เมนู

พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ [2. สังฆาทิเสสกัณฑ์] 6. กุฎิการสิกขาบท นิทานวัตถุ

ครั้งนั้น ท่านพระมหากัสสปะได้เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคจนถึงที่ประทับ ครั้นถึง
แล้วได้ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคแล้วนั่งลง ณ ที่สมควร ได้กราบทูลเรื่องนั้นให้
ทรงทราบ

ทรงประชุมสงฆ์บัญญัติสิกขาบท

ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งให้ประชุมสงฆ์เพราะเรื่องนี้เป็นต้นเหตุ
ทรงสอบถามพวกภิกษุชาวเมืองอาฬวีว่า “ภิกษุทั้งหลาย ทราบว่า พวกเธอสร้างกุฎี
ด้วยเครื่องอุปกรณ์ที่ขอมาเอง ไม่มีเจ้าของสร้างให้ สร้างเป็นของส่วนตัว ไม่จำกัด
ขนาด กุฎีสร้างไม่เสร็จ พวกเธอเป็นผู้มากไปด้วยการขอ มากไปด้วยการออกปากขอ
ด้วยกล่าวว่า ‘ท่านทั้งหลายจงให้คนงาน อุปกรณ์ก่อสร้างสำเร็จรูป โค เกวียน มีด
ขวาน ผึ่ง จอบ สิ่ว เถาวัลย์ ไม้ไผ่ หญ้ามุงกระต่าย หญ้าแฝก หญ้าสามัญ ดินเหนียว’
พวกชาวบ้านถูกรบกวนด้วยการขอ ด้วยการออกปากขอ พบเห็นเธอทั้งหลายต่าง
พากันหวาดสะดุ้งบ้าง หลบหนีไปที่อื่นบ้าง เดินเลี่ยงไปทางอื่นบ้าง เมินหน้าหนีบ้าง
ปิดประตูบ้านบ้าง พบเห็นแม่โคเข้าก็วิ่งหนีเพราะเข้าใจว่าเป็นภิกษุบ้าง จริงหรือ”
ภิกษุเหล่านั้นทูลรับว่า “จริง พระพุทธเจ้าข้า” พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงตำหนิว่า
“โมฆบุรุษทั้งหลาย การกระทำของพวกเธอไม่สมควร ฯลฯ ไม่ควรทำ โมฆบุรุษทั้ง
หลาย ไฉนพวกเธอจึงสร้างกุฎีด้วยเครื่องอุปกรณ์ที่ขอมาเอง ไม่มีเจ้าของสร้างให้
สร้างเป็นของส่วนตัว ไม่จำกัดขนาด กุฎีสร้างไม่เสร็จ พวกเธอเป็นผู้มากไปด้วย
การขอ มากไปด้วยการออกปากขอ ด้วยกล่าวว่า ‘ท่านทั้งหลาย จงให้คนงาน
อุปกรณ์ก่อสร้างสำเร็จรูป โค เกวียน มีด ขวาน ผึ่ง จอบ สิ่ว เถาวัลย์ ไม้ไผ่ หญ้า
มุงกระต่าย หญ้าแฝก หญ้าสามัญ ดินเหนียว’ ดังนี้ โมฆบุรุษทั้งหลาย การกระทำ
อย่างนี้ มิได้ทำคนที่ยังไม่เลื่อมใสให้เลื่อมใส ฯลฯ”
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาค ครั้นทรงตำหนิพวกภิกษุชาวเมืองอาฬวีโดย
ประการต่าง ๆ แล้ว ฯลฯ ทรงแสดงธรรมีกถาแก่ภิกษุทั้งหลายให้เหมาะสมให้
คล้อยตามกับเรื่องนั้นแล้วจึงตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายมารับสั่งว่า

