พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ [1. ปาราชิกกัณฑ์] ปาราชิกสิกขาบทที่ 4 วินีตวัตถุ
เรื่องพยากรณ์มรรคผล 3 เรื่อง
สมัยนั้น ภิกษุรูปหนึ่งกล่าวอวดอุตตริมนุสสธรรมแก่ภิกษุอีกรูปหนึ่ง แม้
ภิกษุรูปนั้นก็กล่าวอวดว่า กระผมก็ละอาสวะได้ ท่านเกิดความกังวลใจว่า เรา
ต้องอาบัติปาราชิกหรือหนอ จึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ
พระองค์ตรัสว่า ภิกษุ เธอต้องอาบัติปาราชิก (เรื่องที่ 29)
สมัยนั้น ภิกษุรูปหนึ่งกล่าวอวดอุตตริมนุสสธรรมแก่ภิกษุอีกรูปหนึ่ง แม้
ภิกษุรูปนั้นก็กล่าวอวดว่า ธรรมเหล่านี้แม้กระผมก็มี ท่านเกิดความกังวลใจว่า
เราต้องอาบัติปาราชิกหรือหนอ จึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ
พระองค์ตรัสว่า ภิกษุ เธอต้องอาบัติปาราชิก (เรื่องที่ 30)
สมัยนั้น ภิกษุรูปหนึ่งกล่าวอวดอุตตริมนุสสธรรมแก่ภิกษุอีกรูปหนึ่ง แม้
ภิกษุรูปนั้นก็กล่าวอวดว่า กระผมก็ปรากฏในธรรมเหล่านั้น ท่านเกิดความกังวล
ใจว่า เราต้องอาบัติปาราชิกหรือหนอ จึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้
ทรงทราบ พระองค์ตรัสว่า ภิกษุ เธอต้องอาบัติปาราชิก (เรื่องที่ 31)
เรื่องอยู่ครองเรือน 1 เรื่อง
สมัยนั้น พวกญาติบอกภิกษุรูปหนึ่งว่า นิมนต์ท่านมาอยู่ครองเรือนเถิด
ขอรับ ภิกษุรูปนั้นตอบว่า ท่านทั้งหลาย คนอย่างอาตมาไม่ควรจะอยู่ครองเรือน
ท่านเกิดความกังวลใจว่า เราต้องอาบัติปาราชิกหรือหนอ จึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูล
พระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ พระองค์ตรัสถามว่า ภิกษุ เธอคิดอย่างไร
ข้าพระพุทธเจ้าไม่มีความประสงค์จะกล่าวอวด พระพุทธเจ้าข้า ภิกษุ เธอไม่มี
ความประสงค์จะกล่าวอวด ไม่ต้องอาบัติ (เรื่องที่ 32)
เรื่องห้ามกาม 1 เรื่อง
[227] สมัยนั้น พวกญาติบอกภิกษุรูปหนึ่งว่า นิมนต์ท่านมาบริโภคกาม
เถิด ภิกษุนั้นตอบว่า ท่านทั้งหลาย เราปฏิเสธกามทั้งหลายแล้ว ท่านเกิดความ
กังวลใจว่า เราต้องอาบัติปาราชิกหรือหนอ จึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาค
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ [1. ปาราชิกกัณฑ์] ปาราชิกสิกขาบทที่ 4 วินีตวัตถุ
ให้ทรงทราบ พระองค์ตรัสถามว่า ภิกษุ เธอคิดอย่างไร ข้าพระพุทธเจ้าไม่มีความ
ประสงค์จะกล่าวอวด พระพุทธเจ้าข้า ภิกษุ เธอไม่มีความประสงค์จะกล่าวอวด
ไม่ต้องอาบัติ (เรื่องที่ 33)
เรื่องความยินดี 1 เรื่อง
สมัยนั้น พวกญาติถามภิกษุรูปหนึ่งว่า ท่านยังยินดีอยู่หรือ ภิกษุนั้น
ตอบว่า อาตมายังยินดีอยู่ด้วยความยินดีเป็นอย่างยิ่ง1 ท่านเกิดความกังวลใจว่า
เฉพาะพระสาวกของพระผู้มีพระภาคเท่านั้นที่ควรกล่าวอย่างนั้น แต่เราไม่ได้เป็น
พระสาวกของพระผู้มีพระภาค เราต้องอาบัติปาราชิกหรือหนอ จึงนำเรื่องนี้ไปกราบ
ทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ พระองค์ตรัสถามว่า ภิกษุ เธอคิดอย่างไร ข้า
พระพุทธเจ้าไม่มีความประสงค์จะกล่าวอวด พระพุทธเจ้าข้า ภิกษุ เธอไม่มีความ
ประสงค์จะกล่าวอวด ไม่ต้องอาบัติ (เรื่องที่ 34)
เรื่องหลีกไป 1 เรื่อง
สมัยนั้น ภิกษุจำนวนมากจำพรรษาในอาวาสแห่งหนึ่ง ตั้งกติกากันว่า ขอ
ให้พวกเรารู้กัน ภิกษุรูปใดหลีกไปจากอาวาสนี้ก่อน ภิกษุรูปนั้นเป็นพระอรหันต์
ภิกษุรูปหนึ่งหลีกจากอาวาสนั้นไปก่อนด้วยต้องการให้ผู้อื่นรู้ว่าตนเป็นพระอรหันต์
ท่านเกิดความกังวลใจว่า เราต้องอาบัติปาราชิกหรือหนอ จึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูล
พระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ พระองค์ตรัสว่า ภิกษุ เธอต้องอาบัติปาราชิก (เรื่อง
ที่ 35)
เรื่องอัฏฐิกสังขลิกเปรต 1 เรื่อง
(เปรตมีแต่ร่างกระดูก)
[228] สมัยนั้น พระผู้มีพระภาคประทับ ณ พระเวฬุวัน สถานที่ให้เหยื่อ
กระแต เขตกรุงราชคฤห์ ครั้งนั้น ท่านพระลักขณะกับท่านพระมหาโมคคัลลานะพัก