เมนู

‘เอวมฺปิ โข มํ ตฺวํ, โมฆปุริส, อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ กโรนฺตํ เอวํ วเทสิ – น หิ ปน เม, ภนฺเต, ภควา อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ กโรตีติฯ ปสฺส, โมฆปุริส, ยาวญฺจ เต อิทํ อปรทฺธํ’ติฯ

‘‘เอวมฺปิ โข, ภคฺคว, สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต มยา วุจฺจมาโน อปกฺกเมว อิมสฺมา ธมฺมวินยา, ยถา ตํ อาปายิโก เนรยิโกฯ

อคฺคญฺญปญฺญตฺติกถา

[36] ‘‘อคฺคญฺญญฺจาหํ, ภคฺคว, ปชานามิฯ ตญฺจ ปชานามิ [‘‘ตญฺจปชานามี’’ติ อิทํ สฺยาโปตฺถเกนตฺถิ], ตโต จ อุตฺตริตรํ ปชานามิ, ตญฺจ ปชานํ [ปชานนํ (สฺยา. ก.) อฏฺฐกถาสํวณฺณนา ปสฺสิตพฺพา] น ปรามสามิ, อปรามสโต จ เม ปจฺจตฺตญฺเญว นิพฺพุติ วิทิตา, ยทภิชานํ ตถาคโต โน อนยํ อาปชฺชติ

[37] ‘‘สนฺติ, ภคฺคว, เอเก สมณพฺราหฺมณา อิสฺสรกุตฺตํ พฺรหฺมกุตฺตํ อาจริยกํ อคฺคญฺญํ ปญฺญเปนฺติฯ ตฺยาหํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วทามิ – ‘สจฺจํ กิร ตุมฺเห อายสฺมนฺโต อิสฺสรกุตฺตํ พฺรหฺมกุตฺตํ อาจริยกํ อคฺคญฺญํ ปญฺญเปถา’ติ? เต จ เม เอวํ ปุฏฺฐา, ‘อาโม’ติ [อามาติ (สฺยา.)] ปฏิชานนฺติฯ ตฺยาหํ เอวํ วทามิ – ‘กถํวิหิตกํ ปน [กถํ วิหิตกํโน ปน (ก.)] ตุมฺเห อายสฺมนฺโต อิสฺสรกุตฺตํ พฺรหฺมกุตฺตํ อาจริยกํ อคฺคญฺญํ ปญฺญเปถา’ติ? เต มยา ปุฏฺฐา น สมฺปายนฺติ, อสมฺปายนฺตา มมญฺเญว ปฏิปุจฺฉนฺติฯ เตสาหํ ปุฏฺโฐ พฺยากโรมิ –

[38] ‘โหติ โข โส, อาวุโส, สมโย ยํ กทาจิ กรหจิ ทีฆสฺส อทฺธุโน อจฺจเยน อยํ โลโก สํวฏฺฏติฯ สํวฏฺฏมาเน โลเก เยภุยฺเยน สตฺตา อาภสฺสรสํวตฺตนิกา โหนฺติฯ เต ตตฺถ โหนฺติ มโนมยา ปีติภกฺขา สยํปภา อนฺตลิกฺขจรา สุภฏฺฐายิโน จิรํ ทีฆมทฺธานํ ติฏฺฐนฺติฯ

‘โหติ โข โส, อาวุโส, สมโย ยํ กทาจิ กรหจิ ทีฆสฺส อทฺธุโน อจฺจเยน อยํ โลโก วิวฏฺฏติฯ วิวฏฺฏมาเน โลเก สุญฺญํ พฺรหฺมวิมานํ ปาตุภวติฯ อถ โข [อถ (สี. สฺยา. ปี.)] อญฺญตโร สตฺโต อายุกฺขยา วา ปุญฺญกฺขยา วา อาภสฺสรกายา จวิตฺวา สุญฺญํ พฺรหฺมวิมานํ อุปปชฺชติ

โส ตตฺถ โหติ มโนมโย ปีติภกฺโข สยํปโภ อนฺตลิกฺขจโร สุภฏฺฐายี, จิรํ ทีฆมทฺธานํ ติฏฺฐติฯ

