เมนู

พระวินัยปิฎก ภิกขุนีวิภังค์ [4. ปาจิตติยกัณฑ์] 8. กุมารีภูตวรรค สิกขาบทที่ 7 อนาปัตติวาร
อนาปัตติวาร
ภิกษุณีต่อไปนี้ไม่ต้องอาบัติ คือ
[1153] 1. ภิกษุณีไม่บวชให้ในเมื่อมีอันตราย
2. ภิกษุณีแสวงหาแล้วแต่ไม่ได้1
3. ภิกษุณีผู้เป็นไข้
4. ภิกษุณีผู้มีเหตุขัดข้อง
5. ภิกษุณีวิกลจริต
6. ภิกษุณีต้นบัญญัติ

สิกขาบทที่ 7 จบ

เชิงอรรถ :
1 หมายถึงไม่ได้ภิกษุณีผู้เป็นอุปัชฌาย์รูปอื่น

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 3 หน้า :343 }


พระวินัยปิฎก ภิกขุนีวิภังค์ [4. ปาจิตติยกัณฑ์] 8. กุมารีภูตวรรค สิกขาบทที่ 8 นิทานวัตถุ
8. กุมารีภูตวรรค

สิกขาบทที่ 8
ว่าด้วยการบอกสิกขมานาให้ติดตามตลอด 2 ปีแล้วไม่บวชให้

เรื่องภิกษุณีถุลลนันทา
[1154] สมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อาราม
ของอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตกรุงสาวัตถี ครั้งนั้น สิกขมานารูปหนึ่งเข้าไปหา
ภิกษุณีถุลลนันทาขออุปสมบท
ภิกษุณีถุลลนันทาได้กล่าวกับสิกขมานานั้นดังนี้ว่า “แม่คุณ ถ้าเธอจักติดตาม
ฉันตลอด 2 ปี เมื่อเป็นอย่างนี้ ฉันจะบวชให้เธอ” แล้วไม่บวชให้ ไม่ขวนขวาย
ใช้ให้บวชให้ ลำดับนั้น สิกขมานานั้นบอกเรื่องนั้นให้ภิกษุณีทั้งหลายทราบ
บรรดาภิกษุณีผู้มักน้อย ฯลฯ พากันตำหนิ ประณาม โพนทะนาว่า “ไฉน
แม่เจ้าถุลล นันทาพูดกับสิกขมานาแล้วว่า ‘แม่คุณ ถ้าเธอจักติดตามฉันตลอด 2
ปี เมื่อเป็นอย่างนี้ ฉันจะบวชให้เธอ’ ไม่บวชให้ ทั้งไม่ขวนขวายใช้ให้บวชให้” ครั้นแล้ว
ภิกษุณีเหล่านั้นได้นำเรื่องนี้ไปบอกภิกษุทั้งหลายให้ทราบ พวกภิกษุได้นำเรื่องนี้ไป
กราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ

ทรงประชุมสงฆ์บัญญัติสิกขาบท
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งให้ประชุมสงฆ์เพราะเรื่องนี้เป็นต้นเหตุ ทรง
สอบถามภิกษุทั้งหลายว่า “ภิกษุทั้งหลาย ทราบว่า ภิกษุณีถุลลนันทาพูดกับ
สิกขมานาแล้วว่า ‘แม่คุณ ถ้าเธอจักติดตามฉันตลอด 2 ปี เมื่อเป็นอย่างนั้น
ฉันจะบวชให้เธอ’ แล้วไม่บวชให้ ทั้งไม่ขวนขวายใช้ให้บวชให้ จริงหรือ” พวก
ภิกษุทูลรับว่า “จริง พระพุทธเจ้าข้า” พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงตำหนิว่า “ฯลฯ
ภิกษุทั้งหลาย ไฉนภิกษุณีถุลลนันทากล่าวกับสิกขมานาแล้วว่า ‘แม่คุณ ถ้าเธอ
จักติดตามฉันตลอด 2 ปี เมื่อเป็นอย่างนั้น ฉันจะบวชให้เธอ’ แล้วไม่บวชให้

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 3 หน้า :344 }