พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เวรัญชกัณฑ์
[6] พราหมณ์กราบทูลต่อไปว่า ท่านพระโคดม สอนให้ทำลาย
พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า พราหมณ์ ข้อที่เขากล่าวหาเรานั้นมีมูลอยู่
เพราะเราสอนให้ทำลายราคะ โทสะ โมหะ ตลอดถึงให้ทำลายบาปอกุศลธรรมต่างๆ
ข้อที่เขากล่าวหาเรานั้นมีมูลอยู่ แต่ไม่ใช่ที่ท่านกล่าวถึง
[7] พราหมณ์กราบทูลต่อไปว่า ท่านพระโคดม เป็นคนช่างรังเกียจ
พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า พราหมณ์ ข้อที่เขากล่าวหาเรานั้นมีมูลอยู่
เพราะเราช่างรังเกียจกายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต และบาปอกุศลธรรมต่างๆ ข้อ
ที่เขากล่าวหาเรานั้นมีมูลอยู่ แต่ไม่ใช่ที่ท่านกล่าวถึง
[8] พราหมณ์กราบทูลต่อไปว่า ท่านพระโคดม เป็นคนช่างกำจัด
พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า พราหมณ์ ข้อที่เขากล่าวหาเรานั้นมีมูลอยู่
เพราะเราแสดงธรรมเพื่อกำจัดราคะ โทสะ โมหะ และบาปอกุศลธรรมต่างๆ ข้อที่
เขากล่าวหาเรานั้นมีมูลอยู่ แต่ไม่ใช่ที่ท่านกล่าวถึง
[9] พราหมณ์กราบทูลต่อไปว่า ท่านพระโคดม เป็นคนช่างเผาผลาญ
พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า พราหมณ์ ข้อที่เขากล่าวหาเรานั้นมีมูลอยู่
เพราะเรากล่าวถึงบาปอกุศลธรรมทั้งหลาย คือ กายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริตว่า
เป็นสิ่งที่ควรเผาผลาญ พราหมณ์ เราเรียกคนที่ละบาปอกุศลธรรมทั้งหลายที่ควร
เผาผลาญ ตัดรากถอนโคนเหมือนต้นตาลที่ถูกตัดรากถอนโคนไปแล้วเหลือแต่พื้นที่
ทำให้ไม่มี เกิดขึ้นต่อไปไม่ได้ว่า เป็นคนช่างเผาผลาญ ตถาคตละบาปอกุศลธรรมต่างๆ
ที่ควรเผาผลาญได้หมดสิ้น ข้อที่เขากล่าวหาเรานั้นมีมูลอยู่ แต่ไม่ใช่ที่ท่านกล่าวถึง
[10] พราหมณ์กราบทูลต่อไปว่า ท่านพระโคดม เป็นคนไม่ผุดไม่เกิด
พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า พราหมณ์ ข้อที่เขากล่าวหาเรานั้นมีมูลอยู่
เพราะเราเรียกคนที่ละการอยู่ในครรภ์และการเกิดใหม่ได้หมด ตัดรากถอนโคน
เหมือนต้นตาลที่ถูกตัดรากถอนโคนไปแล้วเหลือแต่พื้นที่ ทำให้ไม่มี เกิดขึ้นต่อไปไม่ได้
ว่า เป็นคนไม่ผุดไม่เกิด ตถาคตละการอยู่ในครรภ์และการเกิดใหม่ได้หมดสิ้นแล้ว
ข้อที่เขากล่าวหาเรานั้นมีมูลอยู่ แต่ไม่ใช่ที่ท่านกล่าวถึง