เมนู

8. ทุติยตถาคตอจฺฉริยสุตฺตวณฺณนา

[128] อฏฺฐเม ตณฺหาทิฏฺฐีหิ อลฺลียิตพฺพฏฺเฐน อาลโยติ ปญฺจ กามคุณา, สกลเมว วา วฏฺฏํฯ อารมนฺติ เอตฺถาติ อาราโม, อาลโย อาราโม เอติสฺสาติ อาลยารามาฯ อาลเย รตาติ อาลยรตา ฯ อาลเย สมฺมุทิตาติ อาลยสมฺมุทิตาฯ อนาลเย ธมฺเมติ อาลยปฏิปกฺเข วิวฏฺฏูปนิสฺสิเต อริยธมฺเมฯ สุสฺสูสตีติ โสตุกาโม โหติฯ โสตํ โอทหตีติ โสตํ ฐเปติฯ อญฺญา จิตฺตํ อุปฏฺฐเปตีติ อาชานนตฺถาย จิตฺตํ ปจฺจุปฏฺฐเปติฯ มาโนติ มญฺญนา, มญฺญิตพฺพฏฺเฐน วา สกลํ วฏฺฏเมวฯ มานวินเย ธมฺเมติ มานวินยธมฺเมฯ อุปสมปฏิปกฺโข อนุปสโม, อนุปสนฺตฏฺเฐน วา วฏฺฏเมว อนุปสโม นามฯ โอปสมิเกติ อุปสมกเร วิวฏฺฏูปนิสฺสิเตฯ อวิชฺชาย คตา สมนฺนาคตาติ อวิชฺชาคตาฯ อวิชฺชณฺฑโกเสน ปริโยนทฺธตฺตา อณฺฑํ วิย ภูตาติ อณฺฑภูตาฯ สมนฺตโต โอนทฺธาติ ปริโยนทฺธาฯ อวิชฺชาวินเยติ อวิชฺชาวินโย วุจฺจติ อรหตฺตํ, ตํนิสฺสิเต ธมฺเม เทสิยมาเนติ อตฺโถฯ อิติ อิมสฺมิํ สุตฺเต จตูสุ ฐาเนสุ วฏฺฏํ, จตูสุ วิวฏฺฏํ กถิตํฯ

9. อานนฺทอจฺฉริยสุตฺตวณฺณนา

[129] นวเม ภิกฺขุปริสา อานนฺทํ ทสฺสนายาติ เย ภควนฺตํ ปสฺสิตุกามา เถรํ อุปสงฺกมนฺติ, เย วา ‘‘อายสฺมา กิรานนฺโท สมนฺตปาสาทิโก อภิรูโป ทสฺสนีโย พหุสฺสุโต สงฺฆโสภโน’’ติ เถรสฺส คุเณ สุตฺวา อาคจฺฉนฺติ, เต สนฺธาย ‘‘ภิกฺขุปริสา อานนฺทํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมตี’’ติ วุตฺตํฯ เอส นโย สพฺพตฺถฯ อตฺตมนาติ ‘‘สวเนน โน ทสฺสนํ สเมตี’’ติ สกมนา ตุฏฺฐจิตฺตาฯ ธมฺมนฺติ ‘‘กจฺจิ, อาวุโส, ขมนียํ, กจฺจิ ยาปนียํ, กจฺจิ โยนิโสมนสิการกมฺมํ กโรถ, อาจริยุปชฺฌายวตฺตํ ปูเรถา’’ติ เอวรูปํ ปฏิสนฺถารธมฺมํฯ ตตฺถ ภิกฺขุนีสุ ‘‘กจฺจิ, ภคินิโย, อฏฺฐ ครุธมฺเม สมาทาย วตฺตถา’’ติ อิทมฺปิ นานากรณํ โหติฯ อุปาสเกสุ ‘‘สฺวาคตํ, อุปาสก, น เต กิญฺจิ สีสํ วา องฺคํ วา รุชฺชติ, อโรคา เต ปุตฺตภาตโร’’ติ น เอวํ ปฏิสนฺถารํ กโรติ, เอวํ ปน กโรติ – ‘‘กถํ, อุปาสกา, ตีณิ สรณานิ ปญฺจ สีลานิ รกฺขถ, มาสสฺส อฏฺฐ อุโปสเถ กโรถ, มาตาปิตูนํ อุปฏฺฐานวตฺตํ ปูเรถ, ธมฺมิกสมณพฺราหฺมเณ ปฏิชคฺคถา’’ติฯ อุปาสิกาสุปิ เอเสว นโยฯ

