เมนู

ตทุภยมฺปิ สาทิยโต น เกนจิ ปริยาเยน วฏฺฏติฯ ชาตรูปนฺติ สุวณฺณํฯ รชตนฺติ กหาปโณ, โลหมาสกทารุมาสกชตุมาสกาทิ ยํ ยํ ตตฺถ ตตฺถ โวหารํ คจฺฉติ, ตทุภยมฺปิ ชาตรูปรชตํฯ ตสฺส เยน เกนจิ ปกาเรน สาทิยนํ ปฏิคฺคโห นาม, โส น เยน เกนจิ ปริยาเยน วฏฺฏตีติ เอวํ อาเวณิกํ วตฺตพฺพํฯ

ทสปิ เจตานิ สิกฺขาปทานิ หีเนน ฉนฺเทน จิตฺตวีริยวีมํสาหิ วา สมาทินฺนานิ หีนานิ, มชฺฌิเมหิ มชฺฌิมานิ, ปณีเตหิ ปณีตานิฯ ตณฺหาทิฏฺฐิมาเนหิ วา อุปกฺกิลิฏฺฐานิ หีนานิ, อนุปกฺกิลิฏฺฐานิ มชฺฌิมานิ, ตตฺถ ตตฺถ ปญฺญาย อนุคฺคหิตานิ ปณีตานิฯ ญาณวิปฺปยุตฺเตน วา กุสลจิตฺเตน สมาทินฺนานิ หีนานิ, สสงฺขาริกญาณสมฺปยุตฺเตน มชฺฌิมานิ, อสงฺขาริเกน ปณีตานีติ เอวํ เญยฺยา หีนาทิตาปิ จาติฯ

เอตฺตาวตา จ ยา ปุพฺเพ ‘‘เยน ยตฺถ ยทา ยสฺมา’’ติอาทีหิ ฉหิ คาถาหิ สิกฺขาปทปาฐสฺส วณฺณนตฺถํ มาติกา นิกฺขิตฺตา, สา อตฺถโต ปกาสิตา โหตีติฯ

ปรมตฺถโชติกาย ขุทฺทกปาฐ-อฏฺฐกถาย

สิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

3. ทฺวตฺติํสาการวณฺณนา

ปทสมฺพนฺธวณฺณนา

อิทานิ ยทิทํ เอวํ ทสหิ สิกฺขาปเทหิ ปริสุทฺธปโยคสฺส สีเล ปติฏฺฐิตสฺส กุลปุตฺตสฺส อาสยปริสุทฺธตฺถํ จิตฺตภาวนตฺถญฺจ อญฺญตฺร พุทฺธุปฺปาทา อปฺปวตฺตปุพฺพํ สพฺพติตฺถิยานํ อวิสยภูตํ เตสุ เตสุ สุตฺตนฺเตสุ –

‘‘เอกธมฺโม, ภิกฺขเว, ภาวิโต พหุลีกโต มหโต สํเวคาย สํวตฺตติฯ มหโต อตฺถาย สํวตฺตติฯ มหโต โยคกฺเขมาย สํวตฺตติฯ มหโต สติสมฺปชญฺญาย สํวตฺตติฯ ญาณทสฺสนปฺปฏิลาภาย สํวตฺตติฯ ทิฏฺฐธมฺมสุขวิหาราย สํวตฺตติฯ วิชฺชาวิมุตฺติผลสจฺฉิกิริยาย สํวตฺตติฯ

กตโม เอกธมฺโม? กายคตา สติฯ อมตํ เต, ภิกฺขเว, น ปริภุญฺชนฺติ, เย กายคตาสติํ น ปริภุญฺชนฺติฯ อมตํ เต, ภิกฺขเว, ปริภุญฺชนฺติ, เย กายคตาสติํ ปริภุญฺชนฺติฯ อมตํ เตสํ, ภิกฺขเว, อปริภุตฺตํ ปริภุตฺตํ, ปริหีนํ อปริหีนํ, วิรทฺธํ อารทฺธํ, เยสํ กายคตา สติ อารทฺธา’’ติฯ (อ. นิ. 1.564-570) –

เอวํ ภควตา อเนกากาเรน ปสํสิตฺวา –

‘‘กถํ ภาวิตา, ภิกฺขเว, กายคตาสติ กถํ พหุลีกตา มหพฺพลา โหติ มหานิสํสา? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อรญฺญคโต วา’’ติ (ม. นิ. 3.154) –

