เมนู

พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ [5.ปาจิตติยกัณฑ์] 8.สหธรรมิกวรรค 11.ทัพพสิกขาบท นิทานวัตถุ
8. สหธรรมิกวรรค

11. ทัพพสิกขาบท
ว่าด้วยการถวายจีวรแก่พระทัพพมัลลบุตร

เรื่องพระทัพพมัลลบุตร
[484] สมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระเวฬุวัน สถานที่
ให้เหยื่อกระแต เขตกรุงราชคฤห์ ครั้งนั้น ท่านพระทัพพมัลลบุตรจัดแจงเสนาสนะ
และแจกภัตตาหารแก่สงฆ์ ท่านมีจีวรเก่า คราวนั้น จีวรผืนหนึ่งได้เกิดขึ้นแก่สงฆ์
ครั้นแล้วสงฆ์ได้ถวายจีวรนั้นแก่ท่านพระทัพพมัลลบุตร
พวกภิกษุฉัพพัคคีย์พากันตำหนิ ประณาม โพนทะนาว่า “พวกภิกษุน้อมลาภ
สงฆ์ไปตามความคุ้นเคยกัน”
บรรดาภิกษุผู้มักน้อย ฯลฯ พากันตำหนิ ประณาม โพนทะนาว่า “ไฉนพวก
ภิกษุฉัพพัคคีย์ร่วมกับสงฆ์ผู้พร้อมเพรียงกันให้จีวรไปแล้วกลับตำหนิในภายหลัง
เล่า” ครั้นภิกษุทั้งหลายตำหนิพวกภิกษุฉัพพัคคีย์โดยประการต่าง ๆ แล้วจึงนำเรื่อง
นี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ

ทรงประชุมสงฆ์บัญญัติสิกขาบท
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งให้ประชุมสงฆ์เพราะเรื่องนี้เป็นต้นเหตุ ทรง
สอบถามพวกภิกษุฉัพพัคคีย์ว่า “ภิกษุทั้งหลาย ทราบว่า พวกเธอร่วมกับสงฆ์
ผู้พร้อมเพรียงกันให้จีวรไปแล้ว กลับตำหนิในภายหลัง จริงหรือ” พวกภิกษุ
ฉัพพัคคีย์ทูลรับว่า “จริง พระพุทธเจ้าข้า” พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงตำหนิว่า
“ฯลฯ โมฆบุรุษทั้งหลาย ไฉนพวกเธอร่วมกับสงฆ์ผู้พร้อมเพรียงกันให้จีวรไปแล้ว
กลับตำหนิในภายหลังเล่า โมฆบุรุษทั้งหลาย การกระทำอย่างนี้ มิได้ทำคนที่ยังไม่
เลื่อมใสให้เลื่อมใส หรือทำคนที่เลื่อมใสอยู่แล้วให้เลื่อมใสยิ่งขึ้นได้เลย ฯลฯ” แล้ว
จึงรับสั่งให้ภิกษุทั้งหลายยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดงดังนี้


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 2 หน้า :577 }


พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ [5.ปาจิตติยกัณฑ์] 8.สหธรรมิกวรรค 11.ทัพพสิกขาบท สิกขาบทวิภังค์
พระบัญญัติ
[485] ก็ ภิกษุใดร่วมกับสงฆ์ผู้พร้อมเพรียงกัน ให้จีวรไปแล้วกลับ
ติเตียนในภายหลังว่า “พวกภิกษุน้อมลาภที่เป็นของสงฆ์ไปตามความคุ้นเคย
กัน” ต้องอาบัติปาจิตตีย์
เรื่องพระทัพพมัลลบุตร จบ

สิกขาบทวิภังค์
[486] คำว่า ก็...ใด คือ ผู้ใด ผู้เช่นใด ฯลฯ นี้ที่พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
ก็...ใด
คำว่า ภิกษุ มีอธิบายว่า ชื่อว่าภิกษุ เพราะเป็นผู้ขอ ฯลฯ นี้ที่พระผู้มีพระภาค
ทรงประสงค์เอาว่า ภิกษุ ในความหมายนี้
สงฆ์ที่ชื่อว่า พร้อมเพรียงกัน คือ มีสังวาสเสมอกัน อยู่ในสมานสังวาสสีมา
เดียวกัน
ที่ชื่อว่า จีวร ได้แก่ บรรดาจีวร 6 ชนิด อย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งมีขนาดพอ
ที่จะวิกัปได้เป็นอย่างตํ่า
คำว่า ให้ คือ ให้เอง
ที่ชื่อว่า ตามความคุ้นเคยกัน คือ ตามความเป็นมิตร ตามความเป็นเพื่อน
ตามความใกล้ชิด ตามที่เป็นผู้ร่วมพระอุปัชฌาย์ ตามที่เป็นผู้ร่วมพระอาจารย์กันมา
ที่ชื่อว่า ที่เป็นของสงฆ์ คือ ที่เขาถวาย ที่เขาบริจาคแล้วแก่สงฆ์
ที่ชื่อว่า ลาภ ได้แก่ จีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานปัจจัยเภสัชบริขาร
โดยที่สุดแม้ก้อนจุรณ ไม้สีฟัน หรือด้ายชายผ้า
คำว่า ภายหลังกลับติเตียน ความว่า ภิกษุเมื่อให้จีวรแก่อุปสัมบันที่สงฆ์
แต่งตั้งให้เป็นเจ้าหน้าที่จัดแจงเสนาสนะ แจกอาหาร แจกข้าวต้ม แจกผลไม้ แจก
ของเคี้ยว หรือแจกของเล็ก ๆ น้อย ๆ กลับติเตียน ต้องอาบัติปาจิตตีย์

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 2 หน้า :578 }