เมนู

พกุลาเถรีวตฺถุ

[242] อฏฺฐเม ทิพฺพจกฺขุกานํ ยทิทํ พกุลาติ ทิพฺพจกฺขุกานํ, พกุลา เถรี, อคฺคาติ ทสฺเสติฯ อยํ กิร ปทุมุตฺตรพุทฺธกาเล หํสวติยํ กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา สตฺถุ ธมฺมกถํ สุณนฺตี สตฺถารํ เอกํ ภิกฺขุนิํ ทิพฺพจกฺขุกานํ อคฺคฏฺฐาเน ฐเปนฺตํ ทิสฺวา อธิการกมฺมํ กตฺวา ตํ ฐานนฺตรํ ปตฺเถสิฯ สา กปฺปสตสหสฺสํ เทเวสุ จ มนุสฺเสสุ จ สํสริตฺวา อิมสฺมิํ พุทฺธุปฺปาเท สาวตฺถิยํ กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา อปรภาเค สตฺถุ ธมฺมเทสนํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสทฺธา ปพฺพชิตฺวา นจิรสฺเสว อรหตฺตํ ปาปุณิฯ สา ตโต ปฏฺฐาย ทิพฺพจกฺขุมฺหิ จิณฺณวสี อโหสิฯ อปรภาเค สตฺถา เชตวเน นิสินฺโน ภิกฺขุนิโย ปฏิปาฏิยา ฐานนฺตเร ฐเปนฺโต อิมํ เถริํ ทิพฺพจกฺขุกานํ อคฺคฏฺฐาเน ฐเปสีติฯ

กุณฺฑลเกสาเถรีวตฺถุ

[243] นวเม ขิปฺปาภิญฺญานนฺติ ขิปฺปาภิญฺญานํ ภิกฺขุนีนํ, ภทฺทา กุณฺฑลเกสา, อคฺคาติ ทสฺเสติฯ อยมฺปิ หิ ปทุมุตฺตรพุทฺธกาเล หํสวติยํ กุลเคเห นิพฺพตฺตา สตฺถุ ธมฺมกถํ สุตฺวา สตฺถารํ เอกํ ภิกฺขุนิํ ขิปฺปาภิญฺญานํ อคฺคฏฺฐาเน ฐเปนฺตํ ทิสฺวา อธิการกมฺมํ กตฺวา ตํ ฐานนฺตรํ ปตฺเถสิฯ สา กปฺปสตสหสฺสํ เทวมนุสฺเสสุ สํสริตฺวา กสฺสปพุทฺธกาเล กิกิสฺส กาสิรญฺโญ เคเห สตฺตนฺนํ ภคินีนํ อพฺภนฺตรา หุตฺวา วีสติ วสฺสสหสฺสานิ ทส สีลานิ สมาทาย โกมาริกพฺรหฺมจริยํ จรนฺตี สงฺฆสฺส วสนปริเวณํ กาเรตฺวา เอกํ พุทฺธนฺตรํ เทวมนุสฺเสสุ สํสริตฺวา อิมสฺมิํ พุทฺธุปฺปาเท ราชคหนคเร เสฏฺฐิกุเล ปฏิสนฺธิํ คณฺหิ, ภทฺทาติสฺสา นามํ อกํสุฯ

ตํทิวสํเยว จ ตสฺมิํ นคเร ปุโรหิตปุตฺโต ชาโตฯ ตสฺส ชาตเวลาย ราชนิเวสนํ อาทิํ กตฺวา สกลนคเร อาวุธานิ ปชฺชลิํสุฯ ปุโรหิโต ปาโตว ราชกุลํ คนฺตฺวา ราชานํ สุขเสยฺยํ ปุจฺฉิฯ ราชา ‘‘กุโต เม, อาจริย, สุขเสยฺยา, อชฺช สพฺพรตฺติํ ราชนิเวสเน อาวุธานิ ปชฺชลิตานิ ทิสฺวา ภยปฺปตฺตา อหุมฺหา’’ติ อาหฯ มหาราช, ตปฺปจฺจยา มา จินฺตยิตฺถ, น ตุมฺหากํเยว เคเห อาวุธานิ ปชฺชลิํสุ, สกลนคเร เอวํ อโหสีติฯ

