เมนู

1. กมฺมการณวคฺโค

1. วชฺชสุตฺตวณฺณนา

[1] ทุกนิปาตสฺส ปฐเม วชฺชานีติ โทสา อปราธาฯ ทิฏฺฐธมฺมิกนฺติ ทิฏฺเฐว ธมฺเม อิมสฺมิํเยว อตฺตภาเว อุปฺปนฺนผลํฯ สมฺปรายิกนฺติ สมฺปราเย อนาคเต อตฺตภาเว อุปฺปนฺนผลํฯ อาคุจารินฺติ ปาปการิํ อปราธการกํฯ ราชาโน คเหตฺวา วิวิธา กมฺมการณา กาเรนฺเตติ โจรํ คเหตฺวา วิวิธา กมฺมการณา ราชปุริสา กโรนฺติ, ราชาโน ปน ตา กาเรนฺติ นามฯ ตํ โจรํ เอวํ กมฺมการณา การิยมานํ เอส ปสฺสติฯ เตน วุตฺตํ – ‘‘ปสฺสติ โจรํ อาคุจาริํ ราชาโน คเหตฺวา วิวิธา กมฺมการณา กาเรนฺเต’’ติฯ อทฺธทณฺฑเกหีติ มุคฺคเรหิ, ปหารสาธนตฺถํ วา จตุหตฺถทณฺฑํ ทฺเวธา เฉตฺวา คหิตทณฺฑเกหิฯ พิลงฺคถาลิกนฺติ กญฺชิยอุกฺขลิกกมฺมการณํฯ ตํ กโรนฺตา สีสกฏาหํ อุปฺปาเฏตฺวา ตตฺตํ อโยคุฬํ สณฺฑาเสน คเหตฺวา ตตฺถ ปกฺขิปนฺติ, เตน มตฺถลุงฺคํ ปกฺกุถิตฺวา อุตฺตรติฯ สงฺขมุณฺฑิกนฺติ สงฺขมุณฺฑกมฺมการณํฯ ตํ กโรนฺตา อุตฺตโรฏฺฐอุภโตกณฺณจูฬิกคลวาฏกปริจฺเฉเทน จมฺมํ ฉินฺทิตฺวา สพฺพเกเส เอกโต คณฺฐิํ กตฺวา ทณฺฑเกน เวเฐตฺวา อุปฺปาเฏนฺติ, สห เกเสหิ จมฺมํ อุฏฺฐหติฯ ตโต สีสกฏาหํ ถูลสกฺขราหิ ฆํสิตฺวา โธวนฺตา สงฺขวณฺณํ กโรนฺติฯ ราหุมุขนฺติ ราหุมุขกมฺมการณํฯ ตํ กโรนฺตา สงฺกุนา มุขํ วิวริตฺวา อนฺโตมุเข ทีปํ ชาเลนฺติ, กณฺณจูฬิกาหิ วา ปฏฺฐาย มุขํ นิขาทเนน ขนนฺติ, โลหิตํ ปคฺฆริตฺวา มุขํ ปูเรติฯ

โชติมาลิกนฺติ สกลสรีรํ เตลปิโลติกาย เวเฐตฺวา อาลิมฺเปนฺติฯ หตฺถปชฺโชติกนฺติ หตฺเถ เตลปิโลติกาย เวเฐตฺวา ทีปํ วิย ปชฺชาเลนฺติฯ เอรกวตฺติกนฺติ เอรกวตฺตกมฺมการณํฯ ตํ กโรนฺตา เหฏฺฐาคีวโต ปฏฺฐาย จมฺมวฏฺเฏ กนฺติตฺวา โคปฺผเก ฐเปนฺติ, อถ นํ โยตฺเตหิ พนฺธิตฺวา กฑฺฒนฺติฯ โส อตฺตโน จมฺมวฏฺเฏ อกฺกมิตฺวา อกฺกมิตฺวา ปตติฯ จีรกวาสิกนฺติ จีรกวาสิกกมฺมการณํฯ ตํ กโรนฺตา ตเถว จมฺมวฏฺเฏ กนฺติตฺวา กฏิยํ ฐเปนฺติ, กฏิโต ปฏฺฐาย กนฺติตฺวา โคปฺผเกสุ ฐเปนฺติ, อุปริเมหิ เหฏฺฐิมสรีรํ จีรกนิวาสนนิวตฺถํ วิย โหติฯ เอเณยฺยกนฺติ เอเณยฺยกกมฺมการณํฯ ตํ กโรนฺตา อุโภสุ กปฺปเรสุ จ อุโภสุ ชาณุเกสุ จ อยวลยานิ ทตฺวา อยสูลานิ โกฏฺเฏนฺติฯ โส จตูหิ อยสูเลหิ ภูมิยํ ปติฏฺฐหติฯ อถ นํ ปริวาเรตฺวา อคฺคิํ กโรนฺติฯ ‘‘เอเณยฺยโก โชติปริคฺคโห ยถา’’ติ อาคตฏฺฐาเนปิ อิทเมว วุตฺตํฯ ตํ กาเลน กาลํ สูลานิ อปเนตฺวา จตูหิ อฏฺฐิโกฏีหิเยว ฐเปนฺติฯ เอวรูปา กมฺมการณา นาม นตฺถิฯ

