พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ [3. อนิยตกัณฑ์] 1. ปฐมอนิยตสิกขาบท บทภาชนีย์
ที่ชื่อว่า มีวาจาเชื่อถือได้ ถือ หญิงผู้บรรลุผล1 ผู้ตรัสรู้ธรรม ผู้เข้าใจศาสนาดี
ชื่อว่า อุบาสิกา ได้แก่ หญิงผู้ถึงพระพุทธเป็นสรณะ ถึงพระธรรมเป็นสรณะ
ถึงพระสงฆ์เป็นสรณะ
คำว่า ได้เห็น คือ ได้พบ
อุบาสิกามีวาจาเชื่อถือได้ กล่าวโทษด้วยอาบัติอย่างใดอย่างหนึ่ง บรรดา
อาบัติ 3 อย่าง คือ ปาราชิก สังฆาทิเสส หรือปาจิตตีย์ ภิกษุยอมรับการนั่ง พึงถูก
ปรับ อาบัติอย่างใดอย่างหนึ่ง บรรดาอาบัติ 3 อย่าง คือ ปาราชิก สังฆาทิเสส หรือ
ปาจิตตีย์ อีกประการหนึ่ง อุบาสิกาผู้มีวาจาเชื่อถือนั้นกล่าวโทษด้วยอาบัติใด ภิกษุ
นั้นพึงถูกปรับด้วยอาบัตินั้น
บทภาชนีย์
ปฏิญญาตกรณะ 2
เห็นกำลังนั่งเสพเมถุน
[446] ถ้าอุบาสิกานั้นกล่าวอย่างนี้ว่า ดิฉันเห็นพระคุณเจ้ากำลังนั่งเสพ
เมถุนกับมาตุคาม และภิกษุนั้นก็ยอมรับการนั่งนั้น พึงปรับตามอาบัติ
ถ้าอุบาสิกานั้นกล่าวอย่างนี้ว่า ดิฉันเห็นพระคุณเจ้ากำลังนั่งเสพเมถุนกับ
มาตุคาม ถ้าภิกษุนั้นกล่าวอย่างนี้ว่า อาตมานั่งจริง แต่ไม่ได้เสพเมถุนธรรม พึง
ปรับอาบัติเพราะนั่ง
ถ้าอุบาสิกานั้นกล่าวอย่างนี้ว่า ดิฉันเห็นพระคุณเจ้ากำลังนั่งเสพเมถุนกับ
มาตุคาม ถ้าภิกษุนั้นกล่าวอย่างนี้ว่า อาตมาไม่ได้นั่ง แต่นอน พึงปรับอาบัติ
เพราะนอน
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ [3. อนิยตกัณฑ์] 1. ปฐมอนิยตสิกขาบท บทภาชนีย์
ถ้าอุบาสิกานั้นกล่าวอย่างนี้ว่า ดิฉันเห็นพระคุณเจ้ากำลังนั่งเสพเมถุนกับ
มาตุคาม ถ้าภิกษุนั้นกล่าวอย่างนี้ว่า อาตมาไม่ได้นั่ง แต่ยืนอยู่ ไม่พึงปรับอาบัติ
เห็นกำลังนอนเสพเมถุน
[447] ถ้าอุบาสิกานั้นกล่าวอย่างนี้ว่า ดิฉันเห็นพระคุณเจ้ากำลังนอน
เสพเมถุนกับมาตุคาม และภิกษุนั้นยอมรับการนอนนั้น พึงปรับตามอาบัติ
ถ้าอุบาสิกานั้นกล่าวอย่างนี้ว่า ดิฉันเห็นพระคุณเจ้ากำลังนอนเสพเมถุนกับ
มาตุคาม ถ้าภิกษุนั้นกล่าวอย่างนี้ว่า อาตมานอนจริง แต่ไม่ได้เสพเมถุน พึง
ปรับอาบัติเพราะนอน
ถ้าอุบาสิกานั้นกล่าวอย่างนี้ว่า ดิฉันเห็นพระคุณเจ้ากำลังนอนเสพเมถุนกับ
มาตุคาม ถ้าภิกษุนั้นกล่าวอย่างนี้ว่า อาตมาไม่ได้นอน แต่นั่งอยู่ พึงปรับอาบัติ
เพราะนั่ง
ถ้าอุบาสิกานั้นกล่าวอย่างนี้ว่า ดิฉันเห็นพระคุณเจ้ากำลังนอนเสพเมถุนกับ
มาตุคาม ถ้าภิกษุนั้นกล่าวอย่างนี้ว่า อาตมาไม่ได้นอน แต่ยืนอยู่ ไม่พึงปรับอาบัติ
เห็นกำลังนั่งถูกต้องกาย
[448] ถ้าอุบาสิกานั้นกล่าวอย่างนี้ว่า ดิฉันเห็นพระคุณเจ้ากำลังนั่งถูก
ต้องกายกับมาตุคาม และภิกษุนั้นยอมรับการนั่งนั้น พึงปรับตามอาบัติ
ถ้าอุบาสิกานั้นกล่าวอย่างนี้ว่า ดิฉันเห็นพระคุณเจ้ากำลังนั่งถูกต้องกายกับ
มาตุคาม ถ้าภิกษุนั้นกล่าวอย่างนี้ว่า อาตมานั่งจริง แต่ไม่ได้ถูกต้องกาย พึงปรับ
อาบัติเพราะการนั่ง ฯลฯ อาตมาไม่ได้นั่ง แต่นอนอยู่ พึงปรับอาบัติเพราะนอน
ฯลฯ อาตมาไม่ได้นั่ง แต่ยืนอยู่ ไม่พึงปรับอาบัติ
เห็นกำลังนอนถูกต้องกาย
ถ้าอุบาสิกานั้นกล่าวอย่างนี้ว่า ดิฉันเห็นพระคุณเจ้ากำลังนอนถูกต้องกาย
กับมาตุคาม และภิกษุนั้นยอมรับการนอนนั้น พึงปรับตามอาบัติ