เมนู

‘‘ภาสิตฺวา นิธิกณฺฑสฺส, อิธ นิกฺเขปการณํ;

อฏฺฐุปฺปตฺติญฺจ ทีเปตฺวา, กริสฺสามตฺถวณฺณนํ’’ฯ

ตตฺถ อิธ นิกฺเขปการณํ ตาวสฺส เอวํ เวทิตพฺพํฯ อิทญฺหิ นิธิกณฺฑํ ภควตา อิมินา อนุกฺกเมน อวุตฺตมฺปิ ยสฺมา อนุโมทนวเสน วุตฺตสฺส ติโรกุฏฺฏสฺส มิถุนภูตํ, ตสฺมา อิธ นิกฺขิตฺตํฯ ติโรกุฏฺเฏน วา ปุญฺญวิรหิตานํ วิปตฺติํ ทสฺเสตฺวา อิมินา กตปุญฺญานํ สมฺปตฺติทสฺสนตฺถมฺปิ อิทํ อิธ นิกฺขิตฺตนฺติ เวทิตพฺพํฯ อิทมสฺส อิธ นิกฺเขปการณํฯ

สุตฺตฏฺฐุปฺปตฺติ

อฏฺฐุปฺปตฺติ ปนสฺส – สาวตฺถิยํ กิร อญฺญตโร กุฏุมฺพิโก อฑฺโฒ มหทฺธโน มหาโภโคฯ โส จ สทฺโธ โหติ ปสนฺโน, วิคตมลมจฺเฉเรน เจตสา อคารํ อชฺฌาวสติฯ โส เอกสฺมิํ ทิวเส พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส ทานํ เทติฯ เตน จ สมเยน ราชา ธนตฺถิโก โหติ, โส ตสฺส สนฺติเก ปุริสํ เปเสสิ ‘‘คจฺฉ, ภเณ, อิตฺถนฺนามํ กุฏุมฺพิกํ อาเนหี’’ติฯ โส คนฺตฺวา ตํ กุฏุมฺพิกํ อาห ‘‘ราชา ตํ คหปติ อามนฺเตตี’’ติฯ กุฏุมฺพิโก สทฺธาทิคุณสมนฺนาคเตน เจตสา พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปริวิสนฺโต อาห ‘‘คจฺฉ, โภ ปุริส, ปจฺฉา อาคมิสฺสามิ, อิทานิ ตาวมฺหิ นิธิํ นิเธนฺโต ฐิโต’’ติฯ อถ ภควา ภุตฺตาวี ปวาริโต ตเมว ปุญฺญสมฺปทํ ปรมตฺถโต นิธีติ ทสฺเสตุํ ตสฺส กุฏุมฺพิกสฺส อนุโมทนตฺถํ ‘‘นิธิํ นิเธติ ปุริโส’’ติ อิมา คาถาโย อภาสิฯ อยมสฺส อฏฺฐุปฺปตฺติฯ

เอวมสฺส

‘‘ภาสิตฺวา นิธิกณฺฑสฺส, อิธ นิกฺเขปการณํ;