เรื่องฤๅษี 2 พี่น้อง

[344] “ภิกษุทั้งหลาย เรื่องเคยมีมาแล้ว มีฤๅษีพี่น้อง 2 คน อาศัยอยู่
ใกล้แม่น้ำคงคา ครั้งนั้น มณีกัณฐนาคราชขึ้นจากแม่น้ำคงคาเข้าไปหาฤๅษีผู้น้องถึงที่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 1 หน้า :379 }


พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ [2. สังฆาทิเสสกัณฑ์] 6. กุฎิการสิกขาบท นิทานวัตถุ

อยู่ ครั้นถึงแล้วได้พักวงขนดหางล้อมรอบฤๅษี 7 รอบ แผ่พังพานใหญ่ปกเหนือศีรษะ
ฤๅษีผู้น้องกลับซูบผอม หมองคล้ำ ซีดเหลือง เส้นเอ็นขึ้นสะพรั่ง เพราะความหวาด
กลัวนาคราช
ฤๅษีผู้พี่เห็นฤๅษีผู้น้องซูบผอม หมองคล้ำ ซีดเหลือง เส้นเอ็นขึ้นสะพรั่ง จึง
ถามว่า “เพราะเหตุไร เธอจึงซูบผอม หมองคล้ำ ซีดเหลือง เส้นเอ็นขึ้นสะพรั่ง”
ฤๅษีผู้น้องตอบว่า “ที่นี้มีมณีกัณฐนาคราชขึ้นจากแม่น้ำคงคามาหากระผม
แล้วพักวงขนดหางล้อมรอบกระผม 7 รอบ แผ่พังพานใหญ่ปกเหนือศีรษะ เพราะ
ความกลัวนาคราชนั้น กระผมจึงซูบผอม หมองคล้ำ ซีดเหลือง เส้นเอ็นขึ้นสะพรั่ง’
ฤๅษีผู้พี่ถามว่า “เธอต้องการไม่ให้นาคราชมาหาใช่ไหม”
ฤๅษีผู้น้องตอบว่า “กระผมต้องการไม่ให้นาคราชนั้นมาหา”
ฤๅษีผู้พี่ถามว่า “เธอเห็นนาคราชมีอะไรบ้าง”
ฤๅษีผู้น้องตอบว่า “กระผมเห็นแก้วมณีประดับที่คอ”
ฤๅษีผู้พี่กล่าวว่า “ถ้าเช่นนั้น เธอจงกล่าวขอแก้วมณีนาคราชว่า ท่านจงให้
แก้วมณีแก่อาตมาเถิด อาตมาอยากได้”
ภิกษุทั้งหลาย ครั้นมณีกัณฐนาคราชขึ้นจากแม่น้ำคงคาเข้าไปหาฤๅษีผู้น้อง
ถึงที่อยู่ พักอยู่ ณ ที่สมควร ฤๅษีผู้น้องกล่าวว่า “ท่านจงให้แก้วมณีแก่อาตมา
อาตมาอยากได้” นาคราชคิดว่า “ภิกษุขอแก้วมณี ภิกษุอยากได้แก้วมณี” แล้วรีบ
หลีกไปทันที
แม้ครั้งที่ 2 มณีกัณฐกนาคราชขึ้นจากแม่น้ำคงคา เข้าไปหาฤๅษีผู้น้อง ฯลฯ
แม้ครั้งที่ 3 ฤๅษีผู้น้องกล่าวว่า “ท่านจงให้แก้วมณีแก่อาตมา อาตมาอยากได้”
ลำดับนั้น มณีกัณฐนาคราชกล่าวกับฤๅษีผู้น้องเป็นคาถาว่า
“เพราะแก้วมณีดวงนี้เป็นเหตุ ทำให้ข้าวน้ำเกิดขึ้นแก่
ข้าพเจ้ามากมาย ข้าพเจ้าให้แก้วมณีท่านไม่ได้ ท่าน
เป็นคนขอเกินไป ข้าพเจ้าจะไม่มาอาศรมท่านอีกแล้ว

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 1 หน้า :380 }