พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ [5.ปาจิตติยกัณฑ์] 4.โภชนวรรค 7.วิกาลโภชนสิกขาบท อนาปัตติวาร
บทภาชนีย์
ติกปาจิตตีย์
[250] เวลาวิกาล ภิกษุสำคัญว่าเป็นวิกาล เคี้ยวของเคี้ยวหรือฉันของฉัน
ต้องอาบัติปาจิตตีย์
เวลาวิกาล ภิกษุไม่แน่ใจ เคี้ยวของเคี้ยวหรือฉันของฉัน ต้องอาบัติปาจิตตีย์
เวลาวิกาล ภิกษุสำคัญว่าเป็นกาล เคี้ยวของเคี้ยวหรือฉันของฉัน ต้องอาบัติ
ปาจิตตีย์
ติกทุกกฏ
ภิกษุรับประเคนยามกาลิก สัตตาหกาลิก ยาวชีวิกไว้เป็นอาหาร ต้องอาบัติ
ทุกกฏ ฉัน ต้องอาบัติทุกกฏทุก ๆ คำกลืน
กาล ภิกษุสำคัญว่าเป็นวิกาล ต้องอาบัติทุกกฏ
กาล ภิกษุไม่แน่ใจ ต้องอาบัติทุกกฏ
กาล ภิกษุสำคัญว่าเป็นกาล ไม่ต้องอาบัติ
อนาปัตติวาร
ภิกษุต่อไปนี้ไม่ต้องอาบัติ คือ
[251] 1. ภิกษุฉันของที่เป็นยามกาลิก สัตตาหกาลิก และยาวชีวิก เมื่อมี
เหตุผลที่สมควร
2. ภิกษุวิกลจริต
3. ภิกษุต้นบัญญัติ
วิกาลโภชนสิกขาบทที่ 7 จบ
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ [5.ปาจิตติยกัณฑ์] 4.โภชนวรรค 8.สันนิธิการกสิกขาบท นิทานวัตถุ
4. โภชนวรรค
8. สันนิธิการกสิกขาบท
ว่าด้วยการสะสมโภชนะ
เรื่องพระเวฬัฏฐสีสะ
[252] สมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อาราม
ของอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตกรุงสาวัตถี ครั้งนั้น ท่านพระเวฬัฏฐสีสะ พระอุปัชฌาย์
ของท่านพระอานนท์อยู่ในป่า ท่านเที่ยวบิณฑบาตได้มากมาย เอาข้าวสุกเปล่าไป
ตากแห้งเก็บไว้ที่อาราม คราวที่ต้องการภัตตาหารก็นำมาแช่น้ำแล้วฉัน นาน ๆ จึง
จะเข้าไปบิณฑบาตในหมู่บ้าน
ภิกษุทั้งหลายได้กล่าวกับท่านพระเวฬัฏฐสีสะดังนี้ว่า ท่าน ทำไมนาน ๆ
ท่านจึงเข้าไปบิณฑบาตในหมู่บ้าน ลำดับนั้น ท่านพระเวฬัฏฐสีสะจึงแจ้งเรื่องนั้นให้
ภิกษุทั้งหลายทราบ
ภิกษุทั้งหลายถามว่า ท่าน ท่านฉันอาหารที่เก็บสะสมไว้หรือ
ท่านตอบว่า ใช่ ขอรับ
บรรดาภิกษุผู้มักน้อย ฯลฯ จึงพากันตำหนิ ประณาม โพนทะนาว่าไฉนท่าน
พระเวฬัฏฐสีสะจึงฉันโภชนะที่เก็บสะสมไว้เล่า ครั้นภิกษุทั้งหลายตำหนิท่านพระ
เวฬัฏฐสีสะโดยประการต่าง ๆ แล้วจึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ
ทรงประชุมสงฆ์บัญญัติสิกขาบท
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งให้ประชุมสงฆ์เพราะเรื่องนี้เป็นต้นเหตุทรง
สอบถามท่านพระเวฬัฏฐสีสะว่า เวฬัฏฐสีสะ ทราบว่า เธอฉันโภชนะที่เก็บสะสมไว้
จริงหรือ พระเถระทูลรับว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้า
ทรงตำหนิว่า ฯลฯ เวฬัฏฐสีสะ ไฉนเธอจึงฉันโภชนะที่เก็บสะสมไว้เล่า เวฬัฏฐสีสะ