เมนู

ปฐมคาถาวณฺณนา

[1] อิทานิ อิมสฺส ติโรกุฏฺฏสฺส ยถากฺกมํ อตฺถวณฺณนํ กริสฺสามฯ เสยฺยถิทํ – ปฐมคาถาย ตาว ติโรกุฏฺฏาติ กุฏฺฏานํ ปรภาคา วุจฺจนฺติฯ ติฏฺฐนฺตีติ นิสชฺชาทิปฺปฏิกฺเขปโต ฐานกปฺปนวจนเมตํฯ เตน ยถา ปาการปรภาคํ ปพฺพตปรภาคญฺจ คจฺฉนฺตํ ‘‘ติโรปาการํ ติโรปพฺพตํ อสชฺชมาโน คจฺฉตี’’ติ วทนฺติ, เอวมิธาปิ กุฏฺฏสฺส ปรภาเคสุ ติฏฺฐนฺเต ‘‘ติโรกุฏฺเฏสุ ติฏฺฐนฺตี’’ติ อาหฯ สนฺธิสิงฺฆาฏเกสุ จาติ เอตฺถ สนฺธิโยติ จตุกฺโกณรจฺฉา วุจฺจนฺติ ฆรสนฺธิภิตฺติสนฺธิอาโลกสนฺธิโย จาปิฯ สิงฺฆาฏกาติ ติโกณรจฺฉา วุจฺจนฺติ, ตเทกชฺฌํ กตฺวา ปุริเมน สทฺธิํ สงฺฆเฏนฺโต ‘‘สนฺธิสิงฺฆาฏเกสุ จา’’ติ อาหฯ ทฺวารพาหาสุ ติฏฺฐนฺตีติ นครทฺวารฆรทฺวารานํ พาหา นิสฺสาย ติฏฺฐนฺติฯ อาคนฺตฺวาน สกํ ฆรนฺติ เอตฺถ สกํ ฆรํ นาม ปุพฺพญาติฆรมฺปิ อตฺตนา สามิกภาเวน อชฺฌาวุตฺถปุพฺพฆรมฺปิฯ ตทุภยมฺปิ ยสฺมา เต สกฆรสญฺญาย อาคจฺฉนฺติ, ตสฺมา ‘‘อาคนฺตฺวาน สกํ ฆร’’นฺติ อาหฯ

ทุติยคาถาวณฺณนา

[2] เอวํ ภควา ปุพฺเพ อนชฺฌาวุตฺถปุพฺพมฺปิ ปุพฺพญาติฆรํ พิมฺพิสารนิเวสนํ สกฆรสญฺญาย อาคนฺตฺวา ติโรกุฏฺฏสนฺธิสิงฺฆาฏกทฺวารพาหาสุ ฐิเต อิสฺสามจฺฉริยผลํ อนุภวนฺเต, อปฺเปกจฺเจ ทีฆมสฺสุเกสวิการธเร อนฺธการมุเข สิถิลพนฺธนวิลมฺพมานกิสผรุสกาฬกงฺคปจฺจงฺเค ตตฺถ ตตฺถ ฐิตวนทาหทฑฺฒตาลรุกฺขสทิเส, อปฺเปกจฺเจ ชิฆจฺฉาปิปาสารณินิมฺมถเนน อุทรโต อุฏฺฐาย มุขโต วินิจฺฉรนฺตาย อคฺคิชาลาย ปริฑยฺหมานสรีเร, อปฺเปกจฺเจ สูจิฉิทฺทาณุมตฺตกณฺฐพิลตาย ปพฺพตาการกุจฺฉิตาย จ ลทฺธมฺปิ ปานโภชนํ ยาวทตฺถํ ภุญฺชิตุํ อสมตฺถตาย ขุปฺปิปาสาปเรเต อญฺญํ รสมวินฺทมาเน, อปฺเปกจฺเจ อญฺญมญฺญสฺส อญฺเญสํ วา สตฺตานํ ปภินฺนคณฺฑปิฬกมุขา ปคฺฆริตรุธิรปุพฺพลสิกาทิํ ลทฺธา อมตมิว สายมาเน อติวิย ทุทฺทสิกวิรูปภยานกสรีเร พหู เปเต รญฺโญ นิทสฺเสนฺโต –

‘‘ติโรกุฏฺเฏสุ ติฏฺฐนฺติ, สนฺธิสิงฺฆาฏเกสุ จ;

ทฺวารพาหาสุ ติฏฺฐนฺติ, อาคนฺตฺวาน สกํ ฆร’’นฺติฯ –

วตฺวา ปุน เตหิ กตสฺส กมฺมสฺส ทารุณภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปหูเต อนฺนปานมฺหี’’ติ ทุติยคาถมาหฯ

