8. สิงฺคาลสุตฺตํ
[242] เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเปฯ เตน โข ปน สมเยน สิงฺคาลโก [สิคาลโก (สี.)] คหปติปุตฺโต กาลสฺเสว อุฏฺฐาย ราชคหา นิกฺขมิตฺวา อลฺลวตฺโถ อลฺลเกโส ปญฺชลิโก ปุถุทิสา [ปุถุทฺทิสา (สี. สฺยา. ปี.)] นมสฺสติ – ปุรตฺถิมํ ทิสํ ทกฺขิณํ ทิสํ ปจฺฉิมํ ทิสํ อุตฺตรํ ทิสํ เหฏฺฐิมํ ทิสํ อุปริมํ ทิสํฯ
[243] อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย ราชคหํ ปิณฺฑาย ปาวิสิฯ อทฺทสา โข ภควา สิงฺคาลกํ คหปติปุตฺตํ กาลสฺเสว วุฏฺฐาย ราชคหา นิกฺขมิตฺวา อลฺลวตฺถํ อลฺลเกสํ ปญฺชลิกํ ปุถุทิสา นมสฺสนฺตํ – ปุรตฺถิมํ ทิสํ ทกฺขิณํ ทิสํ ปจฺฉิมํ ทิสํ อุตฺตรํ ทิสํ เหฏฺฐิมํ ทิสํ อุปริมํ ทิสํฯ ทิสฺวา สิงฺคาลกํ คหปติปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กิํ นุ โข ตฺวํ, คหปติปุตฺต, กาลสฺเสว อุฏฺฐาย ราชคหา นิกฺขมิตฺวา อลฺลวตฺโถ อลฺลเกโส ปญฺชลิโก ปุถุทิสา นมสฺสสิ – ปุรตฺถิมํ ทิสํ ทกฺขิณํ ทิสํ ปจฺฉิมํ ทิสํ อุตฺตรํ ทิสํ เหฏฺฐิมํ ทิสํ อุปริมํ ทิส’’นฺติ? ‘‘ปิตา มํ, ภนฺเต, กาลํ กโรนฺโต เอวํ อวจ – ‘ทิสา, ตาต, นมสฺเสยฺยาสี’ติฯ โส โข อหํ, ภนฺเต, ปิตุวจนํ สกฺกโรนฺโต ครุํ กโรนฺโต มาเนนฺโต ปูเชนฺโต กาลสฺเสว อุฏฺฐาย ราชคหา นิกฺขมิตฺวา อลฺลวตฺโถ อลฺลเกโส ปญฺชลิโก ปุถุทิสา นมสฺสามิ – ปุรตฺถิมํ ทิสํ ทกฺขิณํ ทิสํ ปจฺฉิมํ ทิสํ อุตฺตรํ ทิสํ เหฏฺฐิมํ ทิสํ อุปริมํ ทิส’’นฺติฯ
ฉ ทิสา
[244] ‘‘น โข, คหปติปุตฺต, อริยสฺส วินเย เอวํ ฉ ทิสา [ฉทฺทิสา (สี. ปี.)] นมสฺสิตพฺพา’’ติฯ ‘‘ยถา กถํ ปน, ภนฺเต, อริยสฺส วินเย ฉ ทิสา [ฉทฺทิสา (สี. ปี.)] นมสฺสิตพฺพา? สาธุ เม, ภนฺเต, ภควา ตถา ธมฺมํ เทเสตุ, ยถา อริยสฺส วินเย ฉ ทิสา [ฉทฺทิสา (สี. ปี.)] นมสฺสิตพฺพา’’ติฯ
‘‘เตน หิ, คหปติปุตฺต สุโณหิ สาธุกํ มนสิกโรหิ ภาสิสฺสามี’’ติฯ ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข สิงฺคาลโก คหปติปุตฺโต ภควโต ปจฺจสฺโสสิฯ ภควา เอตทโวจ –
‘‘ยโต โข, คหปติปุตฺต, อริยสาวกสฺส จตฺตาโร กมฺมกิเลสา ปหีนา โหนฺติ, จตูหิ จ ฐาเนหิ ปาปกมฺมํ น กโรติ, ฉ จ โภคานํ อปายมุขานิ น เสวติ, โส เอวํ จุทฺทส ปาปกาปคโต ฉทฺทิสาปฏิจฺฉาที [ปฏิจฺฉาที โหติ (สฺยา.)] อุโภโลกวิชยาย ปฏิปนฺโน โหติฯ ตสฺส อยญฺเจว โลโก อารทฺโธ โหติ ปโร จ โลโกฯ โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติฯ
จตฺตาโรกมฺมกิเลสา
[245] ‘‘กตมสฺส จตฺตาโร กมฺมกิเลสา ปหีนา โหนฺติ? ปาณาติปาโต โข, คหปติปุตฺต, กมฺมกิเลโส, อทินฺนาทานํ กมฺมกิเลโส, กาเมสุมิจฺฉาจาโร กมฺมกิเลโส, มุสาวาโท กมฺมกิเลโสฯ อิมสฺส จตฺตาโร กมฺมกิเลสา ปหีนา โหนฺตี’’ติฯ อิทมโวจ ภควา, อิทํ วตฺวาน [อิทํ วตฺวา (สี. ปี.) เอวมีทิเสสุ ฐาเนสุ] สุคโต อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –
‘‘ปาณาติปาโต อทินฺนาทานํ, มุสาวาโท จ วุจฺจติ;
ปรทารคมนญฺเจว, นปฺปสํสนฺติ ปณฺฑิตา’’ติฯ
จตุฏฺฐานํ
[246] ‘‘กตเมหิ จตูหิ ฐาเนหิ ปาปกมฺมํ น กโรติ? ฉนฺทาคติํ คจฺฉนฺโต ปาปกมฺมํ กโรติ, โทสาคติํ คจฺฉนฺโต ปาปกมฺมํ กโรติ, โมหาคติํ คจฺฉนฺโต ปาปกมฺมํ กโรติ, ภยาคติํ คจฺฉนฺโต ปาปกมฺมํ กโรติฯ ยโต โข, คหปติปุตฺต, อริยสาวโก เนว ฉนฺทาคติํ คจฺฉติ, น โทสาคติํ คจฺฉติ, น โมหาคติํ คจฺฉติ, น ภยาคติํ คจฺฉติ; อิเมหิ จตูหิ ฐาเนหิ ปาปกมฺมํ น กโรตี’’ติฯ อิทมโวจ ภควา, อิทํ วตฺวาน สุคโต อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –
‘‘ฉนฺทา โทสา ภยา โมหา, โย ธมฺมํ อติวตฺตติ;
นิหียติ ยโส ตสฺส [ตสฺส เยโส (พหูสุ, วินเยปิ)], กาฬปกฺเขว จนฺทิมาฯ
‘‘ฉนฺทา โทสา ภยา โมหา, โย ธมฺมํ นาติวตฺตติ;
อาปูรติ ยโส ตสฺส [ตสฺส เยโส (พหูสุ, วินเยปิ)], สุกฺกปกฺเขว [ชุณฺหปกฺเขว (ก.)] จนฺทิมา’’ติฯ