กิํ การณา, อาจริยาติ? อมฺหากํ เคเห โจรนกฺขตฺเตน ทารโก ชาโต, โส สกลนครสฺส สตฺตุ หุตฺวา อุปฺปนฺโน, ตสฺเสตํ ปุพฺพนิมิตฺตํฯ ตุมฺหากํ อุปทฺทโว นตฺถิ, สเจ ปน อิจฺฉถ, หาเรม นนฺติฯ อมฺหากํ ปีฬาย อสติยา หารณกมฺมํ นตฺถีติฯ ปุโรหิโต ‘‘มม ปุตฺโต อตฺตโน นามํ คเหตฺวาว อาคโต’’ติ สตฺตุโกเตวสฺส นามํ อกาสิฯ เสฏฺฐิเคเหปิ ภทฺทา วฑฺฒติ, ปุโรหิตเคเหปิ สตฺตุโก วฑฺฒติฯ โส อตฺตโน อาธาวนวิธาวเนน กีฬิตุํ สมตฺถกาลโต ปฏฺฐาย อตฺตโน วิจรณฏฺฐาเน ยํ ยํ ปสฺสติ, ตํ ตํ สพฺพํ อาหริตฺวา มาตาปิตูนํ เคหํ ปูเรติฯ ปิตา นํ การณสหสฺสมฺปิ วตฺวา วาเรตุํ นาสกฺขิฯ

อปรภาเค ปนสฺส วยปฺปตฺตสฺส สพฺพากาเรนาปิ วาเรตุํ อสกฺกุเณยฺยภาวํ ญตฺวา ทฺเว นีลสาฏเก ทตฺวา สนฺธิจฺเฉทนอุปกรณญฺจ สิงฺฆาฏกยนฺตญฺจ หตฺเถ ทตฺวา ‘‘ตฺวํ อิมินาว กมฺเมน ชีวาหี’’ติ นํ วิสฺสชฺเชสิฯ โส ตํทิวสโต ปฏฺฐาย สิงฺฆาฏกยนฺตํ ขิปิตฺวา กุลานํ ปาสาเท อารุยฺห สนฺธิํ ฉินฺทิตฺวา ปรกุเลสุ นิกฺขิตฺตภณฺฑํ อตฺตนา ฐปิตํ วิย คเหตฺวา คจฺฉติฯ สกลนคเร เตน อวิลุตฺตเคหํ นาม นาโหสิฯ เอกทิวสํ ราชา รเถน นคเร วิจรนฺโต สารถิํ ปุจฺฉิ – ‘‘กิํ นุ โข อิมสฺมิํ นคเร ตสฺมิํ ตสฺมิํ ฆเร ฉิทฺทเมว ปญฺญายตี’’ติฯ เทว อิมสฺมิํ นคเร สตฺตุโก นาม โจโร ภิตฺติํ ฉินฺทิตฺวา กุลานํ สนฺตกํ หรตีติฯ ราชา นครคุตฺติกํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘อิมสฺมิํ กิร นคเร เอวรูโป นาม โจโร อตฺถิ, กสฺมา นํ น คณฺหสี’’ติ อาหฯ มยํ, เทว, ตํ โจรํ สโหฑฺฒํ ปสฺสิตุํ น สกฺโกมาติฯ สเจ อชฺช นํ โจรํ คณฺหสิ, ชีวสิฯ สเจ น คณฺหสิ, ราชาณํ เต กริสฺสามีติฯ เอวํ เทวาติ นครคุตฺติโก สกลนคเร มนุสฺเส จาเรตฺวา ตํ ภิตฺติํ ฉินฺทิตฺวา ปรภณฺฑํ อวหรนฺตํ สโหฑฺฒเมว คเหตฺวา รญฺโญ ทสฺเสสิฯ ราชา ‘‘อิมํ โจรํ ทกฺขิณทฺวาเรน นีหริตฺวา ฆาเตถา’’ติ อาหฯ นครคุตฺติโก รญฺโญ ปฏิสฺสุณิตฺวา ตํ โจรํ จตุกฺเก จตุกฺเก ปหารสหสฺเสน ตาเฬนฺโต คาหาเปตฺวา ทกฺขิณทฺวารํ คจฺฉติฯ

