เมนู

สรณคมนคมกวิภาวนา

อิทานิ สรณคมนาทีสุ หิํสตีติ สรณํ, สรณคตานํ เตเนว สรณคมเนน ภยํ สนฺตาสํ ทุกฺขํ ทุคฺคติํ ปริกฺกิเลสํ หิํสติ วิธมติ นีหรติ นิโรเธตีติ อตฺโถฯ อถ วา หิเต ปวตฺตเนน อหิตา จ นิวตฺตเนน สตฺตานํ ภยํ หิํสตีติ พุทฺโธ, ภวกนฺตารา อุตฺตรเณน อสฺสาสทาเนน จ ธมฺโม, อปฺปกานมฺปิ การานํ วิปุลผลปฏิลาภกรเณน สงฺโฆฯ ตสฺมา อิมินาปิ ปริยาเยน ตํ รตนตฺตยํ สรณํฯ ตปฺปสาทตคฺครุตาหิ วิหตวิทฺธํสิตกิเลโส ตปฺปรายณตาการปฺปวตฺโต อปรปฺปจฺจโย วา จิตฺตุปฺปาโท สรณคมนํฯ ตํสมงฺคี สตฺโต ตํ สรณํ คจฺฉติ, วุตฺตปฺปกาเรน จิตฺตุปฺปาเทน ‘‘เอส เม สรณํ, เอส เม ปรายณ’’นฺติ เอวเมตํ อุเปตีติ อตฺโถ ฯ อุเปนฺโต จ ‘‘เอเต มยํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉาม, ธมฺมญฺจ, อุปาสเก โน ภควา ธาเรตู’’ติ ตปุสฺสภลฺลิกาทโย วิย สมาทาเนน วา, ‘‘สตฺถา เม, ภนฺเต, ภควา, สาวโกหมสฺมี’’ติ (สํ. นิ. 2.154) มหากสฺสปาทโย วิย สิสฺสภาวูปคมเนน วา, ‘‘เอวํ วุตฺเต พฺรหฺมายุ พฺราหฺมโณ อุฏฺฐายาสนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา เยน ภควา เตนญฺชลิํ ปณาเมตฺวา ติกฺขตฺตุํ อุทานํ อุทาเนสิ ‘นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสฯ นโม ตสฺส…เป.… สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสา’’’ติ (ม. นิ. 2.388) พฺรหฺมายุอาทโย วิย ตปฺโปณตฺเตน วา, กมฺมฏฺฐานานุโยคิโน วิย อตฺตสนฺนิยฺยาตเนน วา, อริยปุคฺคลา วิย สรณคมนุปกฺกิเลสสมุจฺเฉเทน วาติ อเนกปฺปการํ วิสยโต กิจฺจโต จ อุเปติฯ

อยํ สรณคมนสฺส คมกสฺส จ วิภาวนาฯ

เภทาเภทผลทีปนา

อิทานิ ‘‘เภทาเภทํ ผลญฺจาปิ, คมนียญฺจ ทีปเย’’ติ วุตฺตานํ เภทาทีนํ อยํ ทีปนา, เอวํ สรณคตสฺส ปุคฺคลสฺส ทุวิโธ สรณคมนเภโท – สาวชฺโช จ อนวชฺโช จฯ อนวชฺโช กาลกิริยาย, สาวชฺโช อญฺญสตฺถริ วุตฺตปฺปการปฺปวตฺติยา, ตสฺมิญฺจ วุตฺตปฺปการวิปรีตปฺปวตฺติยาฯ โส ทุวิโธปิ ปุถุชฺชนานเมวฯ พุทฺธคุเณสุ อญฺญาณสํสยมิจฺฉาญาณปฺปวตฺติยา อนาทราทิปฺปวตฺติยา จ เตสํ สรณํ สํกิลิฏฺฐํ โหติฯ อริยปุคฺคลา ปน อภินฺนสรณา เจว อสํกิลิฏฺฐสรณา จ โหนฺติฯ ยถาห ‘‘อฏฺฐานเมตํ, ภิกฺขเว, อนวกาโส, ยํ ทิฏฺฐิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล อญฺญํ สตฺถารํ อุทฺทิเสยฺยา’’ติ (อ. นิ. 1.276; ม. นิ. 3.128; วิภ. 809)ฯ ปุถุชฺชนา ตุ ยาวเทว สรณเภทํ น ปาปุณนฺติ, ตาวเทว อภินฺนสรณาฯ สาวชฺโชว เนสํ สรณเภโท, สํกิเลโส จ อนิฏฺฐผลโท โหติฯ อนวชฺโช อวิปากตฺตา อผโล, อเภโท ปน ผลโต อิฏฺฐเมว ผลํ เทติฯ

ยถาห –

‘‘เยเกจิ พุทฺธํ สรณํ คตาเส, น เต คมิสฺสนฺติ อปายภูมิํ;

ปหาย มานุสํ เทหํ, เทวกายํ ปริปูเรสฺสนฺตี’’ติฯ (ที. นิ. 2.332; สํ. นิ. 1.37);

ตตฺร จ เย สรณคมนุปกฺกิเลสสมุจฺเฉเทน สรณํ คตา, เต อปายํ น คมิสฺสนฺติฯ อิตเร ปน สรณคมเนน น คมิสฺสนฺตีติ เอวํ คาถาย อธิปฺปาโย เวทิตพฺโพฯ

อยํ ตาว เภทาเภทผลทีปนาฯ

คมนียทีปนา

คมนียทีปนายํ โจทโก อาห – ‘‘พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามี’’ติ เอตฺถ โย พุทฺธํ สรณํ คจฺฉติ, เอส พุทฺธํ วา คจฺเฉยฺย สรณํ วา, อุภยถาปิ จ เอกสฺส วจนํ นิรตฺถกํฯ กสฺมา? คมนกิริยาย กมฺมทฺวยาภาวโตฯ น เหตฺถ ‘‘อชํ คามํ เนตี’’ติอาทีสุ วิย ทฺวิกมฺมกตฺตํ อกฺขรจินฺตกา อิจฺฉนฺติฯ

‘‘คจฺฉเตว ปุพฺพํ ทิสํ, คจฺฉติ ปจฺฉิมํ ทิส’’นฺติอาทีสุ (สํ. นิ. 1.159; 3.87) วิย สาตฺถกเมวาติ เจ? น, พุทฺธสรณานํ สมานาธิกรณภาวสฺสานธิปฺเปตโตฯ เอเตสญฺหิ สมานาธิกรณภาเว อธิปฺเปเต ปฏิหตจิตฺโตปิ พุทฺธํ อุปสงฺกมนฺโต พุทฺธํ สรณํ คโต สิยาฯ ยญฺหิ ตํ พุทฺโธติ วิเสสิตํ สรณํ, ตเมเวส คโตติฯ ‘‘เอตํ โข สรณํ เขมํ, เอตํ สรณมุตฺตม’’นฺติ (ธ. ป. 192) วจนโต สมานาธิกรณตฺตเมวาติ เจ? น, ตตฺเถว ตพฺภาวโตฯ ตตฺเถว หิ คาถาปเท เอตํ พุทฺธาทิรตนตฺตยํ สรณคตานํ ภยหรณตฺตสงฺขาเต สรณภาเว อพฺยภิจรณโต ‘‘เขมมุตฺตมญฺจ สรณ’’นฺติ อยํ สมานาธิกรณภาโว อธิปฺเปโต, อญฺญตฺถ ตุ คมิสมฺพนฺเธ สติ สรณคมนสฺส อปฺปสิทฺธิโต อนธิปฺเปโตติ อสาธกเมตํฯ