อฏฺฐุปฺปตฺติญฺจ ทีเปตฺวา, กริสฺสามตฺถวณฺณนํ’’ฯ

ปฐมคาถาวณฺณนา

[1] ตตฺถ นิธิํ นิเธติ ปุริโสติ นิธียตีติ นิธิ, ฐปียติ รกฺขียติ โคปียตีติ อตฺโถฯ โส จตุพฺพิโธ ถาวโร, ชงฺคโม, องฺคสโม, อนุคามิโกติฯ ตตฺถ ถาวโร นาม ภูมิคตํ วา เวหาสฏฺฐํ วา หิรญฺญํ วา สุวณฺณํ วา เขตฺตํ วา วตฺถุ วา, ยํ วา ปนญฺญมฺปิ เอวรูปํ อิริยาปถวิรหิตํ, อยํ ถาวโร นิธิฯ ชงฺคโม นาม ทาสิทาสํ หตฺถิควสฺสวฬวํ อเชฬกํ กุกฺกุฏสูกรํ ยํ วา ปนญฺญมฺปิ เอวรูปํ อิริยาปถปฏิสํยุตฺตํฯ อยํ ชงฺคโม นิธิ องฺคสโม นาม กมฺมายตนํ, สิปฺปายตนํ, วิชฺชาฏฺฐานํ, พาหุสจฺจํ, ยํ วา ปนญฺญมฺปิ เอวรูปํ สิกฺขิตฺวา คหิตํ องฺคปจฺจงฺคมิว อตฺตภาวปฺปฏิพทฺธํ, อยํ องฺคสโม นิธิฯ อนุคามิโก นาม ทานมยํ ปุญฺญํ สีลมยํ ภาวนามยํ ธมฺมสฺสวนมยํ ธมฺมเทสนามยํ, ยํ วา ปนญฺญมฺปิ เอวรูปํ ปุญฺญํ ตตฺถ ตตฺถ อนุคนฺตฺวา วิย อิฏฺฐผลมนุปฺปเทติ, อยํ อนุคามิโก นิธิฯ อิมสฺมิํ ปน ฐาเน ถาวโร อธิปฺเปโตฯ

นิเธตีติ ฐเปติ ปฏิสาเมติ โคเปติฯ ปุริโสติ มนุสฺโสฯ กามญฺจ ปุริโสปิ อิตฺถีปิ ปณฺฑโกปิ นิธิํ นิเธติ, อิธ ปน ปุริสสีเสน เทสนา กตา, อตฺถโต ปน เตสมฺปิ อิธ สโมธานํ ทฏฺฐพฺพํฯ คมฺภีเร โอทกนฺติเกติ โอคาเหตพฺพฏฺเฐน คมฺภีรํ, อุทกสฺส อนฺติกภาเวน โอทกนฺติกํฯ อตฺถิ คมฺภีรํ น โอทกนฺติกํ ชงฺคเล ภูมิภาเค สติกโปริโส อาวาโฏ วิย, อตฺถิ โอทกนฺติกํ น คมฺภีรํ นินฺเน ปลฺลเล เอกทฺวิวิทตฺถิโก อาวาโฏ วิย, อตฺถิ คมฺภีรญฺเจว โอทกนฺติกญฺจ ชงฺคเล ภูมิภาเค ยาว อิทานิ อุทกํ อาคมิสฺสตีติ, ตาว ขโต อาวาโฏ วิยฯ ตํ สนฺธาย อิทํ วุตฺตํ ‘‘คมฺภีเร โอทกนฺติเก’’ติฯ อตฺเถ กิจฺเจ สมุปฺปนฺเนติ อตฺถา อนเปตนฺติ อตฺถํ, อตฺถาวหํ หิตาวหนฺติ วุตฺตํ โหติฯ กาตพฺพนฺติ กิจฺจํ, กิญฺจิเทว กรณียนฺติ วุตฺตํ โหติฯ อุปฺปนฺนํ เอว สมุปฺปนฺนํ, กตฺตพฺพภาเวน อุปฏฺฐิตนฺติ วุตฺตํ โหติฯ ตสฺมิํ อตฺเถ กิจฺเจ สมุปฺปนฺเนฯ อตฺถาย เม ภวิสฺสตีติ นิธานปฺปโยชนนิทสฺสนเมตํฯ เอตทตฺถญฺหิ โส นิเธติ ‘‘อตฺถาวเห กิสฺมิญฺจิเทว กรณีเย สมุปฺปนฺเน อตฺถาย เม ภวิสฺสติ, ตสฺส เม กิจฺจสฺส นิปฺผตฺติยา ภวิสฺสตี’’ติฯ กิจฺจนิปฺผตฺติเยว หิ ตสฺส กิจฺเจ สมุปฺปนฺเน อตฺโถติ เวทิตพฺโพฯ

ทุติยคาถาวณฺณนา

เอวํ นิธานปฺปโยชนํ ทสฺเสนฺโต อตฺถาธิคมาธิปฺปายํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อนตฺถาปคมาธิปฺปายํ ทสฺเสตุมาห –