เมนู

พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ [1. ปาราชิกกัณฑ์] ปาราชิกสิกขาบทที่ 2 วินีตวัตถุ

เรื่องลักหญ้าของสงฆ์ 2 เรื่อง

สมัยนั้น ภิกษุรูปหนึ่งมีไถยจิต ได้ลักหญ้ามุงกระต่ายของสงฆ์ แล้วเกิดความ
กังวลใจว่า เราต้องอาบัติปาราชิกหรือหนอ จึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาค
ให้ทรงทราบ พระองค์ตรัสว่า “ภิกษุ เธอต้องอาบัติปาราชิก” (เรื่องที่ 134)
สมัยนั้น ภิกษุรูปหนึ่งมีไถยจิต ได้เผาหญ้ามุงกระต่ายของสงฆ์ แล้วเกิดความ
กังวลใจว่า เราต้องอาบัติปาราชิกหรือหนอ จึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาค
ให้ทรงทราบ พระองค์ตรัสว่า “ภิกษุ เธอไม่ต้องอาบัติปาราชิก แต่ต้องอาบัติทุกกฏ”
(เรื่องที่ 135)

เรื่องลักเสนาสนะของสงฆ์ 7 เรื่อง

สมัยนั้น ภิกษุรูปหนึ่งมีไถยจิต ได้ลักเตียงของสงฆ์ แล้วเกิดความกังวลใจว่า
เราต้องอาบัติปาราชิกหรือหนอ จึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ
พระองค์ตรัสว่า “ภิกษุ เธอต้องอาบัติปาราชิก” (เรื่องที่ 136)
สมัยนั้น ภิกษุรูปหนึ่งมีไถยจิต ได้ลักตั่งของสงฆ์ แล้วเกิดความกังวลใจว่า
เราต้องอาบัติปาราชิกหรือหนอ จึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ
พระองค์ตรัสว่า “ภิกษุ เธอต้องอาบัติปาราชิก” (เรื่องที่ 137)
สมัยนั้น ภิกษุรูปหนึ่งมีไถยจิต ได้ลักฟูกของสงฆ์ แล้วเกิดความกังวลใจว่า
เราต้องอาบัติปาราชิกหรือหนอ จึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ
พระองค์ตรัสว่า “ภิกษุ เธอต้องอาบัติปาราชิก” (เรื่องที่ 138)
สมัยนั้น ภิกษุรูปหนึ่งมีไถยจิต ได้ลักหมอนของสงฆ์ แล้วเกิดความกังวลใจว่า
เราต้องอาบัติปาราชิกหรือหนอ จึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ
พระองค์ตรัสว่า “ภิกษุ เธอต้องอาบัติปาราชิก” (เรื่องที่ 139)
สมัยนั้น ภิกษุรูปหนึ่งมีไถยจิต ได้ลักบานประตูของสงฆ์ แล้วเกิดความกังวล
ใจว่า เราต้องอาบัติปาราชิกหรือหนอ จึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้
ทรงทราบ พระองค์ตรัสว่า “ภิกษุ เธอต้องอาบัติปาราชิก” (เรื่องที่ 140)