เมนู

อถ โข ภควา คิชฺฌกูฏา ปพฺพตา โอโรหิตฺวา เยน สุมาคธาย ตีเร โมรนิวาโป เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา สุมาคธาย ตีเร โมรนิวาเป อพฺโภกาเส จงฺกมิฯ อทฺทสา โข นิคฺโรโธ ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ สุมาคธาย ตีเร โมรนิวาเป อพฺโภกาเส จงฺกมนฺตํฯ ทิสฺวาน สกํ ปริสํ สณฺฐาเปสิ – ‘‘อปฺปสทฺทา โภนฺโต โหนฺตุ, มา โภนฺโต สทฺทมกตฺถ, อยํ สมโณ โคตโม สุมาคธาย ตีเร โมรนิวาเป อพฺโภกาเส จงฺกมติฯ อปฺปสทฺทกาโม โข ปน โส อายสฺมา, อปฺปสทฺทสฺส วณฺณวาทีฯ อปฺเปว นาม อปฺปสทฺทํ ปริสํ วิทิตฺวา อุปสงฺกมิตพฺพํ มญฺเญยฺยฯ สเจ สมโณ โคตโม อิมํ ปริสํ อาคจฺเฉยฺย, อิมํ ตํ ปญฺหํ ปุจฺเฉยฺยาม – ‘โก นาม โส, ภนฺเต, ภควโต ธมฺโม, เยน ภควา สาวเก วิเนติ, เยน ภควตา สาวกา วินีตา อสฺสาสปฺปตฺตา ปฏิชานนฺติ อชฺฌาสยํ อาทิพฺรหฺมจริย’นฺติ? เอวํ วุตฺเต เต ปริพฺพาชกา ตุณฺหี อเหสุํฯ

ตโปชิคุจฺฉาวาโท

[55] อถ โข ภควา เยน นิคฺโรโธ ปริพฺพาชโก เตนุปสงฺกมิฯ อถ โข นิคฺโรโธ ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เอตุ โข, ภนฺเต, ภควา, สฺวาคตํ, ภนฺเต, ภควโตฯ จิรสฺสํ โข, ภนฺเต, ภควา อิมํ ปริยายมกาสิ ยทิทํ อิธาคมนายฯ นิสีทตุ, ภนฺเต, ภควา, อิทมาสนํ ปญฺญตฺต’’นฺติฯ นิสีทิ ภควา ปญฺญตฺเต อาสเนฯ นิคฺโรโธปิ โข ปริพฺพาชโก อญฺญตรํ นีจาสนํ คเหตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข นิคฺโรธํ ปริพฺพาชกํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘กาย นุตฺถ, นิคฺโรธ, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา, กา จ ปน โว อนฺตรากถา วิปฺปกตา’’ติ? เอวํ วุตฺเต, นิคฺโรโธ ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ เอตทโวจ, ‘‘อิธ มยํ, ภนฺเต, อทฺทสาม ภควนฺตํ สุมาคธาย ตีเร โมรนิวาเป อพฺโภกาเส จงฺกมนฺตํ, ทิสฺวาน เอวํ อโวจุมฺหา – ‘สเจ สมโณ โคตโม อิมํ ปริสํ อาคจฺเฉยฺย, อิมํ ตํ ปญฺหํ ปุจฺเฉยฺยาม – โก นาม โส, ภนฺเต, ภควโต ธมฺโม, เยน ภควา สาวเก วิเนติ, เยน ภควตา สาวกา วินีตา อสฺสาสปฺปตฺตา ปฏิชานนฺติ อชฺฌาสยํ อาทิพฺรหฺมจริย’นฺติ? อยํ โข โน, ภนฺเต, อนฺตรากถา วิปฺปกตา; อถ ภควา อนุปฺปตฺโต’’ติฯ

