เมนู

5. ฌานสุตฺตวณฺณนา

[36] ปญฺจเม อาสวานํ ขยนฺติ อรหตฺตํฯ ยเทว ตตฺถ โหติ รูปคตนฺติ ตสฺมิํ ปฐมชฺฌานกฺขเณ วตฺถุวเสน วา จิตฺตสมุฏฺฐานิกาทิวเสน วา ยํ รูปํ นาม ปวตฺตติฯ เวทนาคตาทีนิ สมฺปยุตฺตเวทนาทีนํ วเสน เวทิตพฺพานิ เต ธมฺเมติ เต รูปาทโย ปญฺจกฺขนฺธธมฺเมฯ อนิจฺจโตติอาทีสุ หุตฺวา อภาวากาเรน อนิจฺจโต, ปฏิปีฬนากาเรน ทุกฺขโต, รุชฺชนากาเรน โรคโต, อนฺโตทุสฺสนฏฺเฐน คณฺฑโต, อนุปวิฏฺฐฏฺเฐน อนุกนฺตนฏฺเฐน จ สลฺลโต, ทุกฺขฏฺเฐน อฆโต, อาพาธนฏฺเฐน อาพาธโต, อสกฏฺเฐน ปรโต, ปลุชฺชนฏฺเฐน ปโลกโต, อสฺสามิกฏฺเฐน สุญฺญโต, อวสวตฺตนฏฺเฐน อนตฺตโตสมนุปสฺสตีติ พลววิปสฺสนาปญฺญาย ปสฺสติฯ

เตหิ ธมฺเมหีติ เตหิ ปญฺจกฺขนฺธธมฺเมหิฯ ปฏิวาเปตีติ นิพฺพานวเสน นิวตฺเตติฯ อมตาย ธาตุยาติ นิพฺพานธาตุยาฯ จิตฺตํ อุปสํหรตีติ ญาเณน อานิสํสํ ทิสฺวา โอตาเรติฯ สนฺตนฺติ ปจฺจนีกสนฺตตาย สนฺตํฯ ปณีตนฺติ อตปฺปกํฯ โส ตตฺถ ฐิโต อาสวานํ ขยํ ปาปุณาตีติ โส ตสฺมิํ ปฐมชฺฌาเน ฐิโต ตํ พลววิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติฯ อปโร นโย – โส เตหิ ธมฺเมหีติ ยสฺมา อนิจฺจโตติอาทีสุ อนิจฺจโต ปโลกโตติ ทฺวีหิ ปเทหิ อนิจฺจลกฺขณํ กถิตํ, ทุกฺขโตติอาทีหิ ฉหิ ทุกฺขลกฺขณํ, ปรโต, สุญฺญโต, อนตฺตโตติ ตีหิ อนตฺตลกฺขณํฯ ตสฺมา โส เตหิ เอวํ ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวา ทิฏฺเฐหิ อนฺโตสมาปตฺติยํ ปญฺจกฺขนฺธธมฺเมหิฯ จิตฺตํ ปฏิวาเปตีติ จิตฺตํ ปฏิสํหรติ โมเจติ อปเนติฯ อุปสํหรตีติ วิปสฺสนาจิตฺตํ ตาว สวนวเสน ถุติวเสน ปริยตฺติวเสน ปญฺญตฺติวเสน จ สนฺตํ นิพฺพานนฺติ เอวํ อสงฺขตาย อมตาย ธาตุยา อุปสํหรติฯ มคฺคจิตฺตํ นิพฺพานํ อารมฺมณกรณวเสเนว ‘‘เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีต’’นฺติ น เอวํ วทติฯ อิมินา ปนากาเรน ตํ ปฏิวิชฺฌนฺโต ตตฺถ จิตฺตํ อุปสํหรตีติ อตฺโถฯ

โส ตตฺถ ฐิโตติ ตสฺสา ติลกฺขณารมฺมณาย วิปสฺสนาย ฐิโตฯ อาสวานํ ขยํ ปาปุณาตีติ อนุกฺกเมน จตฺตาโร มคฺเค ภาเวตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติฯ เตเนว ธมฺมราเคนาติ สมถวิปสฺสนาธมฺเม ฉนฺทราเคนฯ ธมฺมนนฺทิยาติ ตสฺเสว เววจนํฯ สมถวิปสฺสนาสุ หิ สพฺพโส ฉนฺทราคํ ปริยาทาตุํ สกฺโกนฺโต อรหตฺตํ ปาปุณาติ, อสกฺโกนฺโต อนาคามี โหติฯ

