เมนู

พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ [5.ปาจิตติยกัณฑ์] 1.มุสาวาทวรรค 5.สหเสยยสิกขาบท พระบัญญัติ
พระบัญญัติ
ก็ ภิกษุใดนอนร่วมกันกับอนุปสัมบัน ต้องอาบัติปาจิตตีย์
สิกขาบทนี้พระผู้มีพระภาคทรงบัญญัติไว้แก่ภิกษุทั้งหลายอย่างนี้
เรื่องภิกษุบวชใหม่ จบ

เรื่องสามเณรราหุล
[50] ครั้นพระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ เมืองอาฬวี ตามพระอัธยาศัยแล้ว
ได้เสด็จจาริกไปทางกรุงโกสัมพี เสด็จจาริกไปโดยลำดับจนถึงกรุงโกสัมพี ทราบว่า
พระองค์ประทับอยู่ ณ พทริการาม เขตกรุงโกสัมพีนั้น
ภิกษุทั้งหลายได้กล่าวกับท่านราหุล1 ดังนี้ว่า “ท่าน พระผู้มีพระภาคทรงบัญญัติ
สิกขาบทไว้ว่า ภิกษุไม่พึงนอนร่วมกันกับอนุปสัมบัน ท่านราหุล ท่านจงหาที่นอน”
คืนนั้น ท่านราหุลหาที่นอนไม่ได้จึงไปนอนในวัจกุฎี2
ครั้นเวลาใกล้รุ่ง พระผู้มีพระภาคทรงตื่นบรรทมเสด็จไปวัจกุฎี ครั้นถึงแล้วจึง
ทรงพระกาสะ แม้ท่านราหุลก็กระแอมรับ
“ใครอยู่ในที่นี่”
“ข้าพระพุทธเจ้าราหุล พระพุทธเจ้าข้า”
“ราหุล เธอมานอนที่นี่ทำไม”
ทีนั้น ท่านราหุลจึงกราบทูลเรื่องนั้นให้ทรงทราบ
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคทรงแสดงธรรมีกถาเพราะเรื่องนี้เป็นต้นเหตุ รับสั่ง
กับภิกษุทั้งหลายว่า “ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ภิกษุนอนร่วมกันกับอนุปสัมบัน
ได้ 2-3 คืน” แล้วจึงรับสั่งให้ภิกษุทั้งหลายยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดงดังนี้

เชิงอรรถ :
1 พระราหุลยังบวชเป็นสามเณรอยู่
2 “วัจกุฎี” คือห้องสุขา

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 2 หน้า :238 }


พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ [5.ปาจิตติยกัณฑ์] 1.มุสาวาทวรรค 5.สหเสยยสิกขาบท บทภาชนีย์
พระอนุบัญญัติ
[51] อนึ่ง ภิกษุใดนอนร่วมกันกับอนุปสัมบันเกิน 2-3 คืน ต้องอาบัติ
ปาจิตตีย์
เรื่องสามเณรราหุล จบ

สิกขาบทวิภังค์
[52] คำว่า อนึ่ง...ใด คือ ผู้ใด ผู้เช่นใด ฯลฯ นี้ที่พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
อนึ่ง...ใด
คำว่า ภิกษุ มีอธิบายว่า ชื่อว่าภิกษุ เพราะเป็นผู้ขอ ฯลฯ นี้ที่พระผู้มี
พระภาคทรงประสงค์เอาว่า ภิกษุ ในความหมายนี้
ที่ชื่อว่า อนุปสัมบัน คือ ยกเว้นภิกษุ นอกนั้นชื่อว่าอนุปสัมบัน
คำว่า เกิน 2-3 คืน คือ มากกว่า 2-3 คืน
คำว่า ร่วมกัน คือ ด้วยกัน
ที่ชื่อว่า ที่นอน ได้แก่ ที่นอนมีเครื่องมุงทั้งหมด มีเครื่องบังทั้งหมด หรือ
มีเครื่องมุงส่วนมาก มีเครื่องบังส่วนมาก
คำว่า นอน ความว่า เมื่อดวงอาทิตย์อัสดงในวันที่ 4 เมื่ออนุปสัมบันนอน
ภิกษุก็นอน ต้องอาบัติปาจิตตีย์ เมื่อภิกษุนอนอนุปสัมบันก็นอน ต้องอาบัติปาจิตตีย์
หรือทั้งภิกษุและอนุปสัมบันนอน ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ภิกษุลุกขึ้นแล้วกลับไปนอน
อีก ต้องอาบัติปาจิตตีย์

บทภาชนีย์
ติกปาจิตตีย์
[53] อนุปสัมบัน ภิกษุสำคัญว่าเป็นอนุปสัมบัน นอนร่วมกันเกิน 2-3
คืน ต้องอาบัติปาจิตตีย์
อนุปสัมบัน ภิกษุไม่แน่ใจ นอนร่วมกันเกิน 2-3 คืน ต้องอาบัติปาจิตตีย์

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 2 หน้า :239 }