พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ [2. สังฆาทิเสสกัณฑ์] 4. อัตตกามปาริจริยสิกขาบท บทภาชนีย์
(1) เป็นหญิงและชาย (2) ภิกษุสำคัญว่าเป็นหญิงทั้ง 2 คนและมีความ
กำหนัด (3) ภิกษุกล่าวสรรเสริญการบำเรอความใคร่ของตนต่อหน้าหญิงและชาย
ทั้ง 2 คน ต้องอาบัติทุกกฏกับสังฆาทิเสส
(1) เป็นหญิงและชาย (2) ภิกษุไม่แน่ใจว่าเป็นหญิงและชายทั้ง 2 คน ฯลฯ
สำคัญว่าเป็นบัณเฑาะก์ ฯลฯ สำคัญว่าเป็นชาย ฯลฯ สำคัญว่าเป็นสัตว์ดิรัจฉาน
และมีความกำหนัด (3) ภิกษุกล่าวสรรเสริญการบำเรอความใคร่ของตนต่อหน้า
หญิงและชายทั้ง 2 คน ต้องอาบัติทุกกฏกับถุลลัจจัย
หญิงและสัตว์ดิรัจฉาน
(1) เป็นหญิงและสัตว์ดิรัจฉาน (2) ภิกษุสำคัญว่าเป็นหญิงทั้ง 2 และมี
ความกำหนัด (3) ภิกษุกล่าวสรรเสริญการบำเรอความใคร่ของตนต่อหน้าหญิงและ
สัตว์ดิรัจฉานทั้ง 2 ต้องอาบัติทุกกฏและสังฆาทิเสส
(1) เป็นหญิงและสัตว์ดิรัจฉาน (2) ภิกษุไม่แน่ใจว่าเป็นหญิงและสัตว์ดิรัจฉานทั้ง
2 ฯลฯ สำคัญว่าเป็นบัณเฑาะก์ ฯลฯ สำคัญว่าเป็นชาย ฯลฯ สำคัญว่าเป็นสัตว์
ดิรัจฉาน และมีความกำหนัด (3) ภิกษุกล่าวสรรเสริญการบำเรอความใคร่ของตน
ต่อหน้าหญิงและสัตว์ดิรัจฉานทั้ง 2 ต้องอาบัติทุกกฏกับถุลลัจจัย
บัณเฑาะก์และชาย
(1) เป็นบัณเฑาะก์และชาย (2) ภิกษุสำคัญว่าเป็นบัณเฑาะก์ทั้ง 2 คนและ
มีความกำหนัด (3) ภิกษุกล่าวสรรเสริญการบำเรอความใคร่ของตนต่อหน้า
บัณเฑาะก์และชายทั้ง 2 คน ต้องอาบัติทุกกฏกับถุลลัจจัย
(1) เป็นบัณเฑาะก์และชาย (2) ภิกษุไม่แน่ใจว่าเป็นบัณเฑาะก์และชายทั้ง 2
คน ฯลฯ สำคัญว่าเป็นชาย ฯลฯ สำคัญว่าเป็นสัตว์ดิรัจฉาน ฯลฯ สำคัญว่าเป็น
หญิงและมีความกำหนัด (3) ภิกษุกล่าวสรรเสริญการบำเรอความใคร่ของตนต่อ
หน้าบัณเฑาะก์และชายทั้ง 2 คน ต้องอาบัติทุกกฏ 2 ตัว