ติณปุริสรูปเก วาติ ติณโปตฺถกรูเป วาฯ ทูเร กณฺเฑ ปาเตตีติ ทูเรปาตีฯ อวิราธิตํ วิชฺฌตีติ อกฺขณเวธีฯ ยเทว ตตฺถ โหติ เวทนาคตนฺติ อิธ รูปํ น คหิตํฯ กสฺมา? สมติกฺกนฺตตฺตาฯ อยญฺหิ เหฏฺฐา รูปาวจรชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา รูปํ อติกฺกมิตฺวา อรูปาวจรสมาปตฺติํ สมาปนฺโนติ สมถวเสนาปิ อเนน รูปํ สมติกฺกนฺตํ, เหฏฺฐา รูปํ สมฺมสิตฺวา ตํ อติกฺกมฺม อิทานิ อรูปํ สมฺมสตีติ วิปสฺสนาวเสนาปิ อเนน รูปํ อติกฺกนฺตํฯ อารุปฺเป ปน สพฺพโสปิ รูปํ นตฺถีติ ตํ สนฺธายปิ รูปํ น คหิตํฯ อถ เนวสญฺญานาสญฺญายตนํ กสฺมา น คหิตนฺติ? สุขุมตฺตาฯ ตสฺมิญฺหิ จตฺตาโรปิ อรูปกฺขนฺธา สุขุมา น สมฺมสนูปคาฯ เตเนวาห – ‘‘อิติ โข, ภิกฺขเว, ยาวตา สญฺญาสมาปตฺติ ตาวตา อญฺญาปฏิเวโธ’’ติฯ อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยาวตา สจิตฺตกสมาปตฺติ นาม อตฺถิ, ตาวตา โอฬาริเก ธมฺเม สมฺมสโต อญฺญาปฏิเวโธ โหติ, อรหตฺตํ สมฺปชฺชติฯ เนวสญฺญานาสญฺญายตนํ ปน สุขุมตฺตา สญฺญาสมาปตฺตีติ น วุจฺจติฯ ฌายีเหเตติ ฌายีหิ ฌานาภิรเตหิ เอตานิฯ วุฏฺฐหิตฺวาติ ตโต สมาปตฺติโต วุฏฺฐายฯ สมกฺขาตพฺพานีติ สมฺมา อกฺขาตพฺพานิ, ‘‘สนฺตานิ ปณีตานี’’ติ เอวํ เกวลํ อาจิกฺขิตพฺพานิ โถเมตพฺพานิ วณฺเณตพฺพานีติฯ

6. อานนฺทสุตฺตวณฺณนา

[37] ฉฏฺเฐ สมฺพาเธติ ปญฺจกามคุณสมฺพาเธฯ โอกาสาธิคโมติ โอกาสสฺส อธิคโมฯ สตฺตานํ วิสุทฺธิยาติ สตฺตานํ วิสุทฺธิํ ปาปนตฺถายฯ สมติกฺกมายาติ สมติกฺกมนตฺถายฯ อตฺถงฺคมายาติ อตฺถํ คมนตฺถายฯ ญายสฺส อธิคมายาติ สหวิปสฺสนกสฺส มคฺคสฺส อธิคมนตฺถาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยายาติ อปจฺจยนิพฺพานสฺส ปจฺจกฺขกรณตฺถายฯ ตเทว นาม จกฺขุํ ภวิสฺสตีติ ตญฺเญว ปสาทจกฺขุ อสมฺภินฺนํ ภวิสฺสติฯ เต รูปาติ ตเทว รูปารมฺมณํ อาปาถํ อาคมิสฺสติฯ ตญฺจายตนํ โน ปฏิสํเวทิสฺสตีติ ตญฺจ รูปายตนํ น ชานิสฺสติฯ เสเสสุปิ เอเสว นโยฯ

อุทายีติ กาฬุทายิตฺเถโรฯ สญฺญีเมว นุ โขติ สจิตฺตโกเยว นุ โขฯ มกาโร ปทสนฺธิมตฺตํฯ กิํสญฺญีติ กตรสญฺญาย สญฺญี หุตฺวาฯ