เมนู

พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ [2. สังฆาทิเสสกัณฑ์] 6. กุฎิการสิกขาบท นิทานวัตถุ

ภิกษุนั้นกราบทูลว่า “สบายดี พระพุทธเจ้าข้า พอเป็นอยู่ได้ พระพุทธเจ้าข้า
ข้าพระพุทธเจ้าเดินทางมาโดยไม่ลำบาก พระพุทธเจ้าข้า แถบภูเขาหิมพานต์มีราว
ป่าใหญ่ ไม่ไกลจากที่นั้น มีหนองน้ำใหญ่ นกฝูงใหญ่เที่ยวหาอาหารที่หนองน้ำ
ตลอดทั้งวัน พอตกเย็นก็เข้าไปอาศัยราวป่า ข้าพระพุทธเจ้ารำคาญเสียงนกจึงหนี
มาจากที่นั้น”
“เธอต้องการไม่ให้ฝูงนกมาใช่ไหม”
“ข้าพระองค์ ต้องการไม่ให้ฝูงนกมา พระพุทธเจ้าข้า”
“ถ้าอย่างนั้น เธอจงกลับไปยังราวป่า แล้วเวลาปฐมยามแห่งราตรี ประกาศขึ้น
3 ครั้งว่า ‘นกที่อาศัยราวป่านี้มีเท่าใด จงฟังเรา เราต้องการขน จงให้ขนแก่เราตัวละ 1
อัน’ เวลามัชฌิมยามประกาศขึ้น 3 ครั้งว่า ‘นกที่อาศัยราวป่านี้มีเท่าใด จงฟังเรา
เราต้องการขน จงให้ขนแก่เราตัวละ 1 อัน’ เวลาปัจฉิมยามก็ประกาศขึ้น 3 ครั้งว่า
‘นกที่อาศัยราวป่านี้มีเท่าใด จงฟังเรา เราต้องการขน จงให้ขนแก่เราตัวละ 1 อัน’
ต่อมา ภิกษุนั้นกลับไปยังราวป่า เวลาปฐมยามแห่งราตรี ประกาศขึ้น 3 ครั้งว่า
“นกที่อาศัยราวป่านี้มีเท่าใด จงฟังเรา เราต้องการขน จงให้ขนแก่เราตัวละ 1 อัน”
เวลามัชฌิมยาม ฯลฯ ปัจฉิมยาม ก็ประกาศเช่นนั้น 3 ครั้งว่า “นกที่อาศัยราวป่านี้
มีเท่าใด จงฟังข้าพเจ้า ฯลฯ จงให้ขนแก่เราตัวละ 1 อัน” ครั้นฝูงนกรู้ว่า “ภิกษุขอขน
ภิกษุต้องการขน” ก็พากันบินหนีจากไปแล้วไม่หวนกลับมาอีกเลย
ภิกษุทั้งหลาย การขอ การออกปากขอ ย่อมไม่เป็นที่พอใจแม้ของพวกสัตว์
ดิรัจฉานเหล่านั้น ไม่จำต้องกล่าวถึงพวกมนุษย์เลย

เรื่องรัฐบาลกุลบุตร

[346] ภิกษุทั้งหลาย เรื่องเคยมีมาแล้ว บิดาของรัฐบาลกุลบุตร กล่าวเป็น
คาถาว่า
“ลูกรัฐบาล คนจำนวนมากพากันมาขอพ่อทั้งที่พ่อก็
ไม่รู้จัก ไฉนลูกจึงไม่ขอพ่อบ้างเล่า”
รัฐบาลกุลบุตรกล่าวตอบบิดาว่า

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 1 หน้า :382 }