เมนู

4. เอกพีชีสุตฺตวณฺณนา

[494] จตุตฺเถ ตโต มุทุตเรหีติ วิปสฺสนโต นิสฺสกฺกํ เวทิตพฺพํฯ สมตฺตานิ หิ ปญฺจินฺทฺริยานิ อรหตฺตมคฺคสฺส วิปสฺสนินฺทฺริยานิ นาม โหนฺติ, ตโต มุทุตรานิ อนฺตราปรินิพฺพายิสฺส วิปสฺสนินฺทฺริยานิ, ตโต มุทุตรานิ อุปหจฺจปรินิพฺพายิสฺส, ตโต มุทุตรานิ อสงฺขารปรินิพฺพายิสฺส, ตโต มุทุตรานิ สสงฺขารปรินิพฺพายิสฺส, ตโต มุทุตรานิ อุทฺธํโสตอกนิฏฺฐคามิสฺส วิปสฺสนินฺทฺริยานิ นามฯ อิธาปิ ปุริมนเยเนว อรหตฺตมคฺเค ฐตฺวา ปญฺจ นิสฺสกฺกานิ นีหริตพฺพานิฯ

ยถา ปน ปุริมนเย สกทาคามิมคฺเค ฐตฺวา ตีณิ นิสฺสกฺกานิ, เอวมิธ ปญฺจ นีหริตพฺพานิฯ สกทาคามิมคฺคสฺส หิ วิปสฺสนินฺทฺริเยหิ มุทุตรานิ โสตาปตฺติมคฺคสฺส วิปสฺสนินฺทฺริยานิ, โสตาปตฺติมคฺคสฺส จ เตหิ วิปสฺสนินฺทฺริเยหิ มุทุตรานิ เอกพีชิอาทีนํ มคฺคสฺส วิปสฺสนินฺทฺริยานิฯ

เอตฺถ จ เอกพีชีติอาทีสุ โย โสตาปนฺโน หุตฺวา เอกเมว อตฺตภาวํ ชเนตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ, อยํ เอกพีชี นามฯ ยถาห ‘‘กตโม จ ปุคฺคโล เอกพีชี, อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โสตาปนฺโน โหติ อวินิปาตธมฺโม นิยโต สมฺโพธิปรายโณ, โส เอกญฺเญว มานุสกํ ภวํ สนฺธาวิตฺวา สํสริตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กโรติฯ อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล เอกพีชี’’ติ (ปุ. ป. 33)ฯ

โย ปน ทฺเว ตโย ภเว สํสริตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กโรติ, อยํ โกลํโกโล นามฯ ยถาห ‘‘กตโม จ ปุคฺคโล โกลํโกโลฯ อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โสตาปนฺโน โหติ อวินิปาตธมฺโม นิยโต สมฺโพธิปรายโณ, โส ทฺเว วา ตีณิ วา กุลานิ สนฺธาวิตฺวา สํสริตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กโรติฯ อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล โกลํโกโล’’ติ (ปุ. ป. 32)ฯ ตตฺถ กุลานีติ ภวา เวทิตพฺพาฯ ‘‘ทฺเว วา ตีณิ วา’’ติ อิทํ เทสนามตฺตเมว, ยาว ฉฏฺฐภวา สํสรนฺโต ปน โกลํโกโลว โหติฯ

ยสฺส สตฺตกฺขตฺตุํ ปรมา อุปปตฺติ, อฏฺฐมํ ภวํ นาทิยติ, อยํ สตฺตกฺขตฺตุปรโม นามฯ ยถาห ‘‘กตโม จ ปุคฺคโล สตฺตกฺขตฺตุปรโมฯ อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โสตาปนฺโน โหติ อวินิปาตธมฺโม นิยโต สมฺโพธิปรายโณ, โส สตฺตกฺขตฺตุํ เทเว จ มนุสฺเส จ สนฺธาวิตฺวา สํสริตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กโรติ, อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล สตฺตกฺขตฺตุปรโม’’ติ (ปุ. ป. 31)ฯ

