พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ [4.นิสสัคคิยกัณฑ์] 2.โกสิยวรรค 4.ฉัพพัสสสิกขาบท พระบัญญัติ
เป็นผู้มากไปด้วยการขอ เป็นผู้มากไปด้วยการออกปากขอด้วยกล่าวว่า ท่าน
ทั้งหลายจงให้ขนเจียม พวกอาตมาต้องการขนเจียม ดังนี้ จริงหรือ ภิกษุเหล่านั้น
ทูลรับว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า พระผู้มีพระภาคพระพุทธเจ้าทรงตำหนิว่า ฯลฯ
ภิกษุทั้งหลาย ไฉนโมฆบุรุษเหล่านั้นจึงใช้ให้ทำสันถัตทุก ๆ ปี เป็นผู้มากไปด้วยการ
ขอ เป็นผู้มากไปด้วยการออกปากขอด้วยกล่าวว่า ท่านทั้งหลายจงให้ขนเจียม พวก
อาตมาต้องการขนเจียม ดังนี้เล่า ภิกษุทั้งหลาย การกระทำอย่างนี้ มิได้ทำคนที่ยัง
ไม่เลื่อมใสให้เลื่อมใส หรือทำคนที่เลื่อมใสอยู่แล้วให้เลื่อมใสยิ่งขึ้นได้เลย ฯลฯ
แล้วจึงรับสั่งให้ภิกษุทั้งหลายยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดงดังนี้
พระบัญญัติ
[558] ก็ ภิกษุใช้ให้ทำสันถัตใหม่แล้วพึงใช้สอยให้ได้ 6 ปี ถ้าต่ำกว่า
6 ปี เธอจะสละหรือไม่สละสันถัตนั้นก็ตาม ใช้ให้ทำสันถัตอื่นใหม่ ต้องอาบัติ
นิสสัคคิยปาจิตตีย์
สิกขาบทนี้พระผู้มีพระภาคทรงบัญญัติไว้แก่ภิกษุทั้งหลายอย่างนี้
เรื่องภิกษุหลายรูป จบ
เรื่องภิกษุเป็นไข้
[559] สมัยนั้น ภิกษุรูปหนึ่งเป็นไข้อยู่กรุงโกสัมพี พวกญาติส่งทูตไปสำนัก
ของภิกษุนั้น ให้แจ้งข่าวว่า นิมนต์พระคุณท่านมาเถิด พวกเราจักอุปัฏฐาก ภิกษุ
ทั้งหลายกล่าวอย่างนี้ว่า ไปเถิด ท่าน พวกญาติจะอุปัฏฐากท่านเอง
ภิกษุนั้นกล่าวอย่างนี้ว่า ท่านทั้งหลาย พระผู้มีพระภาคทรงบัญญัติสิกขาบท
ไว้ว่า ภิกษุใช้ให้ทำสันถัตใหม่แล้วพึงใช้สอยให้ได้ 6 ปี กระผมก็เป็นไข้อยู่ ไม่
สามารถนำสันถัตไปได้ ถ้าขาดสันถัตเสียแล้วกระผมจะไม่ผาสุก กระผมจะไม่ไป
ภิกษุทั้งหลายจึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