พฬิสมํสิกนฺติ อุภโตมุเขหิ พฬิเสหิ ปหริตฺวา จมฺมมํสนฺหารูนิ อุปฺปาเฏนฺติฯ กหาปณิกนฺติ สกลสรีรํ ติณฺหาหิ วาสีหิ โกฏิโต ปฏฺฐาย กหาปณมตฺตํ, กหาปณมตฺตํ ปาเตนฺตา โกฏฺเฏนฺติฯ ขาราปตจฺฉิกนฺติ สรีรํ ตตฺถ ตตฺถ อาวุเธหิ ปหริตฺวา โกจฺเฉหิ ขารํ ฆํสนฺติ, จมฺมมํสนฺหารูนิ ปคฺฆริตฺวา อฏฺฐิกสงฺขลิกาว ติฏฺฐติฯ ปลิฆปริวตฺติกนฺติ เอเกน ปสฺเสน นิปชฺชาเปตฺวา กณฺณจฺฉิทฺเทน อยสูลํ โกฏฺเฏตฺวา ปถวิยา เอกาพทฺธํ กโรนฺติฯ อถ นํ ปาเท คเหตฺวา อาวิญฺฉนฺติฯ

ปลาลปีฐกนฺติ เฉโก การณิโก ฉวิจมฺมํ อจฺฉินฺทิตฺวา นิสทโปเตหิ อฏฺฐีนิ ภินฺทิตฺวา เกเสสุ คเหตฺวา อุกฺขิปติ, มํสราสิเยว โหติฯ อถ นํ เกเสเหว ปริโยนนฺธิตฺวา คณฺหนฺติ, ปลาลวฏฺฏิํ วิย กตฺวา ปุน เวเฐนฺติฯ สุนเขหิปีติ กติปยานิ ทิวสานิ อาหารํ อทตฺวา ฉาตกสุนเขหิ ขาทาเปนฺติฯ เต มุหุตฺเตน อฏฺฐิกสงฺขลิกเมว กโรนฺติฯ สูเล อุตฺตาเสนฺเตติ สูเล อาโรเปนฺเตฯ

น ปเรสํ ปาภตํ วิลุมฺปนฺโต จรตีติ ปเรสํ สนฺตกํ ภณฺฑํ ปรมฺมุขํ อาภตํ อนฺตมโส อนฺตรวีถิยํ ปติตํ สหสฺสภณฺฑิกมฺปิ ทิสฺวา ‘‘อิมินา ชีวิสฺสามี’’ติ วิลุมฺปนฺโต น วิจรติ, โก อิมินา อตฺโถติ ปิฏฺฐิปาเทน วา ปวฏฺเฏตฺวา คจฺฉติฯ

ปาปโกติ ลามโกฯ ทุกฺโขติ อนิฏฺโฐฯ กิญฺจ ตนฺติ กิํ นาม ตํ การณํ ภเวยฺยฯ ยาหนฺติ เยน อหํฯ กายทุจฺจริตนฺติ ปาณาติปาตาทิ ติวิธํ อกุสลํ กายกมฺมํฯ กายสุจริตนฺติ ตสฺส ปฏิปกฺขภูตํ ติวิธํ กุสลกมฺมํฯ วจีทุจฺจริตนฺติ มุสาวาทาทิ จตุพฺพิธํ อกุสลํ วจีกมฺมํฯ วจีสุจริตนฺติ ตสฺส ปฏิปกฺขภูตํ จตุพฺพิธํ กุสลกมฺมํฯ มโนทุจฺจริตนฺติ อภิชฺฌาทิ ติวิธํ อกุสลกมฺมํฯ มโนสุจริตนฺติ ตสฺส ปฏิปกฺขภูตํ ติวิธํ กุสลกมฺมํฯ สุทฺธํ อตฺตานํ ปริหรตีติ เอตฺถ ทุวิธา สุทฺธิ – ปริยายโต จ นิปฺปริยายโต จฯ สรณคมเนน หิ ปริยาเยน สุทฺธํ อตฺตานํ ปริหรติ นามฯ ตถา ปญฺจหิ สีเลหิ, ทสหิ สีเลหิ – จตุปาริสุทฺธิสีเลน, ปฐมชฺฌาเนน…เป.… เนวสญฺญานาสญฺญายตเนน, โสตาปตฺติมคฺเคน, โสตาปตฺติผเลน…เป.… อรหตฺตมคฺเคน ปริยาเยน สุทฺธํ อตฺตานํ ปริหรติ นามฯ อรหตฺตผเล ปติฏฺฐิโต ปน ขีณาสโว ฉินฺนมูลเก ปญฺจกฺขนฺเธ นฺหาเปนฺโตปิ ขาทาเปนฺโตปิ ภุญฺชาเปนฺโตปิ นิสีทาเปนฺโตปิ นิปชฺชาเปนฺโตปิ นิปฺปริยาเยเนว สุทฺธํ นิมฺมลํ อตฺตานํ ปริหรติ ปฏิชคฺคตีติ เวทิตพฺโพฯ

