พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ [4.นิสสัคคิยกัณฑ์] 1.จีรวรรค 3.ตติยกฐินสิกขาบท พระบัญญัติ
[498] ต่อมา ภิกษุทั้งหลายทราบว่า พระผู้มีพระภาคทรงอนุญาตให้รับผ้า
ที่เป็นอกาลจีวรเก็บไว้ได้โดยมีความหวังว่าจะได้ผ้ามาเพิ่ม จึงรับผ้าที่เป็นอกาลจีวร
เก็บไว้เกิน 1 เดือน ผ้าเหล่านั้นถูกมัดรวมเป็นห่อ ๆ แขวนไว้ที่ราว
ท่านพระอานนท์เที่ยวไปตามเสนาสนะ เห็นผ้าเหล่านั้นถูกมัดรวมเป็นห่อ ๆ
แขวนไว้ที่ราว จึงถามภิกษุทั้งหลายว่า ผ้าเหล่านั้นถูกมัดรวมเป็นห่อ ๆ แขวนไว้ที่
ราว เป็นของใคร
ภิกษุทั้งหลายตอบว่า ผ้าเหล่านี้เป็นอกาลจีวร พวกกระผมเก็บไว้โดยความ
หวังว่าจะได้ผ้ามาเพิ่ม
พระอานนท์ถามว่า เก็บไว้นานเท่าไร
ภิกษุทั้งหลายตอบว่า เก็บไว้เกิน 1 เดือน ขอรับ
พระอานนท์ตำหนิ ประณาม โพนทะนาว่า ไฉนภิกษุทั้งหลายจึงรับผ้าที่เป็น
อกาลจีวรเก็บไว้เกิน 1 เดือนเล่า ครั้นท่านตำหนิภิกษุเหล่านั้นโดยประการต่าง ๆ
แล้วจึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ
ทรงประชุมสงฆ์บัญญัติสิกขาบท
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งให้ประชุมสงฆ์เพราะเรื่องนี้เป็นต้นเหตุ ทรง
สอบถามภิกษุทั้งหลายว่า ภิกษุทั้งหลาย ทราบว่า ภิกษุทั้งหลายรับผ้าที่เป็น
อกาลจีวรเก็บไว้เกิน 1 เดือน จริงหรือ ภิกษุเหล่านั้นทูลรับว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า
พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงตำหนิว่า ฯลฯ ภิกษุทั้งหลาย ไฉนโมฆบุรุษเหล่านั้น
จึงรับผ้าที่เป็นอกาลจีวรแล้วเก็บไว้เกิน 1 เดือนเล่า ภิกษุทั้งหลาย การกระทำอย่างนี้
มิได้ทำคนที่ยังไม่เลื่อมใสให้เลื่อมใส หรือทำคนที่เลื่อมใสอยู่แล้วให้เลื่อมใสยิ่งขึ้นได้
เลย ฯลฯ แล้วจึงรับสั่งให้ภิกษุทั้งหลายยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดงดังนี้
พระบัญญัติ
[499] เมื่อจีวรของภิกษุสำเร็จแล้ว เมื่อกฐินเดาะแล้ว อกาลจีวรเกิดขึ้น
แก่ภิกษุ ภิกษุต้องการก็พึงรับไว้ได้ ครั้นรับแล้วพึงรีบให้ทำเป็นจีวร ถ้าผ้านั้น