‘ตสฺส ตตฺถ เอกกสฺส ทีฆรตฺตํ นิวุสิตตฺตา อนภิรติ ปริตสฺสนา อุปฺปชฺชติ – อโห วต อญฺเญปิ สตฺตา อิตฺถตฺตํ อาคจฺเฉยฺยุนฺติฯ อถ อญฺเญปิ สตฺตา อายุกฺขยา วา ปุญฺญกฺขยา วา อาภสฺสรกายา จวิตฺวา พฺรหฺมวิมานํ อุปปชฺชนฺติ ตสฺส สตฺตสฺส สหพฺยตํฯ เตปิ ตตฺถ โหนฺติ มโนมยา ปีติภกฺขา สยํปภา อนฺตลิกฺขจรา สุภฏฺฐายิโน, จิรํ ทีฆมทฺธานํ ติฏฺฐนฺติฯ

[39] ‘ตตฺราวุโส, โย โส สตฺโต ปฐมํ อุปปนฺโน, ตสฺส เอวํ โหติ – อหมสฺมิ พฺรหฺมา มหาพฺรหฺมา อภิภู อนภิภูโต อญฺญทตฺถุทโส วสวตฺตี อิสฺสโร กตฺตา นิมฺมาตา เสฏฺโฐ สชิตา [สญฺชิตา (สี. ปี.), สชฺชิตา (สฺยา. กํ.)] วสี ปิตา ภูตภพฺยานํ, มยา อิเม สตฺตา นิมฺมิตาฯ ตํ กิสฺส เหตุ? มมญฺหิ ปุพฺเพ เอตทโหสิ – อโห วต อญฺเญปิ สตฺตา อิตฺถตฺตํ อาคจฺเฉยฺยุนฺติ; อิติ มม จ มโนปณิธิฯ อิเม จ สตฺตา อิตฺถตฺตํ อาคตาติฯ

‘เยปิ เต สตฺตา ปจฺฉา อุปปนฺนา, เตสมฺปิ เอวํ โหติ – อยํ โข ภวํ พฺรหฺมา มหาพฺรหฺมา อภิภู อนภิภูโต อญฺญทตฺถุทโส วสวตฺตี อิสฺสโร กตฺตา นิมฺมาตา เสฏฺโฐ สชิตา วสี ปิตา ภูตภพฺยานํ; อิมินา มยํ โภตา พฺรหฺมุนา นิมฺมิตาฯ ตํ กิสฺส เหตุ? อิมญฺหิ มยํ อทฺทสาม อิธ ปฐมํ อุปปนฺนํ; มยํ ปนามฺห ปจฺฉา อุปปนฺนาติฯ

[40] ‘ตตฺราวุโส , โย โส สตฺโต ปฐมํ อุปปนฺโน, โส ทีฆายุกตโร จ โหติ วณฺณวนฺตตโร จ มเหสกฺขตโร จฯ เย ปน เต สตฺตา ปจฺฉา อุปปนฺนา, เต อปฺปายุกตรา จ โหนฺติ ทุพฺพณฺณตรา จ อปฺเปสกฺขตรา จฯ

‘ฐานํ โข ปเนตํ, อาวุโส, วิชฺชติ, ยํ อญฺญตโร สตฺโต ตมฺหา กายา จวิตฺวา อิตฺถตฺตํ อาคจฺฉติฯ อิตฺถตฺตํ อาคโต สมาโน อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติฯ

อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต สมาโน อาตปฺปมนฺวาย ปธานมนฺวาย อนุโยคมนฺวาย อปฺปมาทมนฺวาย สมฺมามนสิการมนฺวาย ตถารูปํ เจโตสมาธิํ ผุสติ, ยถาสมาหิเต จิตฺเต ตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ; ตโต ปรํ นานุสฺสรติฯ