อาทินา นเยน อานาปานปพฺพํ อิริยาปถปพฺพํ จตุสมฺปชญฺญปพฺพํ ปฏิกูลมนสิการปพฺพํ ธาตุมนสิการปพฺพํ นว สิวถิกปพฺพานีติ อิเมสํ จุทฺทสนฺนํ ปพฺพานํ วเสน กายคตาสติกมฺมฏฺฐานํ นิทฺทิฏฺฐํฯ ตสฺส ภาวนานิทฺเทโส อนุปฺปตฺโตฯ ตตฺถ ยสฺมา อิริยาปถปพฺพํ จตุสมฺปชญฺญปพฺพํ ธาตุมนสิการปพฺพนฺติ อิมานิ ตีณิ วิปสฺสนาวเสน วุตฺตานิฯ นว สิวถิกปพฺพานิ วิปสฺสนาญาเณสุเยว อาทีนวานุปสฺสนาวเสน วุตฺตานิฯ ยาปิ เจตฺถ อุทฺธุมาตกาทีสุ สมาธิภาวนา อิจฺเฉยฺย, สา วิสุทฺธิมคฺเค วิตฺถารโต อสุภภาวนานิทฺเทเส ปกาสิตา เอวฯ อานาปานปพฺพํ ปน ปฏิกูลมนสิการปพฺพญฺเจติ อิมาเนตฺถ ทฺเว สมาธิวเสน วุตฺตานิฯ เตสุ อานาปานปพฺพํ อานาปานสฺสติวเสน วิสุํ กมฺมฏฺฐานํเยวฯ ยํ ปเนตํ –

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อิมเมว กายํ อุทฺธํ ปาทตลา อโธ เกสมตฺถกา ตจปริยนฺตํ ปูรํ นานปฺปการสฺส อสุจิโน ปจฺจเวกฺขติ ‘อตฺถิ อิมสฺมิํ กาเย เกสา, โลมา…เป.… มุตฺต’’นฺติ (ม. นิ. 3.154)ฯ

เอวํ ตตฺถ ตตฺถ มตฺถลุงฺคํ อฏฺฐิมิญฺเชน สงฺคเหตฺวา เทสิตํ กายคตาสติโกฏฺฐาสภาวนาปริยายํ ทฺวตฺติํสาการกมฺมฏฺฐานํ อารทฺธํ, ตสฺสายํ อตฺถวณฺณนา –

ตตฺถ อตฺถีติ สํวิชฺชนฺติฯ

อิมสฺมินฺติ ยฺวายํ อุทฺธํ ปาทตลา อโธ เกสมตฺถกา ตจปริยนฺโต ปูโร นานปฺปการสฺส อสุจิโนติ วุจฺจติ, ตสฺมิํ กาเยติ สรีเรฯ สรีรญฺหิ อสุจิสญฺจยโต, กุจฺฉิตานํ วา เกสาทีนญฺเจว จกฺขุโรคาทีนญฺจ โรคสตานํ อายภูตโต กาโยติ วุจฺจติฯ เกสา…เป.… มุตฺตนฺติ เอเต เกสาทโย ทฺวตฺติํสาการา, ตตฺถ ‘‘อตฺถิ อิมสฺมิํ กาเย เกสา อตฺถิ โลมา’’ติ เอวํ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ ฯ เตน กิํ กถิตํ โหติ? อิมสฺมิํ ปาทตลา ปฏฺฐาย อุปริ, เกสมตฺถกา ปฏฺฐาย เหฏฺฐา, ตจโต ปฏฺฐาย ปริโตติ เอตฺตเก พฺยามมตฺเต กเฬวเร สพฺพากาเรนาปิ วิจินนฺโต น โกจิ กิญฺจิ มุตฺตํ วา มณิํ วา เวฬุริยํ วา อครุํ วา จนฺทนํ วา กุงฺกุมํ วา กปฺปูรํ วา วาสจุณฺณาทิํ วา อณุมตฺตมฺปิ สุจิภาวํ ปสฺสติ, อถ โข ปรมทุคฺคนฺธเชคุจฺฉํ อสฺสิริกทสฺสนํ นานปฺปการํ เกสโลมาทิเภทํ อสุจิเมว ปสฺสตีติฯ