ภควตา คหิตนามวเสเนว เจตานิ เตสํ นามานิฯ ‘‘เอตฺตกญฺหิ ฐานํ คโต เอกพีชี นาม โหติ, เอตฺตกํ โกลํโกโล, เอตฺตกํ สตฺตกฺขตฺตุปรโม’’ติ ภควตา เอเตสํ นามํ คหิตํฯ นิยมโต ปน ‘‘อยํ เอกพีชี, อยํ โกลํโกโล, อยํ สตฺตกฺขตฺตุปรโม’’ติ นตฺถิฯ

โก ปน เนสํ เอตํ ปเภทํ นิยเมตีติ? เกจิ ปน เถรา ‘‘ปุพฺพเหตุ นิยเมตี’’ติ วทนฺติ, เกจิ ‘‘ปฐมมคฺโค’’, เกจิ ‘‘อุปริม ตโย มคฺคา’’, เกจิ ‘‘ติณฺณํ มคฺคานํ วิปสฺสนา’’ติฯ ตตฺถ ‘‘ปุพฺพเหตุ นิยเมตี’’ติ วาเท ปฐมมคฺคสฺส อุปนิสฺสโย กโต นาม โหติ, อุปริ ตโย มคฺคา อนุปนิสฺสยา อุปฺปนฺนาติ วจนํ อาปชฺชติฯ ‘‘ปฐมมคฺโค นิยเมตี’’ติ วาเท อุปริ ติณฺณํ มคฺคานํ นิรตฺถกตา อาปชฺชติฯ ‘‘อุปริ ตโย มคฺคา นิยเมนฺตี’’ติ วาเท ปฐมมคฺเค อนุปฺปนฺเนว อุปริ ตโย มคฺคา อุปฺปนฺนาติ อาปชฺชติฯ ‘‘ติณฺณํ มคฺคานํ วิปสฺสนา นิยเมตี’’ติ วาโท ปน ยุชฺชติฯ สเจ หิ อุปริ ติณฺณํ มคฺคานํ วิปสฺสนา พลวตี โหติ, เอกพีชี นาม โหติ, ตโต มนฺทตราย โกลํโกโล, ตโต มนฺทตราย สตฺตกฺขตฺตุปรโมติฯ

เอกจฺโจ หิ โสตาปนฺโน วฏฺฏชฺฌาสโย โหติ วฏฺฏาภิรโต ปุนปฺปุนํ วฏฺฏสฺมิํเยว วิจรติ สนฺทิสฺสติฯ อนาถปิณฺฑิโก เสฏฺฐิ, วิสาขา อุปาสิกา, จูฬรถมหารถา เทวปุตฺตา, อเนกวณฺโณ เทวปุตฺโต, สกฺโก เทวราชา, นาคทตฺโต เทวปุตฺโตติ อิเม หิ เอตฺตกา ชนา วฏฺฏชฺฌาสยา วฏฺฏาภิรตา อาทิโต ปฏฺฐาย ฉ เทวโลเก โสเธตฺวา อกนิฏฺเฐ ฐตฺวา ปรินิพฺพายิสฺสนฺติ , อิเม อิธ น คหิตาฯ น เกวลญฺจิเม, โยปิ มนุสฺเสสุเยว สตฺตกฺขตฺตุํ สํสริตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ, โยปิ เทวโลเก นิพฺพตฺโต เทเวสุเยว สตฺตกฺขตฺตุํ อปราปรํ สํสริตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ, อิเมปิ อิธ น คหิตาฯ กาเลน เทเว, กาเลน มนุสฺเส สํสริตฺวา ปน อรหตฺตํ ปาปุณนฺโตว อิธ คหิโตฯ ตสฺมา สตฺตกฺขตฺตุปรโมติ อิทํ อิธฏฺฐกโวกิณฺณสุกฺขวิปสฺสกสฺส นามํ กถิตนฺติ เวทิตพฺพํฯ