‘โส เอวมาห – โย โข โส ภวํ พฺรหฺมา มหาพฺรหฺมา อภิภู อนภิภูโต อญฺญทตฺถุทโส วสวตฺตี อิสฺสโร กตฺตา นิมฺมาตา เสฏฺโฐ สชิตา วสี ปิตา ภูตภพฺยานํ, เยน มยํ โภตา พฺรหฺมุนา นิมฺมิตาฯ โส นิจฺโจ ธุโว [สสฺสโต ทีฆายุโก (สฺยา. ก.)] สสฺสโต อวิปริณามธมฺโม สสฺสติสมํ ตเถว ฐสฺสติฯ เย ปน มยํ อหุมฺหา เตน โภตา พฺรหฺมุนา นิมฺมิตา, เต มยํ อนิจฺจา อทฺธุวา [อทฺธุวา อสสฺสตา (สฺยา. ก.)] อปฺปายุกา จวนธมฺมา อิตฺถตฺตํ อาคตา’ติฯ เอวํวิหิตกํ โน ตุมฺเห อายสฺมนฺโต อิสฺสรกุตฺตํ พฺรหฺมกุตฺตํ อาจริยกํ อคฺคญฺญํ ปญฺญเปถาติฯ ‘เต เอวมาหํสุ – เอวํ โข โน, อาวุโส โคตม, สุตํ, ยเถวายสฺมา โคตโม อาหา’ติฯ ‘‘อคฺคญฺญญฺจาหํ, ภคฺคว, ปชานามิฯ ตญฺจ ปชานามิ, ตโต จ อุตฺตริตรํ ปชานามิ, ตญฺจ ปชานํ น ปรามสามิ, อปรามสโต จ เม ปจฺจตฺตญฺเญว นิพฺพุติ วิทิตาฯ ยทภิชานํ ตถาคโต โน อนยํ อาปชฺชติฯ

[41] ‘‘สนฺติ, ภคฺคว, เอเก สมณพฺราหฺมณา ขิฑฺฑาปโทสิกํ อาจริยกํ อคฺคญฺญํ ปญฺญเปนฺติฯ ตฺยาหํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วทามิ – ‘สจฺจํ กิร ตุมฺเห อายสฺมนฺโต ขิฑฺฑาปโทสิกํ อาจริยกํ อคฺคญฺญํ ปญฺญเปถา’ติ? เต จ เม เอวํ ปุฏฺฐา ‘อาโม’ติ ปฏิชานนฺติฯ ตฺยาหํ เอวํ วทามิ – ‘กถํวิหิตกํ ปน ตุมฺเห อายสฺมนฺโต ขิฑฺฑาปโทสิกํ อาจริยกํ อคฺคญฺญํ ปญฺญเปถา’ติ? เต มยา ปุฏฺฐา น สมฺปายนฺติ, อสมฺปายนฺตา มมญฺเญว ปฏิปุจฺฉนฺติ, เตสาหํ ปุฏฺโฐ พฺยากโรมิ

[42] ‘สนฺตาวุโส, ขิฑฺฑาปโทสิกา นาม เทวาฯ เต อติเวลํ หสฺสขิฑฺฑารติธมฺมสมาปนฺนา [หสขิฑฺฑารติธมฺมสมาปนฺนา (ก.)] วิหรนฺติฯ เตสํ อติเวลํ หสฺสขิฑฺฑารติธมฺมสมาปนฺนานํ วิหรตํ สติ สมฺมุสฺสติ, สติยา สมฺโมสา [สติยา สมฺโมสาย (สฺยา.)] เต เทวา ตมฺหา กายา จวนฺติฯ

‘ฐานํ โข ปเนตํ, อาวุโส, วิชฺชติ, ยํ อญฺญตโร สตฺโต ตมฺหา กายา จวิตฺวา อิตฺถตฺตํ อาคจฺฉติ, อิตฺถตฺตํ อาคโต สมาโน อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ, อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต สมาโน อาตปฺปมนฺวาย ปธานมนฺวาย อนุโยคมนฺวาย อปฺปมาทมนฺวาย สมฺมามนสิการมนฺวาย ตถารูปํ เจโตสมาธิํ ผุสติ, ยถาสมาหิเต จิตฺเต ตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ; ตโต ปรํ นานุสฺสรติฯ

