พระวินัยปิฎก ภิกขุนีวิภังค์ [4. ปาจิตติยกัณฑ์] 6. อารามวรรค สิกขาบทที่ 9 นิทานวัตถุ
6. อารามวรรค
สิกขาบทที่ 9
ว่าด้วยการไม่ถามอุโบสถเป็นต้น
เรื่องภิกษุณีไม่ถามอุโบสถ ไม่ขอโอวาท
[1058] สมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อาราม
ของอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตกรุงสาวัตถี ครั้งนั้น ภิกษุณีไม่ถามอุโบสถบ้าง ไม่ขอ
โอวาทบ้าง ภิกษุทั้งหลายจึงตำหนิ ประณาม โพนทะนาว่า ไฉนพวกภิกษุณีจึง
ไม่ถามอุโบสถบ้าง ไม่ขอโอวาทบ้างเล่า
ทรงประชุมสงฆ์บัญญัติสิกขาบท
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งให้ประชุมสงฆ์เพราะเรื่องนี้เป็นต้นเหตุ ทรง
สอบถามภิกษุทั้งหลายว่า ภิกษุทั้งหลาย ทราบว่า พวกภิกษุณีไม่ถามอุโบสถบ้าง
ไม่ขอโอวาทบ้าง จริงหรือ ภิกษุทั้งหลายทูลรับว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า พระ
ผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงตำหนิว่า ฯลฯ ภิกษุทั้งหลาย ไฉนพวกภิกษุณีไม่ถาม
อุโบสถบ้าง ไม่ขอโอวาทบ้างเล่า ภิกษุทั้งหลาย การกระทำอย่างนี้ มิได้ทำคนที่
ยังไม่เลื่อมใสให้เลื่อมใส หรือทำคนที่เลื่อมใสอยู่แล้วให้เลื่อมใสยิ่งขึ้นได้เลย ฯลฯ
แล้วจึงรับสั่งให้ภิกษุณีทั้งหลายยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดงดังนี้
พระบัญญัติ
[1059] ก็ภิกษุณีพึงหวังธรรม 2 อย่างจากภิกษุสงฆ์ทุกกึ่งเดือน คือ
การถามอุโบสถ 1 การเข้าไปขอโอวาท 1 ผู้ฝ่าฝืนธรรม 2 อย่างนั้น ต้อง
อาบัติปาจิตตีย์
เรื่องภิกษุณีไม่ถามอุโบสถ ไม่ขอโอวาท จบ
พระวินัยปิฎก ภิกขุนีวิภังค์ [4. ปาจิตติยกัณฑ์] 6. อารามวรรค สิกขาบทที่ 9 อนาปัตติวาร
สิกขาบทวิภังค์
[1060] คำว่า ทุกกึ่งเดือน คือ ทุกวันอุโบสถ
ที่ชื่อว่า อุโบสถ ได้แก่ อุโบสถ 2 อย่าง คือ อุโบสถวัน 14 ค่ำ และอุโบสถ
วัน 15 ค่ำ
ที่ชื่อว่า โอวาท ได้แก่ ครุธรรม 8 อย่าง1
ภิกษุณีทอดธุระว่า เราจะไม่ถามอุโบสถบ้าง จะไม่ขอโอวาทบ้าง ต้องอาบัติ
ปาจิตตีย์
อนาปัตติวาร
ภิกษุณีต่อไปนี้ไม่ต้องอาบัติ คือ
[1061] 1. ภิกษุณีไม่ถามอุโบสถและไม่ขอโอวาทในเมื่อมีอันตราย
2. ภิกษุณีแสวงหาแล้วแต่ไม่ได้ภิกษุณีเป็นเพื่อน
3. ภิกษุณีผู้เป็นไข้
4. ภิกษุณีผู้มีเหตุขัดข้อง
5. ภิกษุณีวิกลจริต
6. ภิกษุณีต้นบัญญัติ
สิกขาบทที่ 9 จบ
เชิงอรรถ :
1 ดู วินัยปิฎกแปล เล่ม 2 ข้อ 149 หน้า 322-323, วิ.จู. 7/403/233-235