พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ [5.ปาจิตติยกัณฑ์] 1.มุสาวาทวรรค 2.โอมสวาทสิกขาบท บทภาชนีย์
10. กล่าวเสียดสีด้วยคำด่า
กล่าวกับอนุปสัมบันผู้มีคุณสมบัติสูงด้วยคำด่าสุภาพ คือ กล่าวกับอนุปสัมบัน
ผู้เป็นบัณฑิต กับอนุปสัมบันผู้เป็นคนฉลาด กับอนุปสัมบันผู้เป็นนักปราชญ์ กับ
อนุปสัมบันผู้เป็นพหูสูต กับอนุปสัมบันผู้เป็นธรรมกถึกว่า ท่านเป็นบัณฑิต ท่าน
เป็นคนฉลาด ท่านเป็นนักปราชญ์ ท่านเป็นพหูสูต ท่านเป็นธรรมกถึก ท่านไม่มีทุคติ
หวังได้แต่สุคติเท่านั้น ต้องอาบัติทุพภาสิตทุก ๆ คำพูด
1. กล่าวเสียดสีด้วยชาติกำเนิด
อุปสัมบันไม่ต้องการจะด่า ไม่ต้องการจะสบประมาท ไม่ต้องการจะทำให้
อนุปสัมบันเก้อเขิน แต่ต้องการจะเล่น กล่าวอย่างนี้ว่า ในพระธรรมวินัยนี้ มี
อนุปสัมบันบางพวกเป็นคนจัณฑาล เป็นคนจักสาน เป็นนายพราน เป็นช่างรถ
เป็นคนเทขยะ ฯลฯ
10. กล่าวเสียดสีด้วยคำด่า
ในพระธรรมวินัยนี้ มีอนุปสัมบันบางพวกเป็นบัณฑิต เป็นคนฉลาด เป็นนัก
ปราชญ์ เป็นพหูสูต เป็นธรรมกถึก พวกเขาไม่มีทุคติ หวังได้แต่สุคติเท่านั้น ต้อง
อาบัติทุพภาสิตทุก ๆ คำพูด
1. กล่าวเสียดสีด้วยชาติกำเนิด
อุปสัมบันไม่ต้องการจะด่า ไม่ต้องการจะสบประมาท ไม่ต้องการจะทำให้
อนุปสัมบันเก้อเขิน แต่ต้องการจะเล่น กล่าวอย่างนี้ว่า อนุปสัมบันพวกใดกันแน่
เป็นคนจัณฑาล เป็นคนจักสาน เป็นนายพราน เป็นช่างรถ เป็นคนเทขยะ ฯลฯ
10. กล่าวเสียดสีด้วยคำด่า
อนุปสัมบันพวกใดกันแน่เป็นบัณฑิต เป็นคนฉลาด เป็นนักปราชญ์ เป็นพหูสูต
เป็นธรรมกถึก ต้องอาบัติทุพภาสิตทุก ๆ คำพูด
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ [5.ปาจิตติยกัณฑ์] 1.มุสาวาทวรรค 2.โอมสวาทสิกขาบท อนาปัตติวาร
1. กล่าวเสียดสีด้วยชาติกำเนิด
อุปสัมบันไม่ต้องการจะด่า ไม่ต้องการจะสบประมาท ไม่ต้องการจะทำให้
อนุปสัมบันเก้อเขิน แต่ต้องการจะเล่น กล่าวอย่างนี้ว่า พวกเราไม่ใช่คนจัณฑาล
คนจักสาน นายพราน ช่างรถ คนเทขยะ ฯลฯ
10. กล่าวเสียดสีด้วยคำด่า
พวกเราไม่ใช่บัณฑิต เป็นคนฉลาด เป็นนักปราชญ์ เป็นพหูสูต เป็นธรรมกถึก
พวกเราไม่มีทุคติ หวังได้แต่สุคติเท่านั้น ต้องอาบัติทุพภาสิตทุก ๆ คำพูด
อนาปัตติวาร
ภิกษุต่อไปนี้ไม่ต้องอาบัติ คือ
[35] 1. ภิกษุมุ่งอรรถ
2. ภิกษุมุ่งธรรม
3. ภิกษุมุ่งพร่ำสอน
4. ภิกษุวิกลจริต
5. ภิกษุผู้มีจิตฟุ้งซ่าน
6. ภิกษุผู้กระสับกระส่ายเพราะเวทนา
7. ภิกษุต้นบัญญัติ
โอมสวาทสิกขาบทที่ 2 จบ