‘โส เอวมาห – เย โข เต โภนฺโต เทวา น ขิฑฺฑาปโทสิกา เต น อติเวลํ หสฺสขิฑฺฑารติธมฺมสมาปนฺนา วิหรนฺติฯ เตสํ นาติเวลํ หสฺสขิฑฺฑารติธมฺมสมาปนฺนานํ วิหรตํ สติ น สมฺมุสฺสติ, สติยา อสมฺโมสา เต เทวา ตมฺหา กายา น จวนฺติ, นิจฺจา ธุวา สสฺสตา อวิปริณามธมฺมา สสฺสติสมํ ตเถว ฐสฺสนฺติฯ เย ปน มยํ อหุมฺหา ขิฑฺฑาปโทสิกา เต มยํ อติเวลํ หสฺสขิฑฺฑารติธมฺมสมาปนฺนา วิหริมฺหา, เตสํ โน อติเวลํ หสฺสขิฑฺฑารติธมฺมสมาปนฺนานํ วิหรตํ สติ สมฺมุสฺสติ, สติยา สมฺโมสา เอวํ [สมฺโมสา เอว (สี. ปี.) สมฺโมสา เต (สฺยา. ก.)] มยํ ตมฺหา กายา จุตา, อนิจฺจา อทฺธุวา อปฺปายุกา จวนธมฺมา อิตฺถตฺตํ อาคตาติฯ เอวํวิหิตกํ โน ตุมฺเห อายสฺมนฺโต ขิฑฺฑาปโทสิกํ อาจริยกํ อคฺคญฺญํ ปญฺญเปถา’ติฯ ‘เต เอวมาหํสุ – เอวํ โข โน, อาวุโส โคตม, สุตํ, ยเถวายสฺมา โคตโม อาหา’ติฯ ‘‘อคฺคญฺญญฺจาหํ, ภคฺคว, ปชานามิ…เป.… ยทภิชานํ ตถาคโต โน อนยํ อาปชฺชติฯ

[43] ‘‘สนฺติ, ภคฺคว, เอเก สมณพฺราหฺมณา มโนปโทสิกํ อาจริยกํ อคฺคญฺญํ ปญฺญเปนฺติฯ ตฺยาหํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วทามิ – ‘สจฺจํ กิร ตุมฺเห อายสฺมนฺโต มโนปโทสิกํ อาจริยกํ อคฺคญฺญํ ปญฺญเปถา’ติ? เต จ เม เอวํ ปุฏฺฐา ‘อาโม’ติ ปฏิชานนฺติฯ ตฺยาหํ เอวํ วทามิ – ‘กถํวิหิตกํ ปน ตุมฺเห อายสฺมนฺโต มโนปโทสิกํ อาจริยกํ อคฺคญฺญํ ปญฺญเปถา’ติ? เต มยา ปุฏฺฐา น สมฺปายนฺติ, อสมฺปายนฺตา มมญฺเญว ปฏิปุจฺฉนฺติฯ เตสาหํ ปุฏฺโฐ พฺยากโรมิ –

[44] ‘สนฺตาวุโส, มโนปโทสิกา นาม เทวาฯ เต อติเวลํ อญฺญมญฺญํ อุปนิชฺฌายนฺติฯ

เต อติเวลํ อญฺญมญฺญํ อุปนิชฺฌายนฺตา อญฺญมญฺญมฺหิ จิตฺตานิ ปทูเสนฺติฯ เต อญฺญมญฺญํ ปทุฏฺฐจิตฺตา กิลนฺตกายา กิลนฺตจิตฺตาฯ เต เทวา ตมฺหา กายา จวนฺติฯ

‘ฐานํ โข ปเนตํ, อาวุโส, วิชฺชติ, ยํ อญฺญตโร สตฺโต ตมฺหา กายา จวิตฺวา อิตฺถตฺตํ อาคจฺฉติฯ อิตฺถตฺตํ อาคโต สมาโน อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติฯ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต สมาโน อาตปฺปมนฺวาย ปธานมนฺวาย อนุโยคมนฺวาย อปฺปมาทมนฺวาย สมฺมามนสิการมนฺวาย ตถารูปํ เจโตสมาธิํ ผุสติ, ยถาสมาหิเต จิตฺเต ตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, ตโต ปรํ นานุสฺสรติฯ

