เมนู

พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ [5.ปาจิตติยกัณฑ์] 9.รตนวรรค 6.ตูโลนัทธสิกขาบท อนาปัตติวาร
ภิกษุใช้ผู้อื่นให้ทำเตียงหรือตั่งหุ้มนุ่นที่ตนทำค้างไว้ต่อจนสำเร็จ ต้องอาบัติ
ปาจิตตีย์
ภิกษุทำเตียงหรือตั่งหุ้มนุ่นที่ผู้อื่นทำค้างไว้ต่อจนสำเร็จด้วยตนเอง ต้องอาบัติ
ปาจิตตีย์
ภิกษุใช้ผู้อื่นให้ทำเตียงหรือตั่งหุ้มนุ่นที่ผู้อื่นทำค้างไว้ต่อจนสำเร็จ ต้องอาบัติ
ปาจิตตีย์

ทุกกฏ
ภิกษุทำเองหรือใช้ผู้อื่นให้ทำเพื่อประโยชน์แก่ผู้อื่น ต้องอาบัติทุกกฏ
ภิกษุได้เตียงตั่งที่ผู้อื่นทำสำเร็จแล้วมาใช้สอย ต้องอาบัติทุกกฏ

อนาปัตติวาร
ภิกษุต่อไปนี้ไม่ต้องอาบัติ คือ
[530] 1. ภิกษุทำสายรัดเข่าหุ้มนุ่น
2. ภิกษุทำประคดเอวหุ้มนุ่น
3. ภิกษุทำสายโยกบาตรหุ้มนุ่น
4. ภิกษุทำถุงบาตรหุ้มนุ่น
5. ภิกษุทำผ้ากรองน้ำหุ้มนุ่น
6. ภิกษุทำหมอนหุ้มนุ่น
7. ภิกษุได้เตียงตั่งหุ้มนุ่นที่ผู้อื่นทำสำเร็จแล้วมาทำลายก่อนใช้
8. ภิกษุวิกลจริต
9. ภิกษุต้นบัญญัติ

ตูโลนัทธสิกขาบทที่ 6 จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 2 หน้า :613 }


พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ [5.ปาจิตติยกัณฑ์] 9.รตนวรรค 7.นิสีทนสิกขาบท นิทานวัตถุ
9. รตนวรรค

7. นิสีทนสิกขาบท
ว่าด้วยการทำผ้ารองนั่ง

เรื่องพระฉัพพัคคีย์
[531] สมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อาราม
ของอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตกรุงสาวัตถี ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคทรงอนุญาตผ้า
รองนั่งสำหรับภิกษุทั้งหลาย พวกภิกษุฉัพพัคคีย์ทราบว่า “พระผู้มีพระภาคทรง
อนุญาตผ้ารองนั่ง” จึงใช้ผ้ารองนั่งไม่ได้ขนาด เมื่อปูบนเตียงบ้าง บนตั่งบ้าง จึงห้อย
ข้างหน้าบ้าง ข้างหลังบ้าง
บรรดาภิกษุผู้มักน้อย ฯลฯ พากันตำหนิ ประณาม โพนทะนาว่า “ไฉนพวก
ภิกษุฉัพพัคคีย์จึงใช้ผ้ารองนั่งไม่ได้ขนาดเล่า” ครั้นภิกษุทั้งหลายตำหนิพวก
ภิกษุฉัพพัคคีย์โดยประการต่าง ๆ แล้วจึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้
ทรงทราบ

ทรงประชุมสงฆ์บัญญัติสิกขาบท
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งให้ประชุมสงฆ์เพราะเรื่องนี้เป็นต้นเหตุ ทรง
สอบถามพวกภิกษุฉัพพัคคีย์ว่า “ภิกษุทั้งหลาย ทราบว่า พวกเธอใช้ผ้ารองนั่งไม่ได้
ขนาดจริงหรือ” พวกภิกษุฉัพพัคคีย์ทูลรับว่า “จริง พระพุทธเจ้าข้า” พระผู้มีพระภาค
พุทธเจ้าทรงตำหนิว่า “ฯลฯ โมฆบุรุษทั้งหลาย ไฉนพวกเธอจึงใช้ผ้ารองนั่งไม่ได้
ขนาดเล่า โมฆบุรุษทั้งหลาย การกระทำอย่างนี้ มิได้ทำคนที่ยังไม่เลื่อมใสให้เลื่อมใส
หรือทำคนที่เลื่อมใสอยู่แล้วให้เลื่อมใสยิ่งขึ้นได้เลย ฯลฯ” แล้วจึงรับสั่งให้ภิกษุ
ทั้งหลายยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดงดังนี้

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 2 หน้า :614 }