พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ [4.นิสสัคคิยกัณฑ์] 2.โกสิยวรรค 7.เอฬกโลมโธวาปนสิกขาบท อนาปัตติวาร
ภิกษุณีที่เป็นญาติ ภิกษุไม่แน่ใจ ต้องอาบัติทุกกฏ
ภิกษุณีที่เป็นญาติ ภิกษุสำคัญว่าเป็นญาติ ไม่ต้องอาบัติ
อนาปัตติวาร
ภิกษุต่อไปนี้ไม่ต้องอาบัติ คือ
[581] 1. ภิกษุณีผู้เป็นญาติซักให้ โดยมีเพื่อนภิกษุณีผู้ไม่ใช่ญาติคอยช่วยเหลือ
2. ภิกษุเจ้าของขนเจียมที่ภิกษุณีอาสาซักให้
3. ภิกษุใช้ให้ซักขนเจียมที่ทำเป็นสิ่งของซึ่งไม่ได้ใช้สอย
4. ภิกษุใช้ให้สิกขมานาซัก
5. ภิกษุใช้ให้สามเณรีซัก
6. ภิกษุวิกลจริต
7. ภิกษุต้นบัญญัติ
เอฬกโลมโธวาปนสิกขาบทที่ 7 จบ
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ [4.นิสสัคคิยกัณฑ์] 2.โกสิยวรรค 8.รูปิยสิกขาบท นิทานวัตถุ
2. โกสิยวรรค
8. รูปิยสิกขาบท
ว่าด้วยการรับรูปิยะ
เรื่องพระอุปนันทศากยบุตร
[582] สมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระเวฬุวัน สถานที่
ให้เหยื่อกระแต เขตกรุงราชคฤห์ ครั้งนั้น ท่านพระอุปนันทศากยบุตรเป็นพระประจำ
ตระกูลของตระกูลหนึ่ง รับภัตตาหารอยู่เป็นประจำ หากของเคี้ยวของฉันอันใดเกิด
ขึ้นในตระกูลนั้น เขาก็จะเก็บของเคี้ยวของฉันอันนั้นไว้เพื่อท่านส่วนหนึ่ง
สมัยนั้น ในเวลาเย็น เนื้อเกิดขึ้นในตระกูลนั้น เขาได้เก็บเนื้อนั้นไว้เพื่อท่าน
พระอุปนันทศากยบุตรส่วนหนึ่ง เด็กในตระกูลนั้นตื่นเช้ามืด ร้องไห้อ้อนวอนว่า
พวกท่านโปรดให้เนื้อแก่กระผม
ทีนั้น สามีสั่งภรรยาว่า เธอจงให้เนื้อส่วนของพระคุณเจ้าแก่เด็ก เราจะซื้อ
ของอื่นถวายท่าน
ลำดับนั้น ท่านพระอุปนันทศากยบุตรครองอันตรวาสกถือบาตรและจีวรเข้าไป
ถึงตระกูลนั้น นั่งบนอาสนะที่เขาปูลาดไว้ ชายผู้นั้นเข้าไปหาท่านพระอุปนันทศากย
บุตรถึงอาสนะ ครั้นถึงแล้วไหว้ท่านแล้วนั่งลง ณ ที่สมควร กล่าวว่า ท่านผู้เจริญ
เมื่อวันวานในเวลาเย็น ได้มีเนื้อเกิดขึ้น พวกข้าพเจ้าได้เก็บเนื้อนั้นไว้เพื่อพระคุณเจ้า
ส่วนหนึ่ง เด็กคนนี้ตื่นเช้ามืด ร้องไห้อ้อนวอนว่า พวกท่านโปรดให้เนื้อแก่กระผม
พวกเราจึงให้ส่วนของพระคุณเจ้าแก่เด็ก พระคุณเจ้าจะให้กระผมนำกหาปณะไป
แลกอะไรมา ขอรับ ท่านพระอุปนันทศากยบุตรถามว่า ท่านบริจาคทรัพย์ 1
กหาปณะแก่อาตมาหรือ เขาตอบว่า ใช่ ขอรับ ท่านพระอุปนันทศากยบุตร
กล่าวว่า ท่านจงถวายกหาปณะนั้นแก่อาตมาเถิด