‘โส เอวมาห – เย โข เต โภนฺโต เทวา น มโนปโทสิกา เต นาติเวลํ อญฺญมญฺญํ อุปนิชฺฌายนฺติฯ เต นาติเวลํ อญฺญมญฺญํ อุปนิชฺฌายนฺตา อญฺญมญฺญมฺหิ จิตฺตานิ นปฺปทูเสนฺติฯ เต อญฺญมญฺญํ อปฺปทุฏฺฐจิตฺตา อกิลนฺตกายา อกิลนฺตจิตฺตาฯ เต เทวา ตมฺหา [อกิลนฺตจิตฺตา ตมฺหา (ก.)] กายา น จวนฺติ, นิจฺจา ธุวา สสฺสตา อวิปริณามธมฺมา สสฺสติสมํ ตเถว ฐสฺสนฺติฯ เย ปน มยํ อหุมฺหา มโนปโทสิกา, เต มยํ อติเวลํ อญฺญมญฺญํ อุปนิชฺฌายิมฺหาฯ เต มยํ อติเวลํ อญฺญมญฺญํ อุปนิชฺฌายนฺตา อญฺญมญฺญมฺหิ จิตฺตานิ ปทูสิมฺหา [ปโทสิยิมฺหา (สฺยา.), ปทูสยิมฺหา (?)]ฯ เต มยํ อญฺญมญฺญํ ปทุฏฺฐจิตฺตา กิลนฺตกายา กิลนฺตจิตฺตาฯ เอวํ มยํ [กิลนฺตจิตฺตาเอว มยํ (สี. ปี.), กิลนฺตจิตฺตา (ก.)] ตมฺหา กายา จุตา, อนิจฺจา อทฺธุวา อปฺปายุกา จวนธมฺมา อิตฺถตฺตํ อาคตาติฯ เอวํวิหิตกํ โน ตุมฺเห อายสฺมนฺโต มโนปโทสิกํ อาจริยกํ อคฺคญฺญํ ปญฺญเปถา’ติฯ ‘เต เอวมาหํสุ – เอวํ โข โน, อาวุโส โคตม, สุตํ, ยเถวายสฺมา โคตโม อาหา’ติฯ ‘‘อคฺคญฺญญฺจาหํ, ภคฺคว, ปชานามิ…เป.… ยทภิชานํ ตถาคโต โน อนยํ อาปชฺชติฯ

[45] ‘‘สนฺติ, ภคฺคว, เอเก สมณพฺราหฺมณา อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ อาจริยกํ อคฺคญฺญํ ปญฺญเปนฺติฯ ตฺยาหํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วทามิ – ‘สจฺจํ กิร ตุมฺเห อายสฺมนฺโต อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ อาจริยกํ อคฺคญฺญํ ปญฺญเปถา’ติ? เต จ เม เอวํ ปุฏฺฐา ‘อาโม’ติ ปฏิชานนฺติฯ

ตฺยาหํ เอวํ วทามิ – ‘กถํวิหิตกํ ปน ตุมฺเห อายสฺมนฺโต อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ อาจริยกํ อคฺคญฺญํ ปญฺญเปถา’ติ? เต มยา ปุฏฺฐา น สมฺปายนฺติ, อสมฺปายนฺตา มมญฺเญว ปฏิปุจฺฉนฺติฯ เตสาหํ ปุฏฺโฐ พฺยากโรมิ –

[46] ‘สนฺตาวุโส, อสญฺญสตฺตา นาม เทวาฯ สญฺญุปฺปาทา จ ปน เต เทวา ตมฺหา กายา จวนฺติฯ