10. จกฺกวตฺติอจฺฉริยสุตฺตวณฺณนา

[130] ทสเม ขตฺติยปริสาติ อภิสิตฺตา อนภิสิตฺตา จ ขตฺติยา ฯ เต หิ กิร ‘‘ราชา จกฺกวตฺตี นาม อภิรูโป ปาสาทิโก โหติ, อากาเสน วิจรนฺโต รชฺชํ อนุสาสติ, ธมฺมิโก ธมฺมราชา’’ติ ตสฺส คุณกถํ สุตฺวา สวเนน ทสฺสนมฺหิ สเมนฺเต อตฺตมนา โหนฺติฯ ภาสตีติ ‘‘กถํ, ตาตา, ราชธมฺมํ ปูเรถ, ปเวณิํ รกฺขถา’’ติ ปฏิสนฺถารํ กโรติฯ พฺราหฺมเณสุ ปน ‘‘กถญฺจ, อาจริยา, มนฺเต วาเจถ, อนฺเตวาสิกา มนฺเต คณฺหนฺติ, ทกฺขิณํ วา วตฺถานิ วา สีลํ วา ลภถา’’ติ เอวํ ปฏิสนฺถารํ กโรติฯ คหปตีสุ ‘‘กถํ, ตาตา, น โว ราชกุลโต ทณฺเฑน วา พนฺธเนน วา ปีฬา อตฺถิ, สมฺมา เทโว ธารํ อนุปฺปเวจฺฉติ, สสฺสานิ สมฺปชฺชนฺตี’’ติ เอวํ ปฏิสนฺถารํ กโรติฯ สมเณสุ ‘‘กถํ, ภนฺเต, กจฺจิ ปพฺพชิตปริกฺขารา สุลภา, สมณธมฺเม นปฺปมชฺชถา’’ติ เอวํ ปฏิสนฺถารํ กโรตีติฯ

ภยวคฺโค ตติโยฯ

(14) 4. ปุคฺคลวคฺโค

1. สํโยชนสุตฺตวณฺณนา

[131] จตุตฺถสฺส ปฐเม อุปปตฺติปฏิลาภิยานีติ เยหิ อนนฺตรา อุปปตฺติํ ปฏิลภติฯ ภวปฏิลาภิยานีติ อุปปตฺติภวสฺส ปฏิลาภาย ปจฺจยานิฯ สกทาคามิสฺสาติ อิทํ อปฺปหีนสํโยชเนสุ อริเยสุ อุตฺตมโกฏิยา คหิตํฯ ยสฺมา ปน อนฺตราปรินิพฺพายิสฺส อนฺตรา อุปปตฺติ นตฺถิ, ยํ ปน โส ตตฺถ ฌานํ สมาปชฺชติ, ตํ กุสลตฺตา ‘‘อุปปตฺติภวสฺส ปจฺจโย’’ เตว สงฺขฺยํ คจฺฉติฯ ตสฺมาสฺส ‘‘อุปปตฺติปฏิลาภิยานิ สํโยชนานิ ปหีนานิ, ภวปฏิลาภิยานิ สํโยชนานิ อปฺปหีนานี’’ติ วุตฺตํฯ โอรมฺภาคิเยสุ จ อปฺปหีนํ อุปาทาย สกทาคามิสฺส อวิเสเสน ‘‘โอรมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ อปฺปหีนานี’’ติ วุตฺตํฯ เสสเมตฺถ อุตฺตานเมวฯ

2. ปฏิภานสุตฺตวณฺณนา

[132] ทุติเย ยุตฺตปฺปฏิภาโน โน มุตฺตปฺปฏิภาโนติ ปญฺหํ กเถนฺโต ยุตฺตเมว กเถติ, สีฆํ ปน น กเถติ, สณิกเมว กเถตีติ อตฺโถฯ อิมินา นเยน สพฺพปทานิ เวทิตพฺพานิฯ