[56] ‘‘ทุชฺชานํ โข เอตํ, นิคฺโรธ, ตยา อญฺญทิฏฺฐิเกน อญฺญขนฺติเกน อญฺญรุจิเกน อญฺญตฺราโยเคน อญฺญตฺราจริยเกน, เยนาหํ สาวเก วิเนมิ , เยน มยา สาวกา วินีตา อสฺสาสปฺปตฺตา ปฏิชานนฺติ อชฺฌาสยํ อาทิพฺรหฺมจริยํฯ อิงฺฆ ตฺวํ มํ, นิคฺโรธ, สเก อาจริยเก อธิเชคุจฺเฉ ปญฺหํ ปุจฺฉ – ‘กถํ สนฺตา นุ โข, ภนฺเต, ตโปชิคุจฺฉา ปริปุณฺณา โหติ, กถํ อปริปุณฺณา’ติ? เอวํ วุตฺเต เต ปริพฺพาชกา อุนฺนาทิโน อุจฺจาสทฺทมหาสทฺทา อเหสุํ – ‘‘อจฺฉริยํ วต โภ, อพฺภุตํ วต โภ, สมณสฺส โคตมสฺส มหิทฺธิกตา มหานุภาวตา, ยตฺร หิ นาม สกวาทํ ฐเปสฺสติ, ปรวาเทน ปวาเรสฺสตี’’ติฯ

[57] อถ โข นิคฺโรโธ ปริพฺพาชโก เต ปริพฺพาชเก อปฺปสทฺเท กตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘มยํ โข, ภนฺเต, ตโปชิคุจฺฉาวาทา [ตโรชิคุจฺฉํสาโรทา (ก.)] ตโปชิคุจฺฉาสารา ตโปชิคุจฺฉาอลฺลีนา วิหราม ฯ กถํ สนฺตา นุ โข, ภนฺเต, ตโปชิคุจฺฉา ปริปุณฺณา โหติ, กถํ อปริปุณฺณา’’ติ?

‘‘อิธ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี อเจลโก โหติ มุตฺตาจาโร, หตฺถาปเลขโน [หตฺถาวเลขโน (สฺยา.)], น เอหิภทฺทนฺติโก, น ติฏฺฐภทฺทนฺติโก, นาภิหฏํ , น อุทฺทิสฺสกตํ, น นิมนฺตนํ สาทิยติ, โส น กุมฺภิมุขา ปฏิคฺคณฺหาติ, น กโฬปิมุขา ปฏิคฺคณฺหาติ, น เอฬกมนฺตรํ, น ทณฺฑมนฺตรํ, น มุสลมนฺตรํ, น ทฺวินฺนํ ภุญฺชมานานํ, น คพฺภินิยา, น ปายมานาย, น ปุริสนฺตรคตาย, น สงฺกิตฺตีสุ, น ยตฺถ สา อุปฏฺฐิโต โหติ, น ยตฺถ มกฺขิกา สณฺฑสณฺฑจารินี, น มจฺฉํ, น มํสํ, น สุรํ, น เมรยํ, น ถุโสทกํ ปิวติ, โส เอกาคาริโก วา โหติ เอกาโลปิโก, ทฺวาคาริโก วา โหติ ทฺวาโลปิโก, สตฺตาคาริโก วา โหติ สตฺตาโลปิโก, เอกิสฺสาปิ ทตฺติยา ยาเปติ, ทฺวีหิปิ ทตฺตีหิ ยาเปติ, สตฺตหิปิ ทตฺตีหิ ยาเปติ; เอกาหิกมฺปิ อาหารํ อาหาเรติ, ทฺวีหิกมฺปิ [ทฺวาหิกํปิ (สี. สฺยา.)] อาหารํ อาหาเรติ, สตฺตาหิกมฺปิ อาหารํ อาหาเรติ, อิติ เอวรูปํ อทฺธมาสิกมฺปิ ปริยายภตฺตโภชนานุโยคมนุยุตฺโต วิหรติฯ โส สากภกฺโข วา โหติ, สามากภกฺโข วา โหติ, นีวารภกฺโข วา โหติ, ททฺทุลภกฺโข วา โหติ, หฏภกฺโข วา โหติ, กณภกฺโข วา โหติ, อาจามภกฺโข วา โหติ, ปิญฺญากภกฺโข วา โหติ, ติณภกฺโข วา โหติ, โคมยภกฺโข วา โหติ; วนมูลผลาหาโร ยาเปติ ปวตฺตผลโภชีฯ