‘ฐานํ โข ปเนตํ, อาวุโส, วิชฺชติฯ ยํ อญฺญตโร สตฺโต ตมฺหา กายา จวิตฺวา อิตฺถตฺตํ อาคจฺฉติฯ อิตฺถตฺตํ อาคโต สมาโน อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติฯ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต สมาโน อาตปฺปมนฺวาย ปธานมนฺวาย อนุโยคมนฺวาย อปฺปมาทมนฺวาย สมฺมามนสิการมนฺวาย ตถารูปํ เจโตสมาธิํ ผุสติ, ยถาสมาหิเต จิตฺเต ตํ [อิทํ ปทํ พฺรหฺมชาลสุตฺเต น ทิสฺสติฯ เอวํ (ปี. ก.)] สญฺญุปฺปาทํ อนุสฺสรติ, ตโต ปรํ นานุสฺสรติฯ

‘โส เอวมาห – อธิจฺจสมุปฺปนฺโน อตฺตา จ โลโก จฯ ตํ กิสฺส เหตุ? อหญฺหิ ปุพฺเพ นาโหสิํ, โสมฺหิ เอตรหิ อหุตฺวา สนฺตตาย [สตฺตกาย (สี. ปี.), สตฺตาย (ก. สี.)] ปริณโตติฯ เอวํวิหิตกํ โน ตุมฺเห อายสฺมนฺโต อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ อาจริยกํ อคฺคญฺญํ ปญฺญเปถา’ติ? ‘เต เอวมาหํสุ – เอวํ โข โน, อาวุโส โคตม, สุตํ ยเถวายสฺมา โคตโม อาหา’ติฯ ‘‘อคฺคญฺญญฺจาหํ, ภคฺคว, ปชานามิ ตญฺจ ปชานามิ, ตโต จ อุตฺตริตรํ ปชานามิ, ตญฺจ ปชานํ น ปรามสามิ, อปรามสโต จ เม ปจฺจตฺตญฺเญว นิพฺพุติ วิทิตาฯ ยทภิชานํ ตถาคโต โน อนยํ อาปชฺชติฯ

[47] ‘‘เอวํวาทิํ โข มํ, ภคฺคว, เอวมกฺขายิํ เอเก สมณพฺราหฺมณา อสตา ตุจฺฉา มุสา อภูเตน อพฺภาจิกฺขนฺติ – ‘วิปรีโต สมโณ โคตโม ภิกฺขโว จฯ สมโณ โคตโม เอวมาห – ยสฺมิํ สมเย สุภํ วิโมกฺขํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, สพฺพํ ตสฺมิํ สมเย อสุภนฺเตฺวว [อสุภนฺเตว (สี. สฺยา. ปี.)] ปชานาตี’ติ [สญฺชานาตีติ (สี. ปี.)]ฯ น โข ปนาหํ, ภคฺคว, เอวํ วทามิ – ‘ยสฺมิํ สมเย สุภํ วิโมกฺขํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, สพฺพํ ตสฺมิํ สมเย อสุภนฺเตฺวว ปชานาตี’ติฯ เอวญฺจ ขฺวาหํ, ภคฺคว, วทามิ – ‘ยสฺมิํ สมเย สุภํ วิโมกฺขํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, สุภนฺเตฺวว ตสฺมิํ สมเย ปชานาตี’ติฯ

‘‘เต จ, ภนฺเต, วิปรีตา, เย ภควนฺตํ วิปรีตโต ทหนฺติ ภิกฺขโว จฯ เอวํปสนฺโน อหํ, ภนฺเต, ภควติฯ ปโหติ เม ภควา ตถา ธมฺมํ เทเสตุํ, ยถา อหํ สุภํ วิโมกฺขํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย’’นฺติฯ