ตสฺมิํ สมเย อยํ ภทฺทา นาม เสฏฺฐิธีตา มหาชนสฺส โกลาหลสทฺเทน สีหปญฺชรํ อุคฺฆาเฏตฺวา โอโลเกนฺตี ตํ สตฺตุกํ โจรํ ตถา นียมานํ ทิสฺวา อุโภหิ หตฺเถหิ หทยํ สนฺธาเรนฺตี คนฺตฺวา สิริสยเน อโธมุขา นิปชฺชิ ฯ สา จ ตสฺส กุลสฺส เอกธีตา, เตนสฺสา ญาตกา อปฺปมตฺตกมฺปิ มุขวิการํ สหิตุํ น สกฺโกนฺติฯ อถ นํ มาตา สยเน นิปนฺนํ ทิสฺวา ‘‘กิํ กโรสิ, อมฺมา’’ติ ปุจฺฉิฯ เอตํ วชฺฌํ กตฺวา นียมานํ โจรํ อทฺทส, อมฺมาติ? อาม, อมฺมาติฯ เอตํ ลภมานา ชีวิสฺสามิ, อลภมานาย เม มรณเมวาติฯ เต ตํ นานปฺปกาเรนปิ สญฺญาเปตุํ อสกฺโกนฺตา ‘‘มรณา ชีวิตํ เสยฺโย’’ติ สลฺลกฺเขสุํฯ อถสฺสา ปิตา นครคุตฺติกสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา สหสฺสํ ลญฺชํ ทตฺวา ‘‘มยฺหํ ธีตา โจเร ปฏิพทฺธจิตฺตา, เยน เกนจิ อุปาเยน อิมํ มุญฺจา’’ติ อาหฯ โส ‘‘สาธู’’ติ เสฏฺฐิสฺส ปฏิสฺสุณิตฺวา โจรํ คเหตฺวา ยาว สูริยสฺส อตฺถงฺคมนา อิโต จิโต จ ปปญฺจาเปตฺวา สูริเย อตฺถงฺคเต จารกโต เอกํ มนุสฺสํ นีหราเปตฺวา สตฺตุกสฺส พนฺธนํ โมเจตฺวา สตฺตุกํ เสฏฺฐิเคหํ เปเสตฺวา เตน พนฺธเนน อิตรํ พนฺธิตฺวา ทกฺขิณทฺวาเรน นีหริตฺวา ฆาเตสิฯ เสฏฺฐิทาสาปิ สตฺตุกํ คเหตฺวา เสฏฺฐิโน นิเวสนํ อาคมํสุฯ ตํ ทิสฺวา เสฏฺฐิ ‘‘ธีตุ มนํ ปูเรสฺสามี’’ติ สตฺตุกํ คนฺโธทเกน นฺหาเปตฺวา สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิตํ กาเรตฺวา ปาสาทํ เปเสสิฯ ภทฺทาปิ ‘‘ปริปุณฺโณ เม สงฺกปฺโป’’ติ อเนกาลงฺกาเรน อลงฺกริตฺวา ตํ ปริจรติฯ

สตฺตุโก กติปาหํ วีตินาเมตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อิมิสฺสา ปสาธนภณฺฑกํ มยฺหํ ภวิสฺสติ, เกนจิ อุปาเยน อิมํ อาภรณํ คเหตุํ วฏฺฏตี’’ติ สมีเป สุเขน นิสินฺนกาเล ภทฺทํ อาห – ‘‘มยฺหํ เอกํ วจนํ วตฺตพฺพํ อตฺถี’’ติฯ เสฏฺฐิธีตา สหสฺสลาภํ ลภิตฺวา วิย ตุฏฺฐมานสา ‘‘วิสฺสตฺถํ วเทหิ, อยฺยา’’ติ อาหฯ ตฺวํ จินฺเตสิ – ‘‘มํ นิสฺสาย อิมินา ชีวิตํ ลทฺธ’’นฺติ, อหํ ปน คหิตมตฺโตว โจรปปาตปพฺพเต อธิวตฺถาย เทวตาย ‘‘สจาหํ ชีวิตํ ลภิสฺสามิ, พลิกมฺมํ เต ทสฺสามี’’ติ อายาจิํฯ

