เมนู

พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ [5.ปาจิตติยกัณฑ์] 1.มุสาวาทวรรค 1.มุสาวาทสิกขาบท บทภาชนีย์
อาการกล่าวเท็จทั้งที่รู้
1. ไม่ได้เห็น แต่กล่าวว่าได้เห็น
[4] ไม่ได้เห็น ภิกษุกล่าวเท็จทั้งที่รู้ว่า “ข้าพเจ้าได้เห็นแล้ว” ด้วยอาการ 3
อย่าง คือ (1) เบื้องต้นเธอรู้ว่าจักกล่าวเท็จ (2) กำลังกล่าวก็รู้ว่ากำลังกล่าวเท็จ
(3) ครั้นกล่าวแล้วก็รู้ว่ากล่าวเท็จแล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ไม่ได้เห็น ภิกษุกล่าวเท็จทั้งที่รู้ว่า “ข้าพเจ้าได้เห็นแล้ว” ด้วยอาการ 4 อย่าง
คือ (1) เบื้องต้นเธอรู้ว่าจักกล่าวเท็จ (2) กำลังกล่าวก็รู้ว่ากำลังกล่าวเท็จ (3) ครั้น
กล่าวแล้วก็รู้ว่ากล่าวเท็จแล้ว (4) อำพรางความเห็น ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ไม่ได้เห็น ภิกษุกล่าวเท็จทั้งที่รู้ว่า “ข้าพเจ้าได้เห็นแล้ว” ด้วยอาการ 5 อย่าง
คือ (1) เบื้องต้นเธอรู้ว่าจักกล่าวเท็จ (2) กำลังกล่าวก็รู้ว่ากำลังกล่าวเท็จ (3) ครั้น
กล่าวแล้วก็รู้ว่ากล่าวเท็จแล้ว (4) อำพรางความเห็น (5) อำพรางความเห็นชอบ
ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ไม่ได้เห็น ภิกษุกล่าวเท็จทั้งที่รู้ว่า “ข้าพเจ้าได้เห็นแล้ว” ด้วยอาการ 6 อย่าง
คือ (1) เบื้องต้นเธอรู้ว่าจักกล่าวเท็จ (2) กำลังกล่าวก็รู้ว่ากำลังกล่าวเท็จ (3)
ครั้นกล่าวแล้วก็รู้ว่ากล่าวเท็จแล้ว (4) อำพรางความเห็น (5) อำพรางความ
เห็นชอบ (6) อำพรางความพอใจ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ไม่ได้เห็น ภิกษุกล่าวเท็จทั้งที่รู้ว่า “ข้าพเจ้าได้เห็นแล้ว” ด้วยอาการ 7 อย่าง
คือ (1) เบื้องต้นเธอรู้ว่าจักกล่าวเท็จ (2) กำลังกล่าวก็รู้ว่ากำลังกล่าวเท็จ (3)
ครั้นกล่าวแล้วก็รู้ว่ากล่าวเท็จแล้ว (4) อำพรางความเห็น (5) อำพรางความเห็น
ชอบ (6) อำพรางความพอใจ (7) อำพรางความประสงค์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์

2. ไม่ได้ยิน แต่กล่าวว่าได้ยิน
[5] ไม่ได้ยิน ภิกษุกล่าวเท็จทั้งที่รู้ว่า “ข้าพเจ้าได้ยินแล้ว” ด้วยอาการ
3 อย่าง ... ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ฯลฯ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 2 หน้า :188 }


พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ [5.ปาจิตติยกัณฑ์] 1.มุสาวาทวรรค 1.มุสาวาทสิกขาบท บทภาชนีย์
3. ไม่ทราบ แต่กล่าวว่าทราบ
ไม่ทราบ ภิกษุกล่าวเท็จทั้งที่รู้ว่า “ข้าพเจ้าทราบแล้ว” ด้วยอาการ 3 อย่าง ...
ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ฯลฯ

4. ไม่รู้ แต่กล่าวว่ารู้
ไม่รู้ ภิกษุกล่าวเท็จทั้งที่รู้ว่า “ข้าพเจ้ารู้แล้ว” ด้วยอาการ 3 อย่าง คือ
(1) เบื้องต้นเธอรู้ว่าจักกล่าวเท็จ (2) กำลังกล่าวก็รู้ว่ากำลังกล่าวเท็จ (3) ครั้น
กล่าวแล้วก็รู้ว่ากล่าวเท็จแล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ไม่รู้ ภิกษุกล่าวเท็จทั้งที่รู้ว่า “ข้าพเจ้ารู้แล้ว” ด้วยอาการ 4 อย่าง ฯลฯ
ด้วยอาการ 5 อย่าง ฯลฯ ด้วยอาการ 6 อย่าง ฯลฯ ด้วยอาการ 7 อย่าง คือ
(1) เบื้องต้นเธอรู้ว่าจักกล่าวเท็จ (2) กำลังกล่าวก็รู้ว่ากำลังกล่าวเท็จ (3) ครั้น
กล่าวแล้วก็รู้ว่ากล่าวเท็จแล้ว (4) อำพรางความเห็น (5) อำพรางความเห็นชอบ
(6) อำพรางความพอใจ (7) อำพรางความประสงค์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์

ไม่ได้เห็น แต่กล่าวว่าได้เห็นและได้ยิน
[6] ไม่ได้เห็น ภิกษุกล่าวเท็จทั้งที่รู้ว่า “ข้าพเจ้าได้เห็นแล้วและได้ยินแล้ว”
ด้วยอาการ 3 อย่าง ... ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ฯลฯ

ไม่ได้เห็น แต่กล่าวว่าได้เห็นและทราบ
ไม่ได้เห็น ภิกษุกล่าวเท็จทั้งที่รู้ว่า “ข้าพเจ้าได้เห็นแล้วและทราบแล้ว” ด้วย
อาการ 3 อย่าง ... ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ฯลฯ

ไม่ได้เห็น แต่กล่าวว่าได้เห็นและรู้
ไม่ได้เห็น ภิกษุกล่าวเท็จทั้งที่รู้ว่า “ข้าพเจ้าได้เห็นแล้วและรู้แล้ว” ด้วย
อาการ 3 อย่าง ... ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ฯลฯ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 2 หน้า :189 }