ตสฺมาติ ยสฺมา อิมานิ ทฺเว วชฺชาเนว, โน น วชฺชานิ, ตสฺมาฯ วชฺชภีรุโนติ วชฺชภีรุกาฯ วชฺชภยทสฺสาวิโนติ วชฺชานิ ภยโต ทสฺสนสีลาฯ เอตํ ปาฏิกงฺขนฺติ เอตํ อิจฺฉิตพฺพํ, เอตํ อวสฺสํภาวีติ อตฺโถฯ

นฺติ นิปาตมตฺตํ, การณวจนํ วา เยน การเณน ปริมุจฺจิสฺสติ สพฺพวชฺเชหิ ฯ เกน ปน การเณน ปริมุจฺจิสฺสตีติ? จตุตฺถมคฺเคน เจว จตุตฺถผเลน จฯ มคฺเคน หิ ปริมุจฺจติ นาม, ผลํ ปตฺโต ปริมุตฺโต นาม โหตีติฯ กิํ ปน ขีณาสวสฺส อกุสลํ น วิปจฺจตีติ? วิปจฺจติ, ตํ ปน ขีณาสวภาวโต ปุพฺเพ กตํฯ ตญฺจ โข อิมสฺมิํเยว อตฺตภาเว, สมฺปราเย ปนสฺส กมฺมผลํ นาม นตฺถีติฯ ปฐมํฯ

2. ปธานสุตฺตวณฺณนา

[2] ทุติเย ปธานานีติ วีริยานิฯ วีริยญฺหิ ปทหิตพฺพโต ปธานภาวกรณโต วา ปธานนฺติ วุจฺจติฯ ทุรภิสมฺภวานีติ ทุสฺสหานิ ทุปฺปูริยานิ, ทุกฺกรานีติ อตฺโถฯ อคารํ อชฺฌาวสตนฺติ อคาเร วสนฺตานํฯ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานุปฺปทานตฺถํ ปธานนฺติ เอเตสํ จีวราทีนํ จตุนฺนํ ปจฺจยานํ อนุปฺปทานตฺถาย ปธานํ นาม ทุรภิสมฺภวนฺติ ทสฺเสติฯ จตุรตนิกมฺปิ หิ ปิโลติกํ, ปสตตณฺฑุลมตฺตํ วา ภตฺตํ, จตุรตนิกํ วา ปณฺณสาลํ, เตลสปฺปินวนีตาทีสุ วา อปฺปมตฺตกมฺปิ เภสชฺชํ ปเรสํ เทถาติ วตฺตุมฺปิ นีหริตฺวา ทาตุมฺปิ ทุกฺกรํ อุภโตพฺยูฬฺหสงฺคามปฺปเวสนสทิสํฯ เตนาห ภควา –

‘‘ทานญฺจ ยุทฺธญฺจ สมานมาหุ,

อปฺปาปิ สนฺตา พหุเก ชินนฺติ;

อปฺปมฺปิ เจ สทฺทหาโน ททาติ,

เตเนว โส โหติ สุขี ปรตฺถา’’ติฯ (ชา. 1.8.72; สํ. นิ. 1.33);

อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตานนฺติ เคหโต นิกฺขมิตฺวา อคารสฺส ฆราวาสสฺส หิตาวเหหิ กสิโครกฺขาทีหิ วิรหิตํ อนคาริยํ ปพฺพชฺชํ อุปคตานํฯ สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺคตฺถาย ปธานนฺติ สพฺเพสํ ขนฺธูปธิกิเลสูปธิอภิสงฺขารูปธิสงฺขาตานํ อุปธีนํ ปฏินิสฺสคฺคสงฺขาตสฺส นิพฺพานสฺส อตฺถาย วิปสฺสนาย เจว มคฺเคน จ สหชาตวีริยํฯ ตสฺมาติ ยสฺมา อิมานิ ทฺเว ปธานานิ ทุรภิสมฺภวานิ, ตสฺมาฯ ทุติยํฯ