ตํ นิสฺสาย มยา ชีวิตํ ลทฺธํ , สีฆํ พลิกมฺมํ สชฺชาเปหีติฯ ภทฺทา, ‘‘อหํ ตสฺส มนํ ปูเรสฺสามี’’ติ พลิกมฺมํ สชฺชาเปตฺวา สพฺพํ ปสาธนํ ปสาเธตฺวา เอกยาเน อารุยฺห สามิเกน สทฺธิํ โจรปปาตปพฺพตํ คนฺตฺวา ‘‘ปพฺพตเทวตาย พลิกมฺมํ กริสฺสามี’’ติ อภิรุหิตุํ อารทฺธาฯ สตฺตุโก จินฺเตสิ – ‘‘สพฺเพสุ อภิรุหนฺเตสุ มม อิมิสฺสา อาภรณํ คเหตุํ น โอกาโส ภวิสฺสตี’’ติ ตเมว พลิภาชนํ คาหาเปตฺวา ปพฺพตํ อภิรุหิฯ

โส ภทฺทาย สทฺธิํ กเถนฺโต ปิยกถํ น กเถติฯ สา อิงฺคิเตเนว ตสฺส อธิปฺปายํ อญฺญาสิฯ อถ นํ โส อาห – ‘‘ภทฺเท, ตว อุตฺตริสาฏกํ โอมุญฺจิตฺวา กายารุฬฺหํ เต ปสาธนํ เอตฺถ ภณฺฑิกํ กโรหี’’ติฯ สามิ มยฺหํ โก อปราโธติ? กิํ ปนาหํ, พาเล, พลิกมฺมตฺถํ อาคโตติ สญฺญํ กโรสิ? อหญฺหิ อิมิสฺสา เทวตาย ยกนํ อุพฺพฏฺเฐตฺวา ทเทยฺยํ, พลิกมฺมาปเทเสน ปน ตว อาภรณํ คณฺหิตุกาโม หุตฺวา อาคโตมฺหีติฯ กสฺส ปน, อยฺย, ปสาธนํ, กสฺส อหนฺติ? มยํ เอวรูปํ น ชานาม, อญฺญํ ตว สนฺตกํ, อญฺญํ มม สนฺตกนฺติฯ สาธุ, อยฺย, เอกํ ปน เม อธิปฺปายํ ปูเรถ, อลงฺกตนิยาเมเนว เม ปุรโต จ ปจฺฉโต จ อาลิงฺคิตุํ เทถาติฯ โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิฯ สา เตน สมฺปฏิจฺฉิตภาวํ ญตฺวา ปุรโต อาลิงฺคิตฺวา ปจฺฉโต อาลิงฺคนฺตี วิย หุตฺวา ปพฺพตปปาเต ปาเตสิฯ โส ปตนฺโต อากาเสเยว จุณฺณวิจุณฺโณ อโหสิฯ ตาย กตํ วิจิตฺรภาวํ ทิสฺวา ปพฺพเต อธิวตฺถา เทวตา คุณกิตฺตนวเสน อิมา คาถา อาห –

‘‘น โส สพฺเพสุ ฐาเนสุ, ปุริโส โหติ ปณฺฑิโต;

อิตฺถีปิ ปณฺฑิตา โหติ, ตตฺถ ตตฺถ วิจกฺขณาฯ

‘‘น โส สพฺเพสุ ฐาเนสุ, ปุริโส โหติ ปณฺฑิโต;

อิตฺถีปิ ปณฺฑิตา โหติ, มุหุตฺตมปิ จินฺตเย’’ติฯ (อป. เถรี 2.3.31-32);