ตตฺถ ปหูเตติ อนปฺปเก พหุมฺหิ, ยาวทตฺถิเกติ วุตฺตํ โหติฯ ภ-การสฺส หิ ห-กาโร ลพฺภติ ‘‘ปหุ สนฺโต น ภรตี’’ติอาทีสุ (สุ. นิ. 98) วิยฯ เกจิ ปน ‘‘พหูเต’’ อิติ จ ‘‘พหูเก’’ อิติ จ ปฐนฺติฯ

ปมาทปาฐา เอเต ฯ อนฺเน จ ปานมฺหิ จ อนฺนปานมฺหิฯ ขชฺเช จ โภชฺเช จ ขชฺชโภชฺเช, เอเตน อสิตปีตขายิตสายิตวเสน จตุพฺพิธํ อาหารํ ทสฺเสติฯ อุปฏฺฐิเตติ อุปคมฺม ฐิเต, สชฺชิเต ปฏิยตฺเต สโมหิเตติ วุตฺตํ โหติฯ น เตสํ โกจิ สรติ, สตฺตานนฺติ เตสํ เปตฺติวิสเย อุปฺปนฺนานํ สตฺตานํ โกจิ มาตา วา ปิตา วา ปุตฺโต วา น สรติฯ กิํ การณา? กมฺมปจฺจยา, อตฺตนา กตสฺส อทานทานปฺปฏิเสธนาทิเภทสฺส กทริยกมฺมสฺส ปจฺจยาฯ ตญฺหิ เตสํ กมฺมํ ญาตีนํ สริตุํ น เทติฯ

ตติยคาถาวณฺณนา

[3] เอวํ ภควา อนปฺปเกปิ อนฺนปานาทิมฺหิ ปจฺจุปฏฺฐิเต ‘‘อปิ นาม อมฺเห อุทฺทิสฺส กิญฺจิ ทเทยฺยุ’’นฺติ ญาตี ปจฺจาสีสนฺตานํ วิจรตํ เตสํ เปตานํ เตหิ กตสฺส อติกฏุกวิปากกรสฺส กมฺมสฺส ปจฺจเยน กสฺสจิ ญาติโน อนุสฺสรณมตฺตาภาวํ ทสฺเสนฺโต –

‘‘ปหูเต อนฺนปานมฺหิ, ขชฺชโภชฺเช อุปฏฺฐิเต;

น เตสํ โกจิ สรติ, สตฺตานํ กมฺมปจฺจยา’’ติฯ –

วตฺวา ปุน รญฺโญ เปตฺติวิสยูปปนฺเน ญาตเก อุทฺทิสฺส ทินฺนํ ทานํ ปสํสนฺโต ‘‘เอวํ ททนฺติ ญาตีน’’นฺติ ตติยคาถมาหฯ

ตตฺถ เอวนฺติ อุปมาวจนํฯ ตสฺส ทฺวิธา สมฺพนฺโธ – เตสํ สตฺตานํ กมฺมปจฺจยา อสรนฺเตปิ กิสฺมิญฺจิ ททนฺติ, ญาตีนํ, เย เอวํ อนุกมฺปกา โหนฺตีติ จ ยถา ตยา, มหาราช, ทินฺนํ, เอวํ สุจิํ ปณีตํ กาเลน กปฺปิยํ ปานโภชนํ ททนฺติ ญาตีนํ, เย โหนฺติ อนุกมฺปกาติ จฯ ททนฺตีติ เทนฺติ อุทฺทิสนฺติ นิยฺยาเตนฺติฯ ญาตีนนฺติ มาติโต จ ปิติโต จ สมฺพนฺธานํฯ เยติ เย เกจิ ปุตฺตา วา ธีตโร วา ภาตโร วา โหนฺตีติ ภวนฺติฯ อนุกมฺปกาติ อตฺถกามา หิเตสิโนฯ สุจินฺติ วิมลํ ทสฺสเนยฺยํ มโนรมํ ธมฺมิกํ ธมฺมลทฺธํฯ ปณีตนฺติ อุตฺตมํ เสฏฺฐํฯ กาเลนาติ ญาติเปตานํ ติโรกุฏฺฏาทีสุ อาคนฺตฺวา ฐิตกาเลนฯ กปฺปิยนฺติ อนุจฺฉวิกํ ปติรูปํ อริยานํ ปริโภคารหํฯ ปานโภชนนฺติ ปานญฺจ โภชนญฺจฯ อิธ ปานโภชนมุเขน สพฺโพปิ เทยฺยธมฺโม อธิปฺเปโตฯ