อยํ ตาเวตฺถ ปทสมฺพนฺธโต วณฺณนาฯ

อสุภภาวนา

อสุภภาวนาวเสน ปนสฺส เอวํ วณฺณนา เวทิตพฺพา – เอวเมตสฺมิํ ปาณาติปาตาเวรมณิสิกฺขาปทาทิเภเท สีเล ปติฏฺฐิเตน ปโยคสุทฺเธน อาทิกมฺมิเกน กุลปุตฺเตน อาสยสุทฺธิยา อธิคมนตฺถํ ทฺวตฺติํสาการกมฺมฏฺฐานภาวนานุโยคมนุยุญฺชิตุกาเมน ปฐมํ ตาวสฺส อาวาสกุลลาภคณกมฺมทฺธานญาติคนฺถโรคอิทฺธิปลิโพเธน กิตฺติปลิโพเธน วา สห ทส ปลิโพธา โหนฺติฯ อถาเนน อาวาสกุลลาภคณญาติกิตฺตีสุ สงฺคปฺปหาเนน, กมฺมทฺธานคนฺเถสุ อพฺยาปาเรน, โรคสฺส ติกิจฺฉายาติ เอวํ เต ทส ปลิโพธา อุปจฺฉินฺทิตพฺพา, อถาเนน อุปจฺฉินฺนปลิโพเธน อนุปจฺฉินฺนเนกฺขมฺมาภิลาเสน โกฏิปฺปตฺตสลฺเลขวุตฺติตํ ปริคฺคเหตฺวา ขุทฺทานุขุทฺทกมฺปิ วินยาจารํ อปฺปชหนฺเตน อาคมาธิคมสมนฺนาคโต ตโต อญฺญตรงฺคสมนฺนาคโต วา กมฺมฏฺฐานทายโก อาจริโย วินยานุรูเปน วิธินา อุปคนฺตพฺโพ, วตฺตสมฺปทาย จ อาราธิตจิตฺตสฺส ตสฺส อตฺตโน อธิปฺปาโย นิเวเทตพฺโพฯ เตน ตสฺส นิมิตฺตชฺฌาสยจริยาธิมุตฺติเภทํ ญตฺวา ยทิ เอตํ กมฺมฏฺฐานมนุรูปํ, อถ ยสฺมิํ วิหาเร อตฺตนา วสติ, ยทิ ตสฺมิํเยว โสปิ วสิตุกาโม โหติ, ตโต สงฺเขปโต กมฺมฏฺฐานํ ทาตพฺพํฯ อถ อญฺญตฺร วสิตุกาโม โหติ, ตโต ปหาตพฺพปริคฺคเหตพฺพาทิกถนวเสน สปุเรกฺขารํ ราคจริตานุกุลาทิกถนวเสน สปฺปเภทํ วิตฺถาเรน กเถตพฺพํฯ เตน ตํ สปุเรกฺขารํ สปฺปเภทํ กมฺมฏฺฐานํ อุคฺคเหตฺวา อาจริยํ อาปุจฺฉิตฺวา ยานิ ตานิ –

‘‘มหาวาสํ นวาวาสํ, ชราวาสญฺจ ปนฺถนิํ;

โสณฺฑิํ ปณฺณญฺจ ปุปฺผญฺจ, ผลํ ปตฺถิตเมว จฯ

‘‘นครํ ทารุนา เขตฺตํ, วิสภาเคน ปฏฺฏนํ;

ปจฺจนฺตสีมาสปฺปายํ, ยตฺถ มิตฺโต น ลพฺภติฯ

‘‘อฏฺฐารเสตานิ ฐานานิ, อิติ วิญฺญาย ปณฺฑิโต;

อารกา ปริวชฺเชยฺย, มคฺคํ สปฺปฏิภยํ ยถา’’ติฯ (วิสุทฺธิ. 1.52) –

เอวํ อฏฺฐารส เสนาสนานิ ปริวชฺเชตพฺพานีติ วุจฺจนฺติฯ ตานิ วชฺเชตฺวา, ยํ ตํ –

‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, เสนาสนํ ปญฺจงฺคสมนฺนาคตํ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เสนาสนํ นาติทูรํ โหติ, นจฺจาสนฺนํ, คมนาคมนสมฺปนฺนํ, ทิวา อปฺปากิณฺณํ, รตฺติํ อปฺปสทฺทํ อปฺปนิคฺโฆสํ อปฺปฑํสมกสวาตาตปสรีสปสมฺผสฺสํฯ ตสฺมิํ โข ปน เสนาสเน วิหรนฺตสฺส อปฺปกสิเรน อุปฺปชฺชนฺติ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาราฯ ตสฺมิํ โข ปน เสนาสเน เถรา ภิกฺขู วิหรนฺติ พหุสฺสุตา อาคตาคมา ธมฺมธรา วินยธรา มาติกาธรา, เต กาเลน กาลํ อุปสงฺกมิตฺวา ปริปุจฺฉติ ปริปญฺหติ ‘อิทํ, ภนฺเต, กถํ, อิมสฺส โก อตฺโถ’ติ? ตสฺส, เต อายสฺมนฺโต อวิวฏญฺเจว วิวรนฺติ, อนุตฺตานีกตญฺจ อุตฺตานิํ กโรนฺติ, อเนกวิหิเตสุ จ กงฺขาฐานิเยสุ ธมฺเมสุ กงฺขํ ปฏิวิโนเทนฺติฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, เสนาสนํ ปญฺจงฺคสมนฺนาคตํ โหตี’’ติ (อ. นิ. 10.11)ฯ –

เอวํ ปญฺจงฺคสมนฺนาคตํ เสนาสนํ วุตฺตํฯ