เมนู

พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ [5.ปาจิตติยกัณฑ์] 9.รตนวรรค 4.สูจิฆรสิกขาบท อนาปัตติวาร
บทภาชนีย์
ปาจิตตีย์
[519] ภิกษุทำกล่องเข็มที่ตนทำค้างไว้ต่อจนสำเร็จด้วยตนเอง ต้องอาบัติ
ปาจิตตีย์
ภิกษุใช้ผู้อื่นให้ทำกล่องเข็มที่ตนทำค้างไว้ต่อจนสำเร็จ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุทำกล่องเข็มที่ผู้อื่นทำค้างไว้ต่อจนสำเร็จด้วยตนเอง ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ภิกษุใช้ผู้อื่นให้ทำกล่องเข็มที่ผู้อื่นทำค้างไว้ต่อจนสำเร็จ ต้องอาบัติปาจิตตีย์

ทุกกฏ
ภิกษุทำเองหรือใช้ผู้อื่นให้ทำเพื่อประโยชน์แก่ผู้อื่น ต้องอาบัติทุกกฏ
ภิกษุได้กล่องเข็มที่ผู้อื่นทำไว้มาใช้สอย ต้องอาบัติทุกกฏ

อนาปัตติวาร
ภิกษุต่อไปนี้ไม่ต้องอาบัติ คือ
[520] 1. ภิกษุทำลูกดุม
2. ภิกษุทำตะบันไฟ
3. ภิกษุทำลูกถวิน (ห่วงร้อยสายประคด)
4. ภิกษุทำกลักยาตา
5. ภิกษุทำไม้ป้ายยาตา
6. ภิกษุทำฝักมีด
7. ภิกษุทำกระบอกกรองน้ำ
8. ภิกษุวิกลจริต
9. ภิกษุต้นบัญญัติ

สูจิฆรสิกขาบทที่ 4 จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 2 หน้า :607 }


พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ [5.ปาจิตติยกัณฑ์] 9.รตนวรรค 5.มัญจปีฐสิกขาบท นิทานวัตถุ
9. รตนวรรค

5. มัญจปีฐสิกขาบท
ว่าด้วยการทำเตียงและตั่ง

เรื่องพระอุปนันทศากยบุตร
[521] สมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อาราม
ของอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตกรุงสาวัตถี ครั้งนั้น ท่านพระอุปนันทศากยบุตรนอน
บนเตียงสูง คราวนั้น พระผู้มีพระภาคเสด็จจาริกตามเสนาสนะพร้อมภิกษุหลายรูป
ผ่านไปทางที่อยู่ของท่านอุปนันทศากบุตร ท่านได้เห็นพระผู้มีพระภาคเสด็จมา
แต่ไกล ครั้นเห็นแล้วได้เข้าไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคดังนี้ว่า “ขอเชิญเสด็จทอด
พระเนตรเตียงนอนของข้าพระองค์เถิด พระพุทธเจ้าข้า”
ครั้นแล้ว พระผู้มีพระภาคได้เสด็จกลับจากที่นั้นแล้วรับสั่งกับภิกษุทั้งหลายว่า
“ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอพึงรู้จักโมฆบุรุษเพราะที่อยู่อาศัย” ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาค
ได้ทรงตำหนิท่านพระอุปนันทศากยบุตรโดยประการต่าง ๆ แล้วตรัสโทษแห่งความ
เป็นผู้เลี้ยงยาก ฯลฯ แล้วจึงรับสั่งให้ภิกษุทั้งหลายยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดงดังนี้

พระบัญญัติ
[522] ก็ ภิกษุผู้จะทำเตียงหรือตั่งใหม่ พึงทำให้มีเท้าเพียง 8 นิ้ว โดย
นิ้วสุคต1 นับแต่แม่แคร่ลงมา ทำให้เกินกว่ากำหนดนั้น ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ที่ชื่อว่าเฉทนกะ2
เรื่องพระอุปนันทศากยบุตร จบ

เชิงอรรถ :
1 1 นิ้วสุคต เท่ากับ 3 นิ้วของคนปานกลางในบัดนี้ (สุคตงฺคลํ นาม อิทานิ มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส ตีณิ
องฺคุลานิ -กงฺขา.ฏีกา 297)
2 คำว่า “เฉทนกะ” เป็นชื่อเฉพาะของอาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทนี้ แปลว่า มีการตัดออก คือต้องตัดวัตถุก่อน
จึงแสดงอาบัติตก (วิ.อ. 2/522/439)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 2 หน้า :608 }