เมนู

พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ [5.ปาจิตติยกัณฑ์] 6.สุราปานวรรค 7.นหานสิกขาบท พระอนุบัญญัติ
พระอนุบัญญัติ
อนึ่ง ภิกษุใด ยังไม่ถึงครึ่งเดือน อาบน้ำ ต้องอาบัติปาจิตตีย์ เว้นไว้แต่
ในสมัย สมัยในข้อนั้น คือ ท้ายฤดูร้อน 1 เดือนครึ่ง และเดือนแรกแห่งฤดูฝน
รวมเป็น 2 เดือนครึ่ง เป็นสมัยที่ร้อน เป็นสมัยที่อบอ้าว นี้เป็นสมัยในข้อนั้น
สิกขาบทนี้พระผู้มีพระภาคทรงบัญญัติไว้แก่ภิกษุทั้งหลายอย่างนี้

ทรงอนุญาตให้ภิกษุอาบนํ้าได้ในสมัยที่เป็นไข้
[359] สมัยนั้น ภิกษุทั้งหลายเป็นไข้ พวกภิกษุผู้มีหน้าที่สอบถามอาการ
ไข้ ได้กล่าวกับพวกภิกษุเป็นไข้ดังนี้ว่า “ท่านทั้งหลายสบายดีหรือ ยังพอเป็นอยู่ได้
หรือ”
พวกภิกษุผู้เป็นไข้ตอบว่า “เมื่อก่อนยังไม่ถึงครึ่งเดือน พวกกระผมอาบนํ้า
กันได้ ดังนั้นจึงมีความผาสุก แต่เดี๋ยวนี้พวกกระผมมีความยำเกรงอยู่ว่า ‘พระผู้มี
พระภาคทรงห้ามไว้’ จึงไม่ได้อาบนํ้า ดังนั้นจึงไม่มีความผาสุก’’
ภิกษุทั้งหลายได้นำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ พระผู้มี
พระภาครับสั่งกับภิกษุทั้งหลายว่า “ภิกษุทั้งหลาย ยังไม่ถึงครึ่งเดือน เราอนุญาต
ให้ภิกษุผู้เป็นไข้อาบนํ้าได้” แล้วจึงรับสั่งให้ภิกษุทั้งหลายยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดงดังนี้

พระอนุบัญญัติ
อนึ่ง ภิกษุใด ยังไม่ถึงครึ่งเดือน อาบนํ้า ต้องอาบัติปาจิตตีย์ เว้นไว้แต่
ในสมัย สมัยในข้อนั้น คือ (1) ท้ายฤดูร้อน 1 เดือนครึ่ง และเดือนแรกแห่ง
ฤดูฝน รวมเป็น 2 เดือนครึ่ง เป็นสมัยที่ร้อน เป็นสมัยที่อบอ้าว (2) สมัยที่เป็น
ไข้ นี้เป็นสมัยในข้อนั้น
สิกขาบทนี้พระผู้มีพระภาคทรงบัญญัติไว้แก่ภิกษุทั้งหลายอย่างนี้

ทรงอนุญาตให้ภิกษุอาบนํ้าได้ในสมัยที่ทำงาน
[360] สมัยนั้น ภิกษุทั้งหลายทำงาน มีความยำเกรง จึงไม่อาบนํ้า จำวัด
ทั้ง ๆ ที่เนื้อตัวยังชุ่มเหงื่อ จีวรก็ดี เสนาสนะก็ดีเสียหาย

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 2 หน้า :485 }


พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ [5.ปาจิตติยกัณฑ์] 6.สุราปานวรรค 7.นหานสิกขาบท พระอนุบัญญัติ
ภิกษุทั้งหลายจึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ ฯลฯ พระ
ผู้มีพระภาครับสั่งกับภิกษุทั้งหลายว่า “ภิกษุทั้งหลาย ยังไม่ถึงครึ่งเดือน เรา
อนุญาตให้อาบนํ้าได้ในสมัยที่ทำงาน” แล้วจึงรับสั่งให้ภิกษุทั้งหลายยกสิกขาบทนี้
ขึ้นแสดงดังนี้

พระอนุบัญญัติ
อนึ่ง ภิกษุใด ยังไม่ถึงครึ่งเดือน อาบนํ้า ต้องอาบัติปาจิตตีย์ เว้นไว้แต่
ในสมัย สมัยในข้อนั้น คือ (1) ท้ายฤดูร้อน 1 เดือนครึ่ง และเดือนแรกแห่งฤดู
ฝน รวมเป็น 2 เดือนครึ่ง เป็นสมัยที่ร้อน เป็นสมัยที่อบอ้าว (2) สมัยที่เป็นไข้
(3) สมัยที่ทำงาน นี้เป็นสมัยในข้อนั้น
สิกขาบทนี้พระผู้มีพระภาคทรงบัญญัติไว้แก่ภิกษุทั้งหลายอย่างนี้

ทรงอนุญาตให้ภิกษุอาบนํ้าได้ในสมัยที่เดินทางไกล
[361] สมัยนั้น ภิกษุทั้งหลายเดินทางไกล มีความยำเกรง จึงไม่อาบนํ้า
จำวัดทั้ง ๆ ที่เนื้อตัวยังชุ่มเหงื่อ จีวรก็ดี เสนาสนะก็ดีเสียหาย
ภิกษุทั้งหลายจึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ ฯลฯ พระ
ผู้มีพระภาครับสั่งกับภิกษุทั้งหลายว่า “ภิกษุทั้งหลาย ยังไม่ถึงครึ่งเดือน เรา
อนุญาตให้อาบนํ้าได้ในสมัยที่เดินทางไกล” แล้วจึงรับสั่งให้ภิกษุทั้งหลายยกสิกขาบท
นี้ขึ้นแสดงดังนี้

พระอนุบัญญัติ
อนึ่ง ภิกษุใด ยังไม่ถึงครึ่งเดือน อาบนํ้า ต้องอาบัติปาจิตตีย์ เว้นไว้แต่ใน
สมัย สมัยในข้อนั้น คือ (1) ท้ายฤดูร้อน 1 เดือนครึ่ง และเดือนแรกแห่งฤดูฝน
รวมเป็น 2 เดือนครึ่ง เป็นสมัยที่ร้อน เป็นสมัยที่อบอ้าว (2) สมัยที่เป็นไข้
(3) สมัยที่ทำงาน (4) สมัยที่เดินทางไกล นี้เป็นสมัยในข้อนั้น
สิกขาบทนี้พระผู้มีพระภาคทรงบัญญัติไว้แก่ภิกษุทั้งหลายอย่างนี้

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 2 หน้า :486 }