เมนู

ทฺวาทสมคาถาวณฺณนา

[12] เอวํ ภควา ‘‘รุณฺณํ วา โสโก วา ยา จญฺญา ปริเทวนา, สพฺพมฺปิ ตํ เปตานํ อตฺถาย น โหติ, เกวลนฺตุ อตฺตานํ ปริตาปนมตฺตเมว, เอวํ ติฏฺฐนฺติ ญาตโย’’ติ รุณฺณาทีนํ นิรตฺถกภาวํ ทสฺเสตฺวา ปุน มาคธราเชน ยา ทกฺขิณา ทินฺนา, ตสฺสา สาตฺถกภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อยญฺจ โข ทกฺขิณา’’ติ อิมํ คาถมาหฯ

ตสฺสตฺโถ – อยญฺจ โข, มหาราช, ทกฺขิณา ตยา อชฺช อตฺตโน ญาติคณํ อุทฺทิสฺส ทินฺนา , สา ยสฺมา สงฺโฆ อนุตฺตรํ ปุญฺญกฺเขตฺตํ โลกสฺส, ตสฺมา สงฺฆมฺหิ สุปฺปติฏฺฐิตา อสฺส เปตชนสฺส ทีฆรตฺตํ หิตาย อุปกปฺปติ สมฺปชฺชติ ผลตีติ วุตฺตํ โหติฯ อุปกปฺปตีติ จ ฐานโส อุปกปฺปติ, ตํขณํเยว อุปกปฺปติ, น จิเรนฯ ยถา หิ ตํขณญฺเญว ปฏิภนฺตํ ‘‘ฐานโสเวตํ ตถาคตํ ปฏิภาตี’’ติ วุจฺจติ, เอวมิธาปิ ตํขณํเยว อุปกปฺปนฺตา ‘‘ฐานโส อุปกปฺปตี’’ติ วุตฺตาฯ ยํ วา ตํ ‘‘อิทํ โข, พฺราหฺมณ, ฐานํ, ยตฺถ ฐิตสฺส ตํ ทานํ อุปกปฺปตี’’ติ (อ. นิ. 10.177) วุตฺตํ, ตตฺถ ขุปฺปิปาสิกวนฺตาสปรทตฺตูปชีวินิชฺฌามตณฺหิกาทิเภทภินฺเน ฐาเน อุปกปฺปตีติ วุตฺตํ ยถา กหาปณํ เทนฺโต ‘‘กหาปณโส เทตี’’ติ โลเก วุจฺจติฯ อิมสฺมิญฺจ อตฺถวิกปฺเป อุปกปฺปตีติ ปาตุภวติ, นิพฺพตฺตตีติ วุตฺตํ โหติฯ

เตรสมคาถาวณฺณนา

[13] เอวํ ภควา รญฺญา ทินฺนาย ทกฺขิณาย สาตฺถกภาวํ ทสฺเสนฺโต –

‘‘อยญฺจ โข ทกฺขิณา ทินฺนา, สงฺฆมฺหิ สุปฺปติฏฺฐิตา;

ทีฆรตฺตํ หิตายสฺส, ฐานโส อุปกปฺปตี’’ติฯ –

วตฺวา ปุน ยสฺมา อิมํ ทกฺขิณํ เทนฺเตน ญาตีนํ ญาตีหิ กตฺตพฺพกิจฺจกรณวเสน ญาติธมฺโม นิทสฺสิโต, พหุชนสฺส ปากฏีกโต, นิทสฺสนํ วา กโต, ตุมฺเหหิปิ ญาตีนํ เอวเมว ญาตีหิ กตฺตพฺพกิจฺจกรณวเสน ญาติธมฺโม ปริปูเรตพฺโพ, น นิรตฺถเกหิ รุณฺณาทีหิ อตฺตา ปริตาเปตพฺโพติ จ เปเต ทิพฺพสมฺปตฺติํ อธิคเมนฺเตน เปตานํ ปูชา กตา อุฬารา, พุทฺธปฺปมุขญฺจ ภิกฺขุสงฺฆํ อนฺนปานาทีหิ สนฺตปฺเปนฺเตน ภิกฺขูนํ พลํ อนุปทินฺนํ, อนุกมฺปาทิคุณปริวารญฺจ จาคเจตนํ นิพฺพตฺเตนฺเตน อนปฺปกํ ปุญฺญํ ปสุตํ, ตสฺมา ภควา อิเมหิ ยถาภุจฺจคุเณหิ ราชานํ สมฺปหํเสนฺโต –

‘‘โส ญาติธมฺโม จ อยํ นิทสฺสิโต,

เปตาน ปูชา จ กตา อุฬารา;

พลญฺจ ภิกฺขูนมนุปฺปทินฺนํ,

ตุมฺเหหิ ปุญฺญํ ปสุตํ อนปฺปก’’นฺติฯ –

อิมาย คาถาย เทสนํ ปริโยสาเปติฯ

อถ วา ‘‘โส ญาติธมฺโม จ อยํ นิทสฺสิโต’’ติ อิมินา คาถาปเทน ภควา ราชานํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสติฯ ญาติธมฺมนิทสฺสนเมว หิ เอตฺถ สนฺทสฺสนํ เปตาน ปูชา จ กตา อุฬาราติ อิมินา สมาทเปติฯ อุฬาราติ ปสํสนเมว หิ เอตฺถ ปุนปฺปุนํ ปูชากรเณ สมาทปนํฯ พลญฺจ ภิกฺขูนมนุปฺปทินฺนนฺติ อิมินา สมุตฺเตเชติฯ พลานุปฺปทานเมว หิ เอตฺถ เอวํ ทานํ, พลานุปฺปทานตาติ ตสฺส อุสฺสาหวฑฺฒเนน สมุตฺเตชนํฯ ตุมฺเหหิ ปุญฺญํ ปสุตํ อนปฺปกนฺติ อิมินา สมฺปหํเสติฯ ปุญฺญปฺปสุตกิตฺตนเมว หิ เอตฺถ ตสฺส ยถาภุจฺจคุณสํวณฺณนภาเวน สมฺปหํสนชนนโต สมฺปหํสนนฺติ เวทิตพฺพํฯ

เทสนาปริโยสาเน จ เปตฺติวิสยูปปตฺติอาทีนวสํวณฺณเนน สํวิคฺคานํ โยนิโส ปทหตํ จตุราสีติยา ปาณสหสฺสานํ ธมฺมาภิสมโย อโหสิฯ ทุติยทิวเสปิ ภควา เทวมนุสฺสานํ อิทเมว ติโรกุฏฺฏํ เทเสสิ, เอวํ ยาว สตฺตมทิวสา ตาทิโส เอว ธมฺมาภิสมโย อโหสีติฯ

ปรมตฺถโชติกาย ขุทฺทกปาฐ-อฏฺฐกถาย

ติโรกุฏฺฏสุตฺตวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

8. นิธิกณฺฑสุตฺตวณฺณนา

นิกฺเขปการณํ

อิทานิ ยทิทํ ติโรกุฏฺฏานนฺตรํ ‘‘นิธิํ นิเธติ ปุริโส’’ติอาทินา นิธิกณฺฑํ นิกฺขิตฺตํ, ตสฺส –