พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ [1. ปาราชิกกัณฑ์] ปาราชิกสิกขาบทที่ 2 วินีตวัตถุ
ด่านภาษีไป จึงกล่าวกับภิกษุนั้นว่า ท่านครับ กรุณาส่งห่อของให้ผมเถิด ผมไม่ได้
เป็นไข้ โยม ท่านได้ทำอย่างนี้เพื่ออะไร บุรุษนั้นจึงบอกความนั้นให้ภิกษุนั้นทราบ
ท่านเกิดความกังวลใจว่า เราต้องอาบัติปาราชิกหรือหนอ จึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูล
พระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ พระองค์ตรัสถามว่า ภิกษุ เธอคิดอย่างไร
ข้าพระพุทธเจ้าไม่รู้ พระพุทธเจ้าข้า ภิกษุ เธอไม่รู้ ไม่ต้องอาบัติ (เรื่องที่ 90)
[152] สมัยนั้น ภิกษุรูปหนึ่งเดินทางไกลไปกับหมู่เกวียน ชายคนหนึ่ง
เกลี้ยกล่อมท่านด้วยอามิส เห็นด่านภาษีจึงมอบแก้วมณีราคาแพงให้ภิกษุนั้นด้วย
กล่าวว่า ขอท่านกรุณาช่วยนำแก้วมณีนี้ผ่านด่านภาษีไปด้วยขอรับ ภิกษุนั้นได้นำ
แก้วมณีนั้นผ่านด่านภาษีไปแล้ว เกิดความกังวลใจว่า เราต้องอาบัติปาราชิกหรือหนอ
จึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ พระองค์ตรัสว่า ภิกษุ เธอ
ต้องอาบัติปาราชิก (เรื่องที่ 91)
เรื่องปล่อยสุกร 2 เรื่อง
[153] สมัยนั้น ภิกษุรูปหนึ่งปล่อยสุกรที่ติดบ่วงไปด้วยความสงสารแล้ว
เกิดความกังวลใจว่า เราต้องอาบัติปาราชิกหรือหนอ จึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มี
พระภาคให้ทรงทราบ พระองค์ตรัสถามว่า ภิกษุ เธอคิดอย่างไร ข้าพระพุทธเจ้า
มีความประสงค์จะช่วยเหลือ พระพุทธเจ้าข้า ภิกษุ เธอมีความประสงค์จะช่วยเหลือ
ไม่ต้องอาบัติ (เรื่องที่ 92)
สมัยนั้น ภิกษุรูปหนึ่งมีไถยจิตคิดว่า เจ้าของจะเห็น จึงปล่อยสุกรที่ติดบ่วงไป
แล้วเกิดความกังวลใจว่า เราต้องอาบัติปาราชิกหรือหนอ จึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูล
พระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ พระองค์ตรัสว่า ภิกษุ เธอต้องอาบัติปาราชิก (เรื่องที่
93)
เรื่องปล่อยเนื้อ 2 เรื่อง
สมัยนั้น ภิกษุรูปหนึ่งปล่อยเนื้อติดบ่วงไปด้วยความสงสารแล้วเกิดความ
กังวลใจว่า เราต้องอาบัติปาราชิกหรือหนอ จึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาค
ให้ทรงทราบ พระองค์ตรัสถามว่า ภิกษุ เธอคิดอย่างไร ข้าพระพุทธเจ้ามีความ