โส สาณานิปิ ธาเรติ , มสาณานิปิ ธาเรติ, ฉวทุสฺสานิปิ ธาเรติ, ปํสุกูลานิปิ ธาเรติ, ติรีฏานิปิ ธาเรติ, อชินมฺปิ ธาเรติ, อชินกฺขิปมฺปิ ธาเรติ, กุสจีรมฺปิ ธาเรติ, วากจีรมฺปิ ธาเรติ, ผลกจีรมฺปิ ธาเรติ, เกสกมฺพลมฺปิ ธาเรติ, วาฬกมฺพลมฺปิ ธาเรติ, อุลูกปกฺขมฺปิ ธาเรติ, เกสมสฺสุโลจโกปิ โหติ เกสมสฺสุโลจนานุโยคมนุยุตฺโต , อุพฺภฏฺฐโกปิ [อุภฏฺฐโกปิ (สฺยา.), อุพฺภฏฺฐิโกปิ (ก.)] โหติ อาสนปฏิกฺขิตฺโต, อุกฺกุฏิโกปิ โหติ อุกฺกุฏิกปฺปธานมนุยุตฺโต, กณฺฏกาปสฺสยิโกปิ โหติ กณฺฏกาปสฺสเย เสยฺยํ กปฺเปติ, ผลกเสยฺยมฺปิ กปฺเปติ, ถณฺฑิลเสยฺยมฺปิ กปฺเปติ, เอกปสฺสยิโกปิ โหติ รโชชลฺลธโร, อพฺโภกาสิโกปิ โหติ ยถาสนฺถติโก, เวกฏิโกปิ โหติ วิกฏโภชนานุโยคมนุยุตฺโต, อปานโกปิ โหติ อปานกตฺตมนุยุตฺโต, สายตติยกมฺปิ อุทโกโรหนานุโยคมนุยุตฺโต วิหรติฯ ตํ กิํ มญฺญสิ, นิคฺโรธ, ยทิ เอวํ สนฺเต ตโปชิคุจฺฉา ปริปุณฺณา วา โหติ อปริปุณฺณา วา’’ติ? ‘‘อทฺธา โข, ภนฺเต, เอวํ สนฺเต ตโปชิคุจฺฉา ปริปุณฺณา โหติ, โน อปริปุณฺณา’’ติฯ ‘‘เอวํ ปริปุณฺณายปิ โข อหํ, นิคฺโรธ, ตโปชิคุจฺฉาย อเนกวิหิเต อุปกฺกิเลเส วทามี’’ติฯ

อุปกฺกิเลโส

[58] ‘‘ยถา กถํ ปน, ภนฺเต, ภควา เอวํ ปริปุณฺณาย ตโปชิคุจฺฉาย อเนกวิหิเต อุปกฺกิเลเส วทตี’’ติ? ‘‘อิธ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี ตปํ สมาทิยติ, โส เตน ตปสา อตฺตมโน โหติ ปริปุณฺณสงฺกปฺโปฯ ยมฺปิ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี ตปํ สมาทิยติ, โส เตน ตปสา อตฺตมโน โหติ ปริปุณฺณสงฺกปฺโปฯ อยมฺปิ โข, นิคฺโรธ, ตปสฺสิโน อุปกฺกิเลโส โหติฯ

‘‘ปุน จปรํ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี ตปํ สมาทิยติ, โส เตน ตปสา อตฺตานุกฺกํเสติ ปรํ วมฺเภติฯ ยมฺปิ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี ตปํ สมาทิยติ, โส เตน ตปสา อตฺตานุกฺกํเสติ ปรํ วมฺเภติฯ อยมฺปิ โข, นิคฺโรธ, ตปสฺสิโน อุปกฺกิเลโส โหติฯ

‘‘ปุน จปรํ, นิคฺโรธ, ตปสฺสี ตปํ สมาทิยติ, โส เตน ตปสา มชฺชติ มุจฺฉติ ปมาทมาปชฺชติ [มทมาปชฺชติ (สฺยา.)]