ธมฺมานุสารี สทฺธานุสารีติ เอตฺถ ปน อิมสฺมิํ สาสเน โลกุตฺตรธมฺมํ นิพฺพตฺเตนฺตสฺส ทฺเว ธุรานิ, ทฺเว สีสานิ, ทฺเว อภินิเวสา – สทฺธาธุรํ, ปญฺญาธุรํ , สทฺธาสีสํ, ปญฺญาสีสํ, สทฺธาภินิเวโส, ปญฺญาภินิเวโสติฯ ตตฺถ โย ภิกฺขุ ‘‘สเจ สทฺธาย สกฺกา นิพฺพตฺเตตุํ, นิพฺพตฺเตสฺสามิ โลกุตฺตรมคฺค’’นฺติ สทฺธํ ธุรํ กตฺวา โสตาปตฺติมคฺคํ นิพฺพตฺเตติ, โส มคฺคกฺขเณ สทฺธานุสารี นาม โหติฯ ผลกฺขเณ ปน สทฺธาวิมุตฺโต นาม หุตฺวา เอกพีชี โกลํโกโล สตฺตกฺขตฺตุปรโมติ ติวิโธ โหติฯ ตตฺถ เอเกโก ทุกฺขาปฏิปทาทิวเสน จตุพฺพิธภาวํ อาปชฺชตีติ สทฺธาธุเรน ทฺวาทส ชนา โหนฺติฯ

โย ปน ‘‘สเจ ปญฺญาย สกฺกา นิพฺพตฺเตตุํ, นิพฺพตฺเตสฺสามิ โลกุตฺตรมคฺค’’นฺติ ปญฺญํ ธุรํ กตฺวา โสตาปตฺติมคฺคํ นิพฺพตฺเตติ, โส มคฺคกฺขเณ ธมฺมานุสารี นาม โหติฯ ผลกฺขเณ ปน ปญฺญาวิมุตฺโต นาม หุตฺวา เอกพีชิอาทิเภเทน ทฺวาทสเภโทว โหติฯ เอวํ ทฺเว มคฺคฏฺฐา ผลกฺขเณ จตุวีสติ โสตาปนฺนา โหนฺตีติฯ

ติปิฏกติสฺสตฺเถโร กิร ‘‘ตีณิ ปิฏกานิ โสเธสฺสามี’’ติ ปรตีรํ คโตฯ ตํ เอโก กุฏุมฺพิโก จตูหิ ปจฺจเยหิ อุปฏฺฐาสิ, เถโร อาคมนกาเล ‘‘คจฺฉามิ อุปาสกา’’ติ อาหฯ ‘‘กหํ ภนฺเต’’ติ? ‘‘อมฺหากํ อาจริยุปชฺฌายานํ สนฺติก’’นฺติฯ ‘‘น สกฺกา, ภนฺเต, มยา คนฺตุํ, ภทฺทนฺตํ ปน นิสฺสาย มยา สาสนสฺส คุโณ ญาโต, ตุมฺหากํ ปรมฺมุขา กีทิสํ ภิกฺขุํ อุปสงฺกมามี’’ติ? อถ นํ เถโร อาห – ‘‘โย ภิกฺขุ จตุวีสติ โสตาปนฺเน ทฺวาทส สกทาคามี อฏฺฐจตฺตาลีส อนาคามี ทฺวาทส อรหนฺเต ทสฺเสตฺวา ธมฺมกถํ กเถตุํ สกฺโกติ, เอวรูปํ ภิกฺขุํ อุปฏฺฐาตุํ วฏฺฏตี’’ติฯ อิมสฺมิํ สุตฺเต วิปสฺสนา กถิตาติฯ

5-10. สุทฺธกสุตฺตาทิวณฺณนา

[495-500] ปญฺจเม จกฺขุ จ ตํ จกฺขุทฺวาเร นิพฺพตฺตานํ ธมฺมานํ อาธิปเตยฺยสงฺขาเตน อินฺทฏฺเฐน อินฺทฺริยญฺจาติ จกฺขุนฺทฺริยํฯ โสตินฺทฺริยาทีสุปิ เอเสว นโยฯ เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวฯ อิมสฺมิํ วคฺเค ปฐมสุตฺตญฺเจว ฉฏฺฐาทีนิ จ ปญฺจาติ ฉ สุตฺตานิ จตุสจฺจวเสน กถิตานีติฯ

ฉฬินฺทฺริยวคฺโค ตติโยฯ

4. สุขินฺทฺริยวคฺโค