พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เวรัญชกัณฑ์
แล้วนั่ง ณ ที่สมควร กราบทูลว่า ท่านพระโคดม ข้าพเจ้าได้ทราบมาว่า พระ
สมณโคดมไม่ยอมไหว้ ไม่ลุกรับพวกพราหมณ์ผู้แก่ ผู้เฒ่า ผู้ใหญ่ ผู้ล่วงกาลผ่านวัย
หรือไม่เชื้อเชิญให้นั่ง เรื่องที่ข้าพเจ้าได้ทราบมานั้นจริงทีเดียว การที่ท่านพระโคดม
ทำเช่นนั้นไม่สมควรเลย
พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า พราหมณ์ เรายังไม่เห็นใครไม่ว่าในโลกไหนๆ
ในบริษัทไหนๆ ที่เราควรจะไหว้ ลุกรับหรือเชื้อเชิญให้นั่ง เพราะว่าตถาคตไหว้ ลุกรับ
หรือเชื้อเชิญผู้ใดให้นั่ง ศีรษะของผู้นั้นจะต้องขาดตกไป
[3] พราหมณ์กราบทูลต่อไปว่า ท่านพระโคดม เป็นคนไม่มีรส1
พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า พราหมณ์ ข้อที่เขากล่าวหาเรานั้นมีมูลอยู่
เพราะตถาคตละรส คือ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะได้หมดสิ้น ตัดรากถอนโคน
เหมือนต้นตาลที่ถูกตัดรากถอนโคนไปแล้วเหลือแต่พื้นที่ ทำให้ไม่มี เกิดขึ้นต่อไปไม่ได้
ข้อที่เขากล่าวหาเรานั้นมีมูลอยู่ แต่ไม่ใช่ที่ท่านกล่าวถึง
[4] พราหมณ์กราบทูลต่อไปว่า ท่านพระโคดม เป็นคนไม่มีสมบัติ
พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า พราหมณ์ ข้อที่เขากล่าวหาเรานั้นมีมูลอยู่
เพราะตถาคตละสมบัติคือ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะได้หมดสิ้น ตัดรากถอนโคน
เหมือนต้นตาลที่ถูกตัดรากถอนโคนไปแล้วเหลือแต่พื้นที่ ทำให้ไม่มี เกิดขึ้นต่อไปไม่ได้
ข้อที่เขากล่าวหาเรานั้นมีมูลอยู่ แต่ไม่ใช่ที่ท่านกล่าวถึง
[5] พราหมณ์กราบทูลต่อไปว่า ท่านพระโคดม สอนไม่ให้ทำ
พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า พราหมณ์ ข้อที่เขากล่าวหาเรานั้นมีมูลอยู่
เพราะเราสอนไม่ให้ทำกายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต ตลอดถึงการไม่ให้ทำบาป
อกุศลธรรมต่างๆ ข้อที่เขากล่าวหาเรานั้นมีมูลอยู่ แต่ไม่ใช่ที่ท่านกล่าวถึง
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เวรัญชกัณฑ์
[6] พราหมณ์กราบทูลต่อไปว่า ท่านพระโคดม สอนให้ทำลาย
พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า พราหมณ์ ข้อที่เขากล่าวหาเรานั้นมีมูลอยู่
เพราะเราสอนให้ทำลายราคะ โทสะ โมหะ ตลอดถึงให้ทำลายบาปอกุศลธรรมต่างๆ
ข้อที่เขากล่าวหาเรานั้นมีมูลอยู่ แต่ไม่ใช่ที่ท่านกล่าวถึง
[7] พราหมณ์กราบทูลต่อไปว่า ท่านพระโคดม เป็นคนช่างรังเกียจ
พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า พราหมณ์ ข้อที่เขากล่าวหาเรานั้นมีมูลอยู่
เพราะเราช่างรังเกียจกายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต และบาปอกุศลธรรมต่างๆ ข้อ
ที่เขากล่าวหาเรานั้นมีมูลอยู่ แต่ไม่ใช่ที่ท่านกล่าวถึง
[8] พราหมณ์กราบทูลต่อไปว่า ท่านพระโคดม เป็นคนช่างกำจัด
พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า พราหมณ์ ข้อที่เขากล่าวหาเรานั้นมีมูลอยู่
เพราะเราแสดงธรรมเพื่อกำจัดราคะ โทสะ โมหะ และบาปอกุศลธรรมต่างๆ ข้อที่
เขากล่าวหาเรานั้นมีมูลอยู่ แต่ไม่ใช่ที่ท่านกล่าวถึง
[9] พราหมณ์กราบทูลต่อไปว่า ท่านพระโคดม เป็นคนช่างเผาผลาญ
พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า พราหมณ์ ข้อที่เขากล่าวหาเรานั้นมีมูลอยู่
เพราะเรากล่าวถึงบาปอกุศลธรรมทั้งหลาย คือ กายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริตว่า
เป็นสิ่งที่ควรเผาผลาญ พราหมณ์ เราเรียกคนที่ละบาปอกุศลธรรมทั้งหลายที่ควร
เผาผลาญ ตัดรากถอนโคนเหมือนต้นตาลที่ถูกตัดรากถอนโคนไปแล้วเหลือแต่พื้นที่
ทำให้ไม่มี เกิดขึ้นต่อไปไม่ได้ว่า เป็นคนช่างเผาผลาญ ตถาคตละบาปอกุศลธรรมต่างๆ
ที่ควรเผาผลาญได้หมดสิ้น ข้อที่เขากล่าวหาเรานั้นมีมูลอยู่ แต่ไม่ใช่ที่ท่านกล่าวถึง
[10] พราหมณ์กราบทูลต่อไปว่า ท่านพระโคดม เป็นคนไม่ผุดไม่เกิด
พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า พราหมณ์ ข้อที่เขากล่าวหาเรานั้นมีมูลอยู่
เพราะเราเรียกคนที่ละการอยู่ในครรภ์และการเกิดใหม่ได้หมด ตัดรากถอนโคน
เหมือนต้นตาลที่ถูกตัดรากถอนโคนไปแล้วเหลือแต่พื้นที่ ทำให้ไม่มี เกิดขึ้นต่อไปไม่ได้
ว่า เป็นคนไม่ผุดไม่เกิด ตถาคตละการอยู่ในครรภ์และการเกิดใหม่ได้หมดสิ้นแล้ว
ข้อที่เขากล่าวหาเรานั้นมีมูลอยู่ แต่ไม่ใช่ที่ท่านกล่าวถึง