหมือนกับสิกขาบทที่ 1-5
แห่งสุราปานวรรคของภิกษุ
โชติวรรค 10 สิกขาบท สิกขาบทที่ 1-5 มีเนื้อความเหมือนกับสิกขาบทที่ 6-10 แห่งสุราปานวรรค
ของภิกษุสงฆ์ สิกขาบทที่ 6-10 มีเนื้อความเหมือนกับสิกขาบทที่ 1,2,3,6,8
แห่งสัปปาณกวรรคของภิกษุสงฆ์
ทิฏฐิวรรค 10 สิกขาบท สิกขาบทที่ 1-2 มีเนื้อความเหมือนกับสิกขาบทที่ 9-10 แห่งสัปปาณก
วรรคของภิกษุสงฆ์ สิกขาบทที่ 3-10 มีเนื้อความเหมือนกับสิกขาบทที่
1-8 แห่งสหธรรมิกวรรคของภิกษุสงฆ์
ธรรมิกวรรค 10 สิกขาบท สิกขาบทที่ 1-4 มีเนื้อความเหมือนกับสิกขาบทที่ 9-12 แห่งสหธรรมิก
วรรคของภิกษุสงฆ์ สิกขาบทที่ 5-10 มีเนื้อความเหมือนกับสิกขาบทที่
2,4,5,6,8,10 แห่งรตนวรรคของภิกษุสงฆ์

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 3 หน้า :384 }


พระวินัยปิฎก ภิกขุนีวิภังค์ [5.ปาฏิเทสนียกัณฑ์] ปาฏิเทสนียสิกขาบทที่ 1 นิทานวัตถุ
5. ปาฏิเทสนียกัณฑ์
แม่เจ้าทั้งหลาย ธรรมคือปาฏิเทสนียะ 8 สิกขาบทเหล่านี้มาถึงวาระที่จะยก
ขึ้นแสดงเป็นข้อ ๆ ตามลำดับ

ปาฏิเทสนียสิกขาบทที่ 1
ว่าด้วยการออกปากขอเนยใส

เรื่องภิกษุณีฉัพพัคคีย์
[1228] สมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อาราม
ของอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตกรุงสาวัตถี ครั้งนั้น ภิกษุณีฉัพพัคคีย์ออกปากขอ
เนยใสมาฉัน คนทั้งหลายจึงตำหนิ ประณาม โพนทะนาว่า “ไฉนพวกภิกษุณีจึงออก
ปากขอเนยใสมาฉัน ใครเล่าจะไม่ชอบใจอาหารที่ปรุงดีพร้อม ใครเล่าจะไม่ชอบของ
เอร็ดอร่อย”
ภิกษุณีทั้งหลายได้ยินคนพวกนั้นตำหนิ ประณาม โพนทะนา บรรดาภิกษุณี
ผู้มักน้อย ฯลฯ พากันตำหนิ ประณาม โพนทะนาว่า “ไฉนพวกภิกษุณีฉัพพัคคีย์
จึงออกปากขอเนยใสมาฉันเล่า” ครั้นแล้ว ภิกษุณีเหล่านั้นได้นำเรื่องนี้ไปบอกภิกษุ
ทั้งหลายให้ทราบ พวกภิกษุได้นำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ

ทรงประชุมสงฆ์บัญญัติสิกขาบท
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งให้ประชุมสงฆ์เพราะเรื่องนี้เป็นต้นเหตุ ทรง
สอบถามภิกษุทั้งหลายว่า “ภิกษุทั้งหลาย ทราบว่า พวกภิกษุณีฉัพพัคคีย์ออกปาก
ขอเนยใสมาฉัน จริงหรือ” ภิกษุทั้งหลายทูลรับว่า “จริง พระพุทธเจ้าข้า” พระ
ผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงตำหนิว่า “ฯลฯ ภิกษุทั้งหลาย ไฉนพวกภิกษุณีฉัพพัคคีย์
จึงออกปากขอเนยใสมาฉันเล่า ภิกษุทั้งหลาย การกระทำอย่างนี้ มิได้ทำคนที่ยัง
ไม่เลื่อมใสให้เลื่อมใส หรือทำคนที่เลื่อมใสอยู่แล้วให้เลื่อมใสยิ่งขึ้นได้เลย ฯลฯ” แล้ว
รับสั่งให้ภิกษุณีทั้งหลายยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดงดังนี้

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 3 หน้า :385 }