[48] ‘‘ทุกฺกรํ โข เอตํ, ภคฺคว, ตยา อญฺญทิฏฺฐิเกน อญฺญขนฺติเกน อญฺญรุจิเกน อญฺญตฺราโยเคน อญฺญตฺราจริยเกน สุภํ วิโมกฺขํ อุปสมฺปชฺช วิหริตุํฯ อิงฺฆ ตฺวํ, ภคฺคว, โย จ เต อยํ มยิ ปสาโท, ตเมว ตฺวํ สาธุกมนุรกฺขา’’ติฯ ‘‘สเจ ตํ, ภนฺเต, มยา ทุกฺกรํ อญฺญทิฏฺฐิเกน อญฺญขนฺติเกน อญฺญรุจิเกน อญฺญตฺราโยเคน อญฺญตฺราจริยเกน สุภํ วิโมกฺขํ อุปสมฺปชฺช วิหริตุํฯ โย จ เม อยํ, ภนฺเต, ภควติ ปสาโท, ตเมวาหํ สาธุกมนุรกฺขิสฺสามี’’ติฯ อิทมโวจ ภควาฯ อตฺตมโน ภคฺควโคตฺโต ปริพฺพาชโก ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทีติฯ

ปาถิกสุตฺตํ [ปาฏิกสุตฺตนฺตํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] นิฏฺฐิตํ ปฐมํฯ

2. อุทุมฺพริกสุตฺตํ

นิคฺโรธปริพฺพาชกวตฺถุ

[49] เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเตฯ เตน โข ปน สมเยน นิคฺโรโธ ปริพฺพาชโก อุทุมฺพริกาย ปริพฺพาชการาเม ปฏิวสติ มหติยา ปริพฺพาชกปริสาย สทฺธิํ ติํสมตฺเตหิ ปริพฺพาชกสเตหิฯ อถ โข สนฺธาโน คหปติ ทิวา ทิวสฺส [ทิวาทิวสฺเสว (สี. สฺยา. ปี.)] ราชคหา นิกฺขมิ ภควนฺตํ ทสฺสนายฯ อถ โข สนฺธานสฺส คหปติสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อกาโล โข ภควนฺตํ ทสฺสนายฯ ปฏิสลฺลีโน ภควาฯ มโนภาวนียานมฺปิ ภิกฺขูนํ อสมโย ทสฺสนายฯ ปฏิสลฺลีนา มโนภาวนียา ภิกฺขูฯ ยํนูนาหํ เยน อุทุมฺพริกาย ปริพฺพาชการาโม, เยน นิคฺโรโธ ปริพฺพาชโก เตนุปสงฺกเมยฺย’’นฺติฯ อถ โข สนฺธาโน คหปติ เยน อุทุมฺพริกาย ปริพฺพาชการาโม, เตนุปสงฺกมิฯ

[50] เตน โข ปน สมเยน นิคฺโรโธ ปริพฺพาชโก มหติยา ปริพฺพาชกปริสาย สทฺธิํ นิสินฺโน โหติ อุนฺนาทินิยา อุจฺจาสทฺทมหาสทฺทาย อเนกวิหิตํ ติรจฺฉานกถํ กเถนฺติยาฯ เสยฺยถิทํ – ราชกถํ โจรกถํ มหามตฺตกถํ เสนากถํ ภยกถํ ยุทฺธกถํ อนฺนกถํ ปานกถํ วตฺถกถํ สยนกถํ มาลากถํ คนฺธกถํ ญาติกถํ ยานกถํ คามกถํ นิคมกถํ นครกถํ ชนปทกถํ อิตฺถิกถํ สูรกถํ วิสิขากถํ กุมฺภฏฺฐานกถํ ปุพฺพเปตกถํ นานตฺตกถํ โลกกฺขายิกํ สมุทฺทกฺขายิกํ อิติภวาภวกถํ อิติ วาฯ

[51] อทฺทสา โข นิคฺโรโธ ปริพฺพาชโก สนฺธานํ คหปติํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํฯ ทิสฺวา สกํ ปริสํ สณฺฐาเปสิ – ‘‘อปฺปสทฺทา โภนฺโต โหนฺตุ, มา โภนฺโต สทฺทมกตฺถฯ อยํ สมณสฺส โคตมสฺส สาวโก อาคจฺฉติ สนฺธาโน คหปติฯ ยาวตา โข ปน สมณสฺส โคตมสฺส สาวกา คิหี โอทาตวสนา ราชคเห ปฏิวสนฺติ, อยํ เตสํ อญฺญตโร สนฺธาโน คหปติฯ