เมนู

พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ [2. สังฆาทิเสสกัณฑ์] 6. กุฎิการสิกขาบท นิทานวัตถุ

อยู่ ครั้นถึงแล้วได้พักวงขนดหางล้อมรอบฤๅษี 7 รอบ แผ่พังพานใหญ่ปกเหนือศีรษะ
ฤๅษีผู้น้องกลับซูบผอม หมองคล้ำ ซีดเหลือง เส้นเอ็นขึ้นสะพรั่ง เพราะความหวาด
กลัวนาคราช
ฤๅษีผู้พี่เห็นฤๅษีผู้น้องซูบผอม หมองคล้ำ ซีดเหลือง เส้นเอ็นขึ้นสะพรั่ง จึง
ถามว่า “เพราะเหตุไร เธอจึงซูบผอม หมองคล้ำ ซีดเหลือง เส้นเอ็นขึ้นสะพรั่ง”
ฤๅษีผู้น้องตอบว่า “ที่นี้มีมณีกัณฐนาคราชขึ้นจากแม่น้ำคงคามาหากระผม
แล้วพักวงขนดหางล้อมรอบกระผม 7 รอบ แผ่พังพานใหญ่ปกเหนือศีรษะ เพราะ
ความกลัวนาคราชนั้น กระผมจึงซูบผอม หมองคล้ำ ซีดเหลือง เส้นเอ็นขึ้นสะพรั่ง’
ฤๅษีผู้พี่ถามว่า “เธอต้องการไม่ให้นาคราชมาหาใช่ไหม”
ฤๅษีผู้น้องตอบว่า “กระผมต้องการไม่ให้นาคราชนั้นมาหา”
ฤๅษีผู้พี่ถามว่า “เธอเห็นนาคราชมีอะไรบ้าง”
ฤๅษีผู้น้องตอบว่า “กระผมเห็นแก้วมณีประดับที่คอ”
ฤๅษีผู้พี่กล่าวว่า “ถ้าเช่นนั้น เธอจงกล่าวขอแก้วมณีนาคราชว่า ท่านจงให้
แก้วมณีแก่อาตมาเถิด อาตมาอยากได้”
ภิกษุทั้งหลาย ครั้นมณีกัณฐนาคราชขึ้นจากแม่น้ำคงคาเข้าไปหาฤๅษีผู้น้อง
ถึงที่อยู่ พักอยู่ ณ ที่สมควร ฤๅษีผู้น้องกล่าวว่า “ท่านจงให้แก้วมณีแก่อาตมา
อาตมาอยากได้” นาคราชคิดว่า “ภิกษุขอแก้วมณี ภิกษุอยากได้แก้วมณี” แล้วรีบ
หลีกไปทันที
แม้ครั้งที่ 2 มณีกัณฐกนาคราชขึ้นจากแม่น้ำคงคา เข้าไปหาฤๅษีผู้น้อง ฯลฯ
แม้ครั้งที่ 3 ฤๅษีผู้น้องกล่าวว่า “ท่านจงให้แก้วมณีแก่อาตมา อาตมาอยากได้”
ลำดับนั้น มณีกัณฐนาคราชกล่าวกับฤๅษีผู้น้องเป็นคาถาว่า
“เพราะแก้วมณีดวงนี้เป็นเหตุ ทำให้ข้าวน้ำเกิดขึ้นแก่
ข้าพเจ้ามากมาย ข้าพเจ้าให้แก้วมณีท่านไม่ได้ ท่าน
เป็นคนขอเกินไป ข้าพเจ้าจะไม่มาอาศรมท่านอีกแล้ว

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 1 หน้า :380 }


พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ [2. สังฆาทิเสสกัณฑ์] 6. กุฎิการสิกขาบท นิทานวัตถุ

ท่านขอแก้วมณีจนทำให้ข้าพเจ้าหวาดกลัว เหมือน
ชายหนุ่มถือดาบคมที่ลับด้วยหินทำให้ผู้อื่นสะดุ้งกลัว
ข้าพเจ้าให้แก้วมณีท่านไม่ได้ ท่านเป็นคนขอเกินไป
ข้าพเจ้าจะไม่มาอาศรมท่านอีกแล้ว”1
ภิกษุทั้งหลาย ครั้นแล้ว มณีกัณฐนาคราชจากไปพร้อมกับรำพึงว่า “ภิกษุขอ
แก้วมณี ภิกษุอยากได้แก้วมณี” ไปแล้วไม่หวนกลับมาอีกเลย ต่อมาฤๅษีผู้น้อง
กลับซูบผอม หมองคล้ำ ซีดเหลือง เส้นเอ็นขึ้นสะพรั่งยิ่งกว่าแต่ก่อนเพราะไม่ได้พบ
นาคราชรูปงามน่าดู ฤๅษีผู้พี่เห็นฤๅษีผู้น้องซูบผอม ฯลฯ ถามว่า “เพราะเหตุไรเธอ
จึงซูบผอม หมองคล้ำ ซีดเหลือง เส้นเอ็นขึ้นสะพรั่งยิ่งกว่าแต่ก่อน” ฤๅษีผู้น้องตอบว่า
“กระผมซูบผอม ฯลฯ เพราะกระผมไม่เห็นนาคราชรูปงาม น่าดูนั้น”
ฤๅษีผู้พี่กล่าวเป็นคาถาว่า
“บุคคลไม่ควรขอสิ่งที่รู้ว่าเป็นที่รักของเขา อนึ่งเพราะ
ขอเกินไปย่อมเป็นที่เกลียดชัง นาคราชถูกฤๅษีขอ
แก้วมณี จึงไม่หวนกลับมาให้ฤๅษีเห็นอีกเลย”2
ภิกษุทั้งหลาย การขอ การออกปากขอ ย่อมไม่เป็นที่พอใจแม้ของพวกสัตว์
ดิรัจฉานเหล่านั้น ไม่จำต้องกล่าวถึงพวกมนุษย์เลย

เรื่องนกฝูงใหญ่

[345] ภิกษุทั้งหลาย เรื่องเคยมีมาแล้ว ภิกษุรูปหนึ่งอยู่ในราวป่าแห่งหนึ่ง
เชิงภูเขาหิมพานต์ ไม่ไกลจากที่นั้นมีหนองน้ำใหญ่ นกฝูงใหญ่เที่ยวหาอาหารที่
หนองน้ำตลอดทั้งวัน พอตกเย็นก็เข้าไปอาศัยราวป่า ภิกษุนั้นรำคาญเสียงนกจึง
เข้าไปหาเราถึงที่อยู่ กราบไหว้เราแล้วนั่งลง ณ ที่สมควร เราถามเธอว่า “ภิกษุ
เธอยังสบายดีหรือ ยังพอเป็นอยู่ได้หรือ เธอเดินทางมาโดยไม่ลำบากหรือ เธอมา
จากไหน”

เชิงอรรถ :
1 ขุ.ชา. 27/7-8/75
2 ขุ.ชา. 27/9/75

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 1 หน้า :381 }