เมนู

พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ [5.ปาจิตติยกัณฑ์] 6.สุราปานวรรค 1.สุราปานสิกขาบท บทภาชนีย์
ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า “ไม่ควรดื่มเลย พระพุทธเจ้าข้า”
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า “ภิกษุทั้งหลาย การกระทำของสาคตะนั้นไม่สมควร
ไม่คล้อยตาม ไม่เหมาะสม ไม่ใช่กิจของสมณะ ใช้ไม่ได้ ไม่ควรทำ ไฉนสาคตะจึง
ดื่มนํ้าเมาเล่า ภิกษุทั้งหลาย การกระทำอย่างนี้ มิได้ทำคนที่ยังไม่เลื่อมใสให้
เลื่อมใส หรือทำคนที่เลื่อมใสอยู่แล้วให้เลื่อมใสยิ่งขึ้นได้เลย ฯลฯ” แล้วจึงรับสั่งให้
ภิกษุทั้งหลายยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดงดังนี้

พระบัญญัติ
[327] ภิกษุต้องอาบัติปาจิตตีย์ เพราะดื่มสุราและเมรัย
เรื่องพระสาคตะ จบ

สิกขาบทวิภังค์
[328] ที่ชื่อว่า สุรา ได้แก่ สุราที่ทำจากแป้ง สุราที่ทำจากขนม สุราที่ทำ
จากข้าวสุก สุราหมักแป้งเชื้อเหล้า สุราที่ผสมเครื่องปรุงหลายชนิด
ที่ชื่อว่า เมรัย ได้แก่ น้ำหมักดองดอกไม้ น้ำหมักดองผลไม้ น้ำหมักดอง
น้ำผึ้ง น้ำหมักดองนํ้าอ้อยงบ น้ำหมักดองที่ผสมเครื่องปรุงหลายชนิด
คำว่า ดื่ม คือ ภิกษุดื่ม โดยที่สุดแม้ดื่มด้วยปลายหญ้าคาแตะ ต้องอาบัติ
ปาจิตตีย์

บทภาชนีย์
ติกปาจิตตีย์
น้ำเมา ภิกษุสำคัญว่าเป็นน้ำเมา ดื่ม ต้องอาบัติปาจิตตีย์
น้ำเมา ภิกษุไม่แน่ใจ ดื่ม ต้องอาบัติปาจิตตีย์
น้ำเมา ภิกษุสำคัญว่าไม่ใช่น้ำเมา ดื่ม ต้องอาบัติปาจิตตีย์


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 2 หน้า :465 }


พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ [5.ปาจิตติยกัณฑ์] 6.สุราปานวรรค 1.สุราปานสิกขาบท อนาปัตติวาร
ทุกทุกกฏ
ไม่ใช่น้ำเมา ภิกษุสำคัญว่าเป็นน้ำเมา ต้องอาบัติทุกกฏ
ไม่ใช่น้ำเมา ภิกษุไม่แน่ใจ ต้องอาบัติทุกกฏ
ไม่ใช่น้ำเมา ภิกษุสำคัญว่าไม่ใช่น้ำเมา ไม่ต้องอาบัติ

อนาปัตติวาร
ภิกษุต่อไปนี้ไม่ต้องอาบัติ คือ
[329] 1. ภิกษุดื่มยาดองที่มีสี กลิ่น รส เหมือนน้ำเมาแต่ไม่ใช่น้ำเมา
2. ภิกษุดื่มน้ำเมาเจือในแกง
3. ภิกษุดื่มน้ำเมาเจือในเนื้อ
4. ภิกษุดื่มน้ำเมาเจือในน้ำมัน
5. ภิกษุดื่มน้ำเมาเจือน้ำอ้อยดองมะขามป้อม
6. ภิกษุดื่มยาดองอริฏฐะ1ซึ่งไม่ใช่นํ้าเมา
7. ภิกษุวิกลจริต
8. ภิกษุต้นบัญญัติ

สุราปานสิกขาบทที่ 1 จบ

เชิงอรรถ :
1 ยาดองอริฏฐะ นั้นดองด้วยนํ้ามะขามป้อมเป็นต้น สี กลิ่น และรสคล้ายนํ้าเมา แต่ไม่ใช่นํ้าเมา (วิ.อ.2/
329/405)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 2 หน้า :466 }