เมนู

พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ [1. ปาราชิกกัณฑ์] ปาราชิกสิกขาบทที่ 4 บทภาชนีย์

สุทธิกมัคคภาวนา
สติปัฏฐาน 4 สัมมัปปธาน 4 และอิทธิบาท 4

ภิกษุกล่าวเท็จทั้งที่รู้ว่า “ข้าพเจ้าเข้าสติปัฏฐาน 4 แล้ว” ด้วยอาการ 3
อย่าง ฯลฯ ข้าพเจ้าเข้าสัมมัปธาน 4 ฯลฯ อิทธิบาท 4 แล้ว ... ข้าพเจ้าเข้าอยู่ ...
ข้าพเจ้าเป็นผู้เข้าแล้ว ... ข้าพเจ้าเป็นผู้ได้อิทธิบาท 4 ... ข้าพเจ้าเป็นผู้ชำนาญ ...
ข้าพเจ้าทำอิทธิบาท 4 ให้แจ้งแล้ว ... ต้องอาบัติปาราชิก ฯลฯ

อินทรีย์ 5 และพละ 5

ภิกษุกล่าวเท็จทั้งที่รู้ว่า “ข้าพเจ้าเข้าอินทรีย์ 5 แล้ว” ด้วยอาการ 3
อย่าง ฯลฯ ข้าพเจ้าเข้าพละ 5 แล้ว ... ข้าพเจ้าเข้าอยู่ ... ข้าพเจ้าเป็นผู้เข้าแล้ว ...
ข้าพเจ้าเป็นผู้ได้พละ 5 ... ข้าพเจ้าเป็นผู้ชำนาญ ... ข้าพเจ้าทำพละ 5 ให้แจ้งแล้ว ...
ต้องอาบัติปาราชิก ฯลฯ

โพชฌงค์ 7

ภิกษุกล่าวเท็จทั้งที่รู้ว่า “ข้าพเจ้าเข้าโพชฌงค์ 7 แล้ว” ด้วยอาการ 3 อย่าง
... ข้าพเจ้าเข้าอยู่ ... ข้าพเจ้าเป็นผู้เข้าแล้ว ... ข้าพเจ้าเป็นผู้ได้โพชฌงค์ 7 ...
ข้าพเจ้าเป็นผู้ชำนาญ ... ข้าพเจ้าทำโพชฌงค์ 7 ให้แจ้งแล้ว ... ต้องอาบัติปาราชิก
ฯลฯ

อริยมรรคมีองค์ 8

ภิกษุกล่าวเท็จทั้งที่รู้ว่า “ข้าพเจ้าเข้าอริยมรรคมีองค์ 8 แล้ว” ด้วยอาการ 3
อย่าง ... ข้าพเจ้าเข้าอยู่ ... ข้าพเจ้าเป็นผู้เข้าแล้ว ... ข้าพเจ้าเป็นผู้ได้อริยมรรคมีองค์ 8
... ข้าพเจ้าเป็นผู้ชำนาญ ... ข้าพเจ้าทำอริยมรรคมีองค์ 8 ให้แจ้งแล้ว ... ต้องอาบัติ
ปาราชิก ฯลฯ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 1 หน้า :192 }


พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ [1. ปาราชิกกัณฑ์] ปาราชิกสิกขาบทที่ 4 บทภาชนีย์

สุทธิกอริยผล
โสดาปัตติผล สกทาคามิผล อนาคามิผล และอรหัตตผล

ภิกษุกล่าวเท็จทั้งที่รู้ว่า “ข้าพเจ้าเข้าโสดาปัตติผลแล้ว” ด้วยอาการ 3 อย่าง
ฯลฯ ข้าพเจ้าเข้าสกทาคามิผล ฯลฯ อนาคามิผล ฯลฯ อรหัตตผลแล้ว ... ข้าพเจ้า
เข้าอยู่ ... ข้าพเจ้าเป็นผู้เข้าแล้ว ... ข้าพเจ้าเป็นผู้ได้อรหัตตผล ... ข้าพเจ้าเป็นผู้ชำนาญ
... ข้าพเจ้าทำอรหัตตผลให้แจ้งแล้ว ... ต้องอาบัติปาราชิก ฯลฯ

สุทธิกกิเลสปหาน
สละราคะ

ภิกษุกล่าวเท็จทั้งที่รู้ว่า “ข้าพเจ้าสละราคะแล้ว ข้าพเจ้าคายราคะแล้ว
ข้าพเจ้าพ้นราคะแล้ว ข้าพเจ้าละราคะแล้ว ข้าพเจ้าสลัดราคะแล้ว ข้าพเจ้าเพิกราคะ
แล้ว ข้าพเจ้าถอนราคะขึ้นแล้ว” ด้วยอาการ 3 อย่าง คือ ... ต้องอาบัติปาราชิก ฯลฯ

สละโทสะ

ภิกษุกล่าวเท็จทั้งที่รู้ว่า ข้าพเจ้าสละโทสะแล้ว ฯลฯ ถอนโทสะขึ้นแล้ว ด้วย
อาการ 3 อย่าง คือ ... ต้องอาบัติปาราชิก ฯลฯ

สละโมหะ

ภิกษุกล่าวเท็จทั้งที่รู้ว่า ข้าพเจ้าสละ คาย พ้น ละ สลัด เพิก ถอนโมหะขึ้น
แล้ว ด้วยอาการ 3 อย่าง คือ ... ต้องอาบัติปาราชิก ฯลฯ

สุทธิกจิตตวินีวรณะ
จิตปลอดจากราคะ โทสะและโมหะ

ภิกษุกล่าวเท็จทั้งที่รู้ว่า จิตของข้าพเจ้าปลอดจากราคะ ด้วยอาการ 3 อย่าง
คือ ... ต้องอาบัติปาราชิก ฯลฯ
ภิกษุกล่าวเท็จทั้งที่รู้ว่า จิตของข้าพเจ้าปลอดจากโทสะ ด้วยอาการ 3 อย่าง
คือ ... ต้องอาบัติปาราชิก ฯลฯ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 1 หน้า :193 }