เมนู

พระวินัยปิฎก ภิกขุนีวิภังค์ [4. ปาจิตติยกัณฑ์] 8. กุมารีภูตวรรค สิกขาบทที่ 3 นิทานวัตถุ
แล้วให้เลื่อมใสยิ่งขึ้นได้เลย ฯลฯ” ครั้นตำหนิแล้ว ทรงแสดงธรรมีกถา แล้วรับสั่ง
กับภิกษุทั้งหลายว่า “ภิกษุทั้งหลายเราอนุญาตให้ภิกษุณีสงฆ์ให้วุฏฐานสมมติแก่
กุมารีมีอายุ 20 ปีผู้ได้ศึกษาสิกขาในธรรม 6 ข้อตลอด 2 ปี
ภิกษุทั้งหลาย สงฆ์พึงให้วุฏฐานสมมติอย่างนี้

วิธีให้วุฏฐานสมมติและกรรมวาจาให้วุฏฐานสมมติ
กุมารีมีอายุ 20 ปีผู้ได้ศึกษาสิกขาในธรรม 6 ข้อตลอด 2 ปีแล้วนั้นพึง
เข้าไปหาสงฆ์ ห่มอุตตราสงค์เฉวียงบ่าข้างหนึ่ง กราบเท้าภิกษุณีทั้งหลายแล้วนั่ง
กระโหย่ง ประนมมือ กล่าวอย่างนี้ว่า “แม่เจ้า ดิฉันชื่อนี้เป็นกุมารีของแม่เจ้าชื่อนี้
มีอายุครบ 20 ปี ได้ศึกษาในธรรม 6 ข้อตลอด 2 ปีแล้ว ขอวุฏฐานสมมติต่อสงฆ์”
พึงขอแม้ครั้งที่ 2 พึงขอแม้ครั้งที่ 3
ภิกษุณีผู้ฉลาดสามารถพึงประกาศให้สงฆ์ทราบด้วยญัตติทุติยกรรมวาจาว่า
[1131] “แม่เจ้า ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า กุมารีชื่อนี้ของแม่เจ้าชื่อนี้มีอายุครบ
20 ปีได้ศึกษาสิกขาในธรรม 6 ข้อตลอด 2 ปี ขอวุฏฐานสมมติต่อสงฆ์ ถ้าสงฆ์
พร้อมแล้วพึงให้วุฏฐานสมมติแก่กุมารีชื่อนี้ผู้มีอายุครบ 20 ปีผู้ได้ศึกษาสิกขาใน
ธรรม 6 ข้อตลอด 2 ปี นี่เป็นญัตติ
แม่เจ้า ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า กุมารีชื่อนี้ของแม่เจ้าชื่อนี้มีอายุครบ 20 ปี
ได้ศึกษาสิกขาในธรรม 6 ข้อตลอด 2 ปีแล้ว ขอวุฏฐานสมมติต่อสงฆ์ สงฆ์ให้
วุฏฐานสมมติแก่กุมารีชื่อนี้ผู้มีอายุครบ 20 ปีผู้ได้ศึกษาสิกขาในธรรม 6 ข้อตลอด
2 ปีแล้ว แม่เจ้ารูปใดเห็นด้วยกับการให้วุฏฐานสมมติแก่กุมารีชื่อนี้ผู้มีอายุครบ 20
ปีผู้ได้ศึกษาสิกขาในธรรม 6 ข้อตลอด 2 ปีแล้ว แม่เจ้ารูปนั้นพึงนิ่ง แม่เจ้ารูปใด
ไม่เห็นด้วย แม่เจ้ารูปนั้นพึงทักท้วง
วุฏฐานสมมติสงฆ์ให้แล้วแก่กุมารีชื่อนี้มีอายุครบ 20 ปีผู้ได้ศึกษาสิกขาใน
ธรรม 6 ข้อตลอด 2 ปีแล้ว สงฆ์เห็นด้วย เพราะฉะนั้นจึงนิ่ง ข้าพเจ้าขอถือความ
นิ่งนั้นเป็นมติอย่างนี้”

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 3 หน้า :330 }


พระวินัยปิฎก ภิกขุนีวิภังค์ [4. ปาจิตติยกัณฑ์] 8. กุมารีภูตวรรค สิกขาบทที่ 3 นิทานวัตถุ
พระผู้มีพระภาคครั้นทรงตำหนิภิกษุณีเหล่านั้นโดยประการต่าง ๆ แล้วตรัส
โทษแห่งความเป็นผู้เลี้ยงยาก ฯลฯ แล้วรับสั่งให้ภิกษุณีทั้งหลายยกสิกขาบทนี้ขึ้น
แสดงดังนี้

พระบัญญัติ
[1132] ก็ภิกษุณีใดบวชให้กุมารีมีอายุครบ 20 ปี ผู้ได้ศึกษาสิกขาใน
ธรรม 6 ข้อตลอด 2 ปีแล้วแต่สงฆ์ยังไม่ได้สมมติ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
เรื่องภิกษุณีหลายรูป จบ

สิกขาบทวิภังค์
[1133] คำว่า ก็ ... ใด คือ ผู้ใด ผู้เช่นใด ฯลฯ นี้ที่พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
ก็ ... ใด
คำว่า ภิกษุณี มีอธิบายว่า ชื่อว่าภิกษุณี เพราะเป็นผู้ขอ ฯลฯ นี้ที่พระผู้มี
พระภาคทรงประสงค์เอาว่า ภิกษุณี ในความหมายนี้
ที่ชื่อว่า มีอายุครบ 20 ปี คือ มีอายุถึง 20 ปี
ที่ชื่อว่า กุมารี พระผู้มีพระภาคตรัสหมายถึงสามเณรี
คำว่า ตลอด 2 ปี คือ สิ้น 2 ปี
ที่ชื่อว่า ผู้ได้ศึกษาสิกขา คือ ผู้ได้ศึกษาสิกขาในธรรม 6 ข้อแล้ว
ที่ชื่อว่า สงฆ์ยังไม่ได้สมมติ คือ สงฆ์ยังมิได้ให้วุฏฐานสมมติด้วยญัตติทุติย
กรรม
คำว่า บวชให้ คือ อุปสมบทให้
ภิกษุณีตั้งใจว่า “จะบวชให้” แล้วแสวงหาคณะ อาจารย์ บาตรหรือจีวร
หรือสมมติสีมา ต้องอาบัติทุกกฏ จบญัตติ ต้องอาบัติทุกกฏ จบกรรมวาจา 2
ครั้ง ต้องอาบัติทุกกฏ 2 ตัว จบกรรมวาจาครั้งสุดท้าย ภิกษุณีผู้เป็นอุปัชฌาย์
ต้องอาบัติปาจิตตีย์ คณะและอาจารย์ ต้องอาบัติทุกกฏ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 3 หน้า :331 }