พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ [5.ปาจิตติยกัณฑ์] 1.มุสาวาทวรรค 7.ธัมมเทสนาสิกขาบท พระอนุบัญญัติ
พวกอุบาสิกากล่าวว่า ขอนิมนต์พระคุณเจ้าทั้งหลายโปรดแสดงธรรมสัก
5-6 คำก็ได้ แม้เพียงเท่านี้พวกดิฉันอาจเข้าใจธรรมได้
พวกภิกษุก็ยังปฏิเสธว่า น้องหญิง การแสดงธรรมแก่มาตุคามไม่เหมาะ
พากันยำเกรงอยู่จึงไม่ยอมแสดงธรรม
พวกอุบาสิกาจึงพากันตำหนิ ประณาม โพนทะนาว่า ไฉนพระคุณเจ้า
ทั้งหลายพวกเราอาราธนาอยู่ยังไม่ยอมแสดงธรรม
พวกภิกษุได้ยินอุบาสิกาตำหนิ ประณาม โพนทะนา จึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูล
พระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคทรงแสดงธรรมีกถาเพราะเรื่องนี้เป็นต้นเหตุ แล้ว
รับสั่งกับภิกษุทั้งหลายว่า ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้แสดงธรรมแก่มาตุคามได้
5-6 คำ แล้วจึงรับสั่งให้ภิกษุทั้งหลายยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดงดังนี้
พระอนุบัญญัติ
อนึ่ง ภิกษุใดแสดงธรรมแก่มาตุคามเกิน 5-6 คำ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
สิกขาบทนี้พระผู้มีพระภาคทรงบัญญัติไว้แก่ภิกษุทั้งหลายอย่างนี้
เรื่องอุบาสิกา จบ
เรื่องพระฉัพพัคคีย์
[62] สมัยนั้น พวกภิกษุฉัพพัคคีย์ ทราบว่า พระผู้มีพระภาคทรงอนุญาตให้
แสดงธรรมแก่มาตุคามได้ 5-6 คำ จึงให้บุรุษไม่รู้เดียงสานั่งใกล้ ๆ แล้วแสดงธรรม
แก่มาตุคามเกิน 5-6 คำ
พวกภิกษุผู้มักน้อย ฯลฯ พากันตำหนิ ประณาม โพนทะนาว่า ไฉนพวก
ภิกษุฉัพพัคคีย์จึงให้บุรุษไม่รู้เดียงสานั่งใกล้ ๆ แล้วแสดงธรรมแก่มาตุคามเกิน 5-6
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ [5.ปาจิตติยกัณฑ์] 1.มุสาวาทวรรค 7.ธัมมเทสนาสิกขาบท สิกขาบทวิภังค์
คำเล่า ครั้นภิกษุเหล่านั้นตำหนิพวกภิกษุฉัพพัคคีย์โดยประการต่าง ๆ แล้วจึงนำ
เรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ
ทรงประชุมสงฆ์บัญญัติสิกขาบท
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งให้ประชุมสงฆ์เพราะเรื่องนี้เป็นต้นเหตุ ทรง
สอบถามพวกภิกษุพระฉัพพัคคีย์ว่า ภิกษุทั้งหลาย ทราบว่า พวกเธอให้บุรุษไม่
รู้เดียงสานั่งใกล้ ๆ แล้วแสดงธรรมแก่มาตุคามเกิน 5-6 คำ จริงหรือ พวก
ภิกษุฉัพพัคคีย์ทูลรับว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงตำหนิ
ว่า โมฆบุรษทั้งหลาย ไฉนพวกเธอจึงให้บุรุษไม่รู้เดียงสานั่งใกล้ ๆ แล้วแสดงธรรม
แก่มาตุคามเกิน 5-6 คำเล่า โมฆบุรุษทั้งหลาย การกระทำอย่างนี้ มิได้ทำคนที่ยัง
ไม่เลื่อมใสให้เลื่อมใส ฯลฯ แล้วจึงรับสั่งให้ภิกษุทั้งหลายยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดง
ดังนี้
พระอนุบัญญัติ
[63] อนึ่ง ภิกษุใดแสดงธรรมแก่มาตุคามเกิน 5-6 คำ ต้องอาบัติ
ปาจิตตีย์ เว้นไว้แต่มีบุรุษรู้เดียงสาอยู่
เรื่องพระฉัพพัคคีย์ จบ
สิกขาบทวิภังค์
[64] คำว่า อนึ่ง...ใด คือ ผู้ใด ผู้เช่นใด ฯลฯ นี้ที่พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
อนึ่ง...ใด
คำว่า ภิกษุ มีอธิบายว่า ชื่อว่าภิกษุ เพราะเป็นผู้ขอ ฯลฯ นี้ที่พระผู้มีพระ
ภาคทรงประสงค์เอาว่า ภิกษุ ในความหมายนี้
ที่ชื่อว่า มาตุคาม ได้แก่ หญิงมนุษย์ ไม่ใช่นางยักษ์ ไม่ใช่นางเปรต ไม่ใช่
สัตว์ดิรัจฉานตัวเมีย แต่เป็นหญิงที่รู้เดียงสา สามารถรับรู้ถ้อยคำสุภาษิตและคำ
ทุพภาษิต คำหยาบและคำสุภาพ