พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ [3. อนิยตกัณฑ์] 1. ปฐมอนิยตสิกขาบท บทภาชนีย์
ถ้าอุบาสิกานั้นกล่าวอย่างนี้ว่า ดิฉันเห็นพระคุณเจ้ากำลังนั่งเสพเมถุนกับ
มาตุคาม ถ้าภิกษุนั้นกล่าวอย่างนี้ว่า อาตมาไม่ได้นั่ง แต่ยืนอยู่ ไม่พึงปรับอาบัติ
เห็นกำลังนอนเสพเมถุน
[447] ถ้าอุบาสิกานั้นกล่าวอย่างนี้ว่า ดิฉันเห็นพระคุณเจ้ากำลังนอน
เสพเมถุนกับมาตุคาม และภิกษุนั้นยอมรับการนอนนั้น พึงปรับตามอาบัติ
ถ้าอุบาสิกานั้นกล่าวอย่างนี้ว่า ดิฉันเห็นพระคุณเจ้ากำลังนอนเสพเมถุนกับ
มาตุคาม ถ้าภิกษุนั้นกล่าวอย่างนี้ว่า อาตมานอนจริง แต่ไม่ได้เสพเมถุน พึง
ปรับอาบัติเพราะนอน
ถ้าอุบาสิกานั้นกล่าวอย่างนี้ว่า ดิฉันเห็นพระคุณเจ้ากำลังนอนเสพเมถุนกับ
มาตุคาม ถ้าภิกษุนั้นกล่าวอย่างนี้ว่า อาตมาไม่ได้นอน แต่นั่งอยู่ พึงปรับอาบัติ
เพราะนั่ง
ถ้าอุบาสิกานั้นกล่าวอย่างนี้ว่า ดิฉันเห็นพระคุณเจ้ากำลังนอนเสพเมถุนกับ
มาตุคาม ถ้าภิกษุนั้นกล่าวอย่างนี้ว่า อาตมาไม่ได้นอน แต่ยืนอยู่ ไม่พึงปรับอาบัติ
เห็นกำลังนั่งถูกต้องกาย
[448] ถ้าอุบาสิกานั้นกล่าวอย่างนี้ว่า ดิฉันเห็นพระคุณเจ้ากำลังนั่งถูก
ต้องกายกับมาตุคาม และภิกษุนั้นยอมรับการนั่งนั้น พึงปรับตามอาบัติ
ถ้าอุบาสิกานั้นกล่าวอย่างนี้ว่า ดิฉันเห็นพระคุณเจ้ากำลังนั่งถูกต้องกายกับ
มาตุคาม ถ้าภิกษุนั้นกล่าวอย่างนี้ว่า อาตมานั่งจริง แต่ไม่ได้ถูกต้องกาย พึงปรับ
อาบัติเพราะการนั่ง ฯลฯ อาตมาไม่ได้นั่ง แต่นอนอยู่ พึงปรับอาบัติเพราะนอน
ฯลฯ อาตมาไม่ได้นั่ง แต่ยืนอยู่ ไม่พึงปรับอาบัติ
เห็นกำลังนอนถูกต้องกาย
ถ้าอุบาสิกานั้นกล่าวอย่างนี้ว่า ดิฉันเห็นพระคุณเจ้ากำลังนอนถูกต้องกาย
กับมาตุคาม และภิกษุนั้นยอมรับการนอนนั้น พึงปรับตามอาบัติ