เมนู

พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ [1. ปาราชิกกัณฑ์] ปาราชิกสิกขาบทที่ 2 วินีตวัตถุ

สมัยนั้น ภิกษุรูปหนึ่งพาดจีวรไว้บนตั่งแล้วเข้าไปวิหาร ภิกษุอีกรูปหนึ่งเก็บ
จีวรนั้นด้วยหวังว่าจะไม่ให้จีวรหาย ภิกษุเจ้าของจีวรออกมา ถามภิกษุรูปที่เก็บไป
นั้นว่า “ท่าน จีวรของผมใครลักไป” ภิกษุรูปนั้นตอบว่า “ผมลักไป” ภิกษุเจ้าของ
จีวรจับเอาภิกษุรูปที่นำจีวรไปกล่าวว่า “ท่านไม่เป็นพระ” ภิกษุรูปที่นำจีวรไปเกิด
ความกังวลใจว่า เราต้องอาบัติปาราชิกหรือหนอ จึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มี
พระภาคให้ทรงทราบ พระองค์ตรัสถามว่า “ภิกษุ เธอคิดอย่างไร” “ข้าพระพุทธ
เจ้าตอบไปตามคำถามนำ พระพุทธเจ้าข้า” “ภิกษุ ไม่ต้องอาบัติ เพราะตอบตาม
คำถามนำ” (เรื่องที่ 27)
สมัยนั้น ภิกษุรูปหนึ่งพาดผ้าปูนั่งไว้บนตั่ง ภิกษุอีกรูปหนึ่งเก็บผ้าปูนั่งนั้น
ด้วยหวังว่า จะไม่ให้ผ้าปูนั่งหาย ภิกษุเจ้าของผ้าปูนั่งออกมา ถามภิกษุรูปที่เก็บไป
นั้นว่า “ท่าน ผ้าปูนั่งของผม ใครลักไป” ภิกษุรูปนั้นตอบว่า “ผมลักไป” ภิกษุ
เจ้าของผ้าปูนั่งจับเอาภิกษุรูปที่นำผ้าปูนั่งไปกล่าวว่า “ท่านไม่เป็นพระ” ภิกษุรูปที่นำ
ผ้าปูนั่งไปเกิดความกังวลใจว่า เราต้องอาบัติปาราชิกหรือหนอ จึงนำเรื่องนี้ไปกราบ
ทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ พระองค์ตรัสถามว่า “ภิกษุ เธอคิดอย่างไร” “ข้า
พระพุทธเจ้าตอบไปตามคำถามนำ พระพุทธเจ้าข้า” “ภิกษุ ไม่ต้องอาบัติ เพราะ
ตอบตามคำถามนำ” (เรื่องที่ 28)
สมัยนั้น ภิกษุรูปหนึ่งวางบาตรไว้ใต้ตั่งแล้วเข้าไปวิหาร ภิกษุอีกรูปหนึ่งได้
เก็บบาตรนั้นด้วยหวังว่า จะไม่ให้บาตรหาย ภิกษุเจ้าของบาตรออกมาถามภิกษุรูปที่
เก็บไปนั้นว่า “ท่าน บาตรของผม ใครลักไป” ภิกษุรูปนั้นตอบว่า “ผมลักไป” ภิกษุ
เจ้าของบาตรจับเอาภิกษุรูปที่นำบาตรไปกล่าวว่า “ท่านไม่เป็นพระ” ภิกษุรูปที่นำ
บาตรไปเกิดความกังวลใจว่า เราต้องอาบัติปาราชิกหรือหนอ จึงนำเรื่องนี้ไปกราบ
ทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ พระองค์ตรัสถามว่า “ภิกษุ เธอคิดอย่างไร”
“ข้าพระพุทธเจ้าตอบไปตามคำถามนำ พระพุทธเจ้าข้า” “ภิกษุ ไม่ต้องอาบัติ
เพราะตอบตามคำถามนำ” (เรื่องที่ 29)
สมัยนั้น ภิกษุณีรูปหนึ่งผึ่งจีวรไว้ที่รั้วแล้วเข้าไปยังวิหาร ภิกษุณีอีกรูปหนึ่ง
เก็บจีวรนั้นด้วยหวังว่า จะไม่ให้จีวรหาย ภิกษุณีเจ้าของจีวรออกมาถามภิกษุณีรูปที่