ตโต ภทฺทา จินฺเตสิ – ‘‘น สกฺกา มยา อิมินา นิยาเมน ปุน เคหํ คนฺตุํ, อิโตว คนฺตฺวา เอกํ ปพฺพชฺชํ ปพฺพชิสฺสามี’’ติ, นิคณฺฐารามํ คนฺตฺวา นิคณฺเฐ ปพฺพชฺชํ ยาจิฯ อถ นํ เต อาหํสุ – ‘‘เกน นิยาเมน ปพฺพชฺชา โหตู’’ติ? ยํ ตุมฺหากํ ปพฺพชฺชาย อุตฺตมํ, ตเทว กโรถาติฯ เต ‘‘สาธู’’ติ ตสฺสา ตาลฏฺฐินา เกเส ลุญฺจิตฺวา ปพฺพาเชสุํฯ

เกสา ปุน วฑฺฒนฺตา ราสิราสิวเสน กุณฺฑลาวตฺตา หุตฺวา วฑฺฒิํสุฯ สา เตเนว การเณน กุณฺฑลเกสา นาม ชาตาฯ สา อตฺตโน ปพฺพชิตฏฺฐาเน สพฺพสิปฺปํ อุคฺคณฺหิตฺวา ‘‘เอเตสํ อิโต อุตฺตริ วิเสโส นตฺถี’’ติ ญตฺวา คามนิคมราชธานิโย วิจรนฺตี ยตฺถ ยตฺถ ปณฺฑิตา อตฺถิ , ตตฺถ ตตฺถ คนฺตฺวา เตสํ ชานนสิปฺปํ สพฺพเมว อุคฺคณฺหาติฯ อถสฺสา พหูสุ ฐาเนสุ สิกฺขิตภาเวน ปฏิวาทํ ทาตุํ สมตฺถา น โหนฺติฯ สา อตฺตนา สทฺธิํ กเถตุํ สมตฺถํ อทิสฺวา ยํ คามํ วา นิคมํ วา ปวิสติ, ตสฺส ทฺวาเร วาลุกราสิํ กตฺวา ตตฺถ ชมฺพุสาขํ ฐเปติฯ ‘‘โย มม วาทํ อาโรเปตุํ สกฺโกติ, โส อิมํ สาขํ มทฺทตู’’ติ สมีเป ฐิตานํ ทารกานํ สญฺญํ เทติฯ ตํ สตฺตาหมฺปิ มทฺทนฺตา น โหนฺติฯ อถ นํ คเหตฺวา ปกฺกมติฯ

ตสฺมิํ สมเย อมฺหากํ ภควา โลเก นิพฺพตฺติตฺวา สาวตฺถิํ อุปนิสฺสาย เชตวเน วิหรติฯ กุณฺฑลเกสาปิ โข อนุปุพฺเพน สาวตฺถิํ ปตฺวา อนฺโตนครํ ปวิสมานา โปราณกนิยาเมเนว วาลุการาสิมฺหิ สาขํ ฐเปตฺวา ทารกานํ สญฺญํ ทตฺวา ปาวิสิฯ ตสฺมิํ สมเย ธมฺมเสนาปติ ภิกฺขุสงฺเฆ ปวิฏฺเฐ เอกโกว นครํ ปวิสนฺโต วาลุกาถูเป ชมฺพุสาขํ ทิสฺวา ‘‘กสฺมา อยํ ฐปิตา’’ติ ปุจฺฉิฯ ทารกา ตํ การณํ อปริหาเปตฺวา กเถสุํฯ เอวํ สนฺเต อิมํ คเหตฺวา มทฺทถ, ทารกาติฯ เตสุ เถรสฺส วจนํ สุตฺวา เอกจฺเจ มทฺทิตุํ น วิสหิํสุ, เอกจฺเจ ตํขเณเยว มทฺทิตฺวา จุณฺณวิจุณฺณํ อกํสุฯ กุณฺฑลเกสา ภตฺตกิจฺจํ กตฺวา นิกฺขมนฺตี ตํ สาขํ มทฺทิตํ ทิสฺวา ‘‘กสฺเสตํ กมฺม’’นฺติ ปุจฺฉิฯ อถสฺสา ธมฺมเสนาปตินา การาปิตภาวํ กถยิํสุฯ สา ‘‘อตฺตโน ถามํ อชานนฺโต อิมํ สาขํ มทฺทาเปตุํ โน วิสหิสฺสติ, อทฺธา มหนฺโต เอโส ภวิสฺสติ ฯ อหมฺปิ ปน ขุทฺทิกา ภวนฺตี น โสภิสฺสามิ, อนฺโตคามเมว ปวิสิตฺวา ปริสาย สญฺญํ ทาตุํ วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา ตถา อกาสิฯ อสีติกุลสหสฺสนิวาเส นคเร สภาคสภาควเสน สพฺเพว สญฺชานิํสูติ เวทิตพฺพํฯ

เถโรปิ ภตฺตกิจฺจํ กตฺวา อญฺญตรสฺมิํ รุกฺขมูเล นิสีทิฯ อถายํ กุณฺฑลเกสา มหาชนปริวุตา เถรสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ปฏิสนฺถารํ กตฺวา เอกมนฺตํ ฐตฺวา, ‘‘ภนฺเต, ตุมฺเหหิ สาขา มทฺทาปิตา’’ติ ปุจฺฉิฯ อาม, มยา มทฺทาปิตาติฯ

เอวํ สนฺเต ตุมฺเหหิ สทฺธิํ อมฺหากํ วาโท โหตุ, ภนฺเตติ ฯ โหตุ, ภทฺเทติฯ กสฺส ปุจฺฉา โหตุ, กสฺส วิสฺสชฺชนนฺติ? ปุจฺฉา นาม อมฺหากํ ปตฺตา, ตฺวํ ปน ตุยฺหํ ชานนกํ ปุจฺฉาติฯ สา เถเรน ทินฺนอนุมติยา สพฺพเมว อตฺตโน ชานนกํ วาทํ ปุจฺฉิ, เถโร สพฺพํ วิสฺสชฺเชสิฯ สา สพฺพํ ปุจฺฉิตฺวา ตุณฺหี อโหสิฯ อถ นํ เถโร อาห – ‘‘ตยา พหุํ ปุจฺฉิตํ, มยมฺปิ เอกํ ปญฺหํ ปุจฺฉามา’’ติฯ ปุจฺฉถ, ภนฺเตติฯ เอกํ นาม กินฺติ? กุณฺฑลเกสา ‘‘น ชานามิ, ภนฺเต’’ติ อาหฯ ตฺวํ เอตฺตกมฺปิ น ชานาสิ, อญฺญํ กิํ ชานิสฺสสีติ? สา เถรสฺส ปาเทสุ ปติตฺวา ‘‘ตุมฺหากํ สรณํ คจฺฉามิ, ภนฺเต’’ติ อาหฯ มม สรณคมนกมฺมํ นตฺถิ, สเทวเก โลเก อคฺคปุคฺคโล ธุรวิหาเร วสติ, ตํ สรณํ คจฺฉาหีติฯ สา ‘‘เอวํ กริสฺสามิ, ภนฺเต’’ติ สายนฺหสมเย สตฺถุ ธมฺมเทสนาเวลาย สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา ปญฺจปติฏฺฐิเตน วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺฐาสิฯ สตฺถา ตสฺสา มทฺทิตสงฺขาราย จริยาวเสน ธมฺมปเท อิมํ คาถมาห –

‘‘สหสฺสมปิ เจ คาถา, อนตฺถปทสํหิตา;

เอกํ คาถาปทํ เสยฺโย, ยํ สุตฺวา อุปสมฺมตี’’ติฯ (ธ. ป. 101);

สา คาถาปริโยสาเน ยถาฐิตาว สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปตฺวา ปพฺพชฺชํ ยาจิฯ สตฺถา ตสฺสา ปพฺพชฺชํ สมฺปฏิจฺฉิฯ สา ภิกฺขุนุปสฺสยํ คนฺตฺวา ปพฺพชิฯ อปรภาเค จตุปริสมชฺเฌ กถา อุทปาทิ – ‘‘มหนฺตา วตายํ ภทฺทา กุณฺฑลเกสา, ยา จตุปฺปทิกคาถาวสาเน อรหตฺตํ ปตฺตา’’ติฯ สตฺถา ตํ การณํ อฏฺฐุปฺปตฺติํ กตฺวา เถริํ ขิปฺปาภิญฺญานํ อคฺคฏฺฐาเน ฐเปสีติฯ

ภทฺทากาปิลานีเถรีวตฺถุ

[244] ทสเม ปุพฺเพนิวาสนฺติ ปุพฺเพ นิวุตฺถกฺขนฺธสนฺตานํ อนุสฺสรนฺตีนํ ภทฺทา กาปิลานี อคฺคาติ ทสฺเสติฯ สา กิร ปทุมุตฺตรพุทฺธกาเล หํสวติยํ กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา สตฺถุ ธมฺมเทสนํ สุณนฺตี สตฺถารํ เอกํ ภิกฺขุนิํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรนฺตีนํ อคฺคฏฺฐาเน ฐเปนฺตํ ทิสฺวา อธิการกมฺมํ กตฺวา ตํ ฐานนฺตรํ ปตฺเถสิฯ สา กปฺปสตสหสฺสํ เทวมนุสฺเสสุ สํสริตฺวา อนุปฺปนฺเน พุทฺเธ พาราณสิยํ กุลเคเห ปฏิสนฺธิํ คณฺหิตฺวา อตฺตโน สามิภคินิยา สทฺธิํ กลหํ กโรนฺตี ตาย ปจฺเจกพุทฺธสฺส ปิณฺฑปาเต ทินฺเน, ‘‘อยํ อิมสฺส ปิณฺฑปาตํ ทตฺวา อตฺตโน วสํ วตฺเตตี’’ติ ปจฺเจกพุทฺธสฺส หตฺถโต ปตฺตํ คณฺหิตฺวา ภตฺตํ ฉฑฺเฑตฺวา กลลสฺส ปูเรตฺวา อทาสิฯ มหาชโน ‘‘พาลา อย’’นฺติ ครหิตฺวา, ‘‘ยาย เต สทฺธิํ กลโห กโต, ตสฺสา กิญฺจิ น กโรสิ, ปจฺเจกพุทฺโธ เต กิํ อปรชฺฌตี’’ติ อาหฯ สา เตสํ วจเนน ลชฺชายมานา ปุน ปตฺตํ คเหตฺวา กลลํ หาเรตฺวา โธวิตฺวา คนฺธจุณฺเณน อุพฺพฏฺเฏตฺวา จตุมธุรสฺส ปูเรตฺวา อุปริ อาสิตฺเตน ปทุมคพฺภวณฺเณน สปฺปินา วิชฺโชตมานํ ปจฺเจกพุทฺธสฺส หตฺเถ ฐเปตฺวา ‘‘ยถา อยํ ปิณฺฑปาโต โอภาสชาโต, เอวํ โอภาสชาตํ เม สรีรํ โหตู’’ติ ปตฺถนํ ปฏฺฐเปสีติ สพฺพํ มหากสฺสปตฺเถรสฺส วตฺถุมฺหิ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํฯ

มหากสฺสปตฺเถโร ปน ทกฺขิณมคฺคํ คเหตฺวา ทสพลสฺส สนฺติกํ พหุปุตฺตกนิคฺโรธมูลํ คโต, อยํ ภทฺทา กาปิลานี วามมคฺคํ คณฺหิตฺวา มาตุคามสฺส ปพฺพชฺชาย อนนุญฺญาตภาเวน ปริพฺพาชิการามํ อคมาสิฯ ยทา ปน มหาปชาปติโคตมี ปพฺพชฺชญฺจ อุปสมฺปทญฺจ ลภิ, ตทา สา เถรี เถริยา สนฺติเก ปพฺพชฺชญฺจ อุปสมฺปทญฺจ ลภิตฺวา อปรภาเค วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺตี อรหตฺตํ ปตฺวา ปุพฺเพนิวาสญาเณ จิณฺณวสี อโหสิฯ อถ สตฺถา เชตวเน นิสีทิตฺวา ภิกฺขุนิโย ปฏิปาฏิยา ฐานนฺตเรสุ ฐเปนฺโต อิมํ เถริํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรนฺตีนํ อคฺคฏฺฐาเน ฐเปสีติฯ