พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ [2. สังฆาทิเสสกัณฑ์] 9. ทุติยทุฎฐโทสสิกขาบท นิทานวัตถุ
9. ทุติยทุฏฐโทสสิกขาบท
ว่าด้วยภิกษุขัดเคืองมีโทสะ สิกขาบทที่ 2
เรื่องพระเมตติยะและพระภุมมชกะ
[391] สมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระเวฬุวัน สถาน
ที่ให้เหยื่อกระแต เขตกรุงราชคฤห์ ครั้งนั้น พระเมตติยะและพระภุมมชกะ กำลังลง
จากภูเขาคิชฌกูฏ มองเห็นแพะตัวผู้กับตัวเมียกำลังสืบพันธุ์กัน จึงกล่าวว่า เอาเถิด
พวกเราจะสมมติแพะตัวผู้เป็นพระทัพพมัลลบุตร สมมติแพะตัวเมียเป็นภิกษุณีเมตติยา
จักกล่าวว่า ครั้งก่อนพวกเรากล่าวหาพระทัพพมัลลบุตร ด้วยได้ยินมา แต่บัดนี้
พวกเราได้เห็นพระทัพพมุลลบุตรเสพเมถุนกับภิกษุณีเมตติยา ด้วยตนเอง ท่าน
ทั้งสองได้สมมติพระทัพพมัลลบุตรเป็นแพะตัวผู้ สมมติภิกษุณีเมตติยาเป็นแพะตัว
เมีย แล้วแจ้งให้ภิกษุทั้งหลายทราบว่า ครั้งก่อน ฯลฯ แต่บัดนี้ พวกเราได้เห็นพระ
ทัพพมัลลบุตรเสพเมถุนกับภิกษุณีเมตติยา ด้วยตนเอง
ภิกษุทั้งหลายกล่าวอย่างนี้ว่า ท่านทั้งหลาย พวกท่านอย่ากล่าวอย่างนี้
ท่านพระทัพพมัลลบุตรจะไม่ทำกรรมเช่นนั้น แล้วนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มี
พระภาคให้ทรงทราบ
ทรงประชุมสงฆ์สอบถาม
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งให้ประชุมสงฆ์เพราะเรื่องนี้เป็นต้นเหตุ ทรง
สอบถามท่านพระทัพพมัลลบุตรว่า ทัพพะ เธอจำได้ไหมว่าเคยทำตามที่ภิกษุ
เหล่านี้กล่าวหา
ท่านพระทัพพมัลลบุตรกราบทูลว่า พระพุทธเจ้าข้า พระผู้มีพระภาคย่อม
ทรงทราบว่า ข้าพระพุทธเจ้าเป็นอย่างไร แม้ครั้งที่ 2 พระผู้มีพระภาคตรัสถามท่าน
พระทัพพมัลลบุตร ฯลฯ แม้ครั้งที่ 3 ตรัสถามท่านพระทัพพมัลลบุตรว่า ทัพพะ
เธอจำได้ไหมว่าได้ทำตามที่ภิกษุเหล่านี้กล่าวหา พระทัพพมัลลบุตรกราบทูลว่า
พระพุทธเจ้าข้า พระผู้มีพระภาคย่อมทรงทราบว่า ข้าพระพุทธเจ้าเป็นอย่างไร
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ [2. สังฆาทิเสสกัณฑ์] 9. ทุติยทุฎฐโทสสิกขาบท นิทานวัตถุ
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ทัพพะ บัณฑิตย่อมไม่แก้คำกล่าวหาอย่างนี้ ถ้าเธอ
ทำก็จงบอกว่าทำ ถ้าเธอไม่ได้ทำ ก็จงบอกว่าไม่ได้ทำ
ท่านพระทัพพมัลลบุตรกราบทูลว่า พระพุทธเจ้าข้า ตั้งแต่เกิดมา ข้า
พระพุทธเจ้า ไม่รู้จักการเสพเมถุนแม้ในความฝัน ไม่จำต้องกล่าวถึงเมื่อตอนตื่นอยู่
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งกับภิกษุทั้งหลายว่า ภิกษุทั้งหลาย ถ้า
อย่างนั้น เธอทั้งหลายจงสอบถามภิกษุเหล่านี้ แล้วเสด็จจากที่ประทับเข้าพระวิหาร
หลังจากนั้น ภิกษุทั้งหลายสอบถามพระเมตติยะและพระภุมมชกะ เมื่อถูก
สอบถามจึงได้รับสารภาพเรื่องนั้น
ภิกษุทั้งหลายถามว่า พวกท่านอ้างเอาบางส่วนแห่งอธิกรณ์เรื่องอื่นเป็นเลศ1
ใส่ความพระทัพพมัลลบุตรด้วยอาบัติปาราชิกหรือ
ท่านทั้งสองยอมรับ บรรดาภิกษุผู้มักน้อย ฯลฯ พากันตำหนิ ประณาม
โพนทะนาว่า ไฉนพระเมตติยะและพระกุมมชกะจึงอ้างเอาบางส่วนแห่งอธิกรณ์เรื่อง
อื่นเป็นเลศใส่ความพระทัพพมัลลบุตรด้วยอาบัติปาราชิกเล่า ครั้นภิกษุเหล่านั้น
ตำหนิท่านทั้งสองโดยประการต่าง ๆ แล้วจึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้
ทรงทราบ
ทรงประชุมสงฆ์บัญญัติสิกขาบท
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งให้ประชุมสงฆ์เพราะเรื่องนี้เป็นต้นเหตุ ทรง
สอบถามพระเมตติยะและพระภุมมชกะว่า ภิกษุทั้งหลาย ทราบว่าพวกเธออ้างเอา
บางส่วนแห่งอธิกรณ์เรื่องอื่นเป็นเลศใส่ความทัพพมัลลบุตรด้วยอาบัติปาราชิกจริงหรือ
พวกเธอทูลรับว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า พระผู้มีพระภาคทรงตำหนิว่า โมฆบุรุษ
ทั้งหลาย ไฉนพวกเธอจึงอ้างเอาบางส่วนแห่งอธิกรณ์เรื่องอื่นเป็นเลศใส่ความทัพพ
มัลลบุตรด้วยอาบัติปาราชิกเล่า โมฆบุรุษทั้งหลาย การกระทำอย่างนี้ มิได้ทำคนที่
ยังไม่เลื่อมใสให้เลื่อมใส ฯลฯ แล้วรับสั่งให้ภิกษุทั้งหลายยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดง ดังนี้