เมนู

พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ [1. ปาราชิกกัณฑ์] ปาราชิกสิกขาบทที่ 4 บทภาชนีย์

ฯลฯ ปฐมฌานและอรหัตตผลแล้ว ... ข้าพเจ้าเข้าอยู่ ... ข้าพเจ้าเป็นผู้เข้าแล้ว ...
ข้าพเจ้าเป็นผู้ได้ปฐมฌานและอรหัตตผล ... ข้าพเจ้าเป็นผู้ชำนาญ ... ข้าพเจ้าทำ
ปฐมฌานและอรหัตตผลให้แจ้งแล้ว ... ต้องอาบัติปาราชิก ฯลฯ

ปฐมฌานกับการสละราคะ โทสะและโมหะ

ภิกษุกล่าวเท็จทั้งที่รู้ว่า ข้าพเจ้าเข้าปฐมฌานแล้ว ด้วยอาการ 3 อย่าง ...
ข้าพเจ้าเข้าอยู่ ... ข้าพเจ้าเป็นผู้เข้าแล้ว ... ข้าพเจ้าเป็นผู้ได้ปฐมฌาน ... ข้าพเจ้า
เป็นผู้ชำนาญ ... ข้าพเจ้าทำปฐมฌานให้แจ้งแล้ว ... และข้าพเจ้าสละราคะแล้ว ฯลฯ
ข้าพเจ้าเข้าปฐมฌานแล้ว ฯลฯ และข้าพเจ้าสละโทสะแล้ว ฯลฯ ข้าพเจ้าเข้าปฐมฌานแล้ว
ฯลฯ และข้าพเจ้าสละ คาย พ้น ละ สลัด เพิก ถอนโมหะขึ้นแล้ว ... ต้องอาบัติปาราชิก
ฯลฯ

ปฐมฌานกับภาวะที่จิตปลอดจากราคะ โทสะและโมหะ

ภิกษุกล่าวเท็จทั้งที่รู้ว่า ข้าพเจ้าเข้าปฐมฌานแล้ว ด้วยอาการ 3 อย่าง ...
ข้าพเจ้าเข้าอยู่ ... ข้าพเจ้าเป็นผู้เข้าแล้ว ... ข้าพเจ้าเป็นผู้ได้ปฐมฌาน ... ข้าพเจ้า
เป็นผู้ชำนาญ ... ข้าพเจ้าทำปฐมฌานให้แจ้งแล้ว ... และจิตของข้าพเจ้าปลอดจาก
ราคะ ... จิตของข้าพเจ้าปลอดจากโทสะ ... จิตของข้าพเจ้าปลอดจากโมหะ ด้วย
อาการ 3 อย่าง ฯลฯ ด้วยอาการ 7 อย่าง คือ (1) เบื้องต้นเธอรู้ว่า จักกล่าวเท็จ
(2) กำลังกล่าว ก็รู้ว่ากำลังกล่าวเท็จ (3) ครั้นกล่าวแล้ว ก็รู้ว่ากล่าวเท็จแล้ว
(4) อำพรางความเห็น (5) อำพรางความเห็นชอบ (6) อำพรางความพอใจ
(7) อำพรางความประสงค์ ต้องอาบัติปาราชิก

ขัณฑจักร จบ

พัทธจักร

[210] ภิกษุกล่าวเท็จทั้งที่รู้ว่า ข้าพเจ้าเข้าทุติยฌานและตติยฌานแล้ว
ด้วยอาการ 3 อย่าง ... ข้าพเจ้าเข้าอยู่ ... ข้าพเจ้าเป็นผู้เข้าแล้ว ... ข้าพเจ้าเป็นผู้