พระวินัยปิฎก ภิกขุนีวิภังค์ [4. ปาจิตติยกัณฑ์] 7. คัพภินีวรรค สิกขาบทที่ 3 อนาปัตติวาร
อนาปัตติวาร
ภิกษุณีต่อไปนี้ไม่ต้องอาบัติ คือ
[1083] 1. ภิกษุณีบวชให้สิกขมานาผู้ได้ศึกษาสิกขาในธรรม 6 ข้อ ตลอด
2 ปี
2. ภิกษุณีวิกลจริต
3. ภิกษุณีต้นบัญญัติ
สิกขาบทที่ 3 จบ
พระวินัยปิฎก ภิกขุนีวิภังค์ [4. ปาจิตติยกัณฑ์] 7. คัพภินีวรรค สิกขาบทที่ 4 นิทานวัตถุ
7. คัพภินีวรรค
สิกขาบทที่ 4
ว่าด้วยการบวชให้สิกขมานาที่สงฆ์ยังไม่ได้สมมติ
เรื่องภิกษุณีหลายรูป
[1084] สมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อาราม
ของอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตกรุงสาวัตถี ครั้งนั้น ภิกษุณีทั้งหลายบวชให้สิกขมานา
ผู้ศึกษาสิกขาในธรรม 6 ข้อตลอด 2 ปี แต่สงฆ์ยังไม่ได้สมมติ ภิกษุณีทั้งหลายกล่าว
อย่างนี้ว่า สิกขมานาทั้งหลาย พวกเธอจงมานี่ จงรู้สิ่งนี้ ประเคนสิ่งนี้ นำสิ่งนี้มา
ฉันต้องการสิ่งนี้ จงทำสิ่งนี้ให้เป็นกัปปิยะ
สิกขมานาเหล่านั้นตอบว่า แม่เจ้า พวกดิฉันไม่ใช่สิกขมานา พวกดิฉันเป็น
ภิกษุณี
บรรดาภิกษุณีผู้มักน้อย ฯลฯ พากันตำหนิ ประณาม โพนทะนาว่า ไฉน
พวกภิกษุณีจึงบวชให้สิกขมานาผู้ศึกษาสิกขาในธรรม 6 ข้อตลอด 2 ปี แต่สงฆ์ยัง
ไม่ได้สมมติเล่า ครั้นแล้ว ภิกษุณีเหล่านั้นได้นำเรื่องนี้ไปบอกภิกษุทั้งหลายให้ทราบ
พวกภิกษุได้นำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ
ทรงประชุมบัญญัติสิกขาบท
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งให้ประชุมสงฆ์เพราะเรื่องนี้เป็นต้นเหตุ ทรง
สอบถามภิกษุทั้งหลายว่า ภิกษุทั้งหลาย ทราบว่า พวกภิกษุณีทั้งหลายบวชให้
สิกขมานาผู้ศึกษาสิกขาในธรรม 6 ข้อตลอด 2 ปีแต่สงฆ์ยังไม่ได้สมมติ จริงหรือ
ภิกษุทั้งหลายทูลรับว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงตำหนิว่า
ฯลฯ ภิกษุทั้งหลาย ไฉนพวกภิกษุณีจึงบวชให้สิกขมานาผู้ศึกษาสิกขาในธรรม 6
ข้อตลอด 2 ปีแต่สงฆ์ยังไม่ได้สมมติเล่า ภิกษุทั้งหลาย การกระทำอย่างนี้ มิได้ทำ
คนที่ยังไม่เลื่อมใสให้เลื่อมใส หรือทำคนที่เลื่อมใสอยู่แล้วให้เลื่อมใสยิ่งขึ